ซีกวงโบกมืออย่างหมดความอดทน “เร็วๆ เข้าเถอะ ฉวยโอกาสตอนที่ฟ้าจวนมืดนี่แหละ รีบเร่งมือเร็วเข้า”
ขณะที่สองมังกรเคลื่อนตัวไปเบื้องหน้าอย่างอิดๆ ออดๆ อยู่นั้น พวกมันก็มองเห็นฉยงฉีที่นั่งยองๆ กำลังอุ้มเนื้อขึ้นแทะอย่างบ้าคลั่งพอดี ดวงตาของพวกมันพลันฉายโทสะ เชิดศีรษะขึ้นแผดคำรามใส่ทันที
ฉยงฉีตระหนกจนทำเนื้อร่วงหล่น พอเงยศีรษะขึ้นเห็นมังกรสองตัวหมอบขวางอยู่เบื้องหน้า เส้นขนทั่วร่างเล็กพลันชี้ชันทันใด มันเกร็งลำตัวแยกเขี้ยวขู่พูพูเสียงต่ำ
ซีกวงรีบรุดขึ้นหน้ามาขวางอยู่ตรงกลางแล้วเอ่ยโน้มน้าวมังกรของตน “เอาล่ะๆ ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก ตอนนี้มันไม่มีปัญญาจะก่อเรื่องอะไรแล้ว รีบช่วยคนก่อนเร็วเข้า นั่นคือจ่งเสินเชียวนะ!”
สองมังกรเก็บสีหน้าดุร้ายกลับคืนมา ก่อนจะพร้อมใจกันชะโงกศีรษะเข้าไปยลโฉมของเฟิงจง ดวงหน้าแดงซ่านนั้นเยาว์วัยอ่อนต่อโลก เห็นชัดว่าเป็นดวงหน้าของสาวน้อยนางหนึ่ง ใช่จ่งเสินผู้งามอย่างมองมิรู้หน่ายตามคำเล่าลือที่ใดกัน
พวกมันแลกเปลี่ยนสายตากันแวบหนึ่งก็เหาะวนขึ้นไปเหนือหลังคาโดยไม่แสดงสีหน้าอาการ กลั่นเมฆโปรยฝนไปพลาง เอาหัวชนกันและสนทนาประสามังกรไปพลาง “ตงจวินของพวกเราอยากจะมีทายาทจนฟั่นเฟื่อนแล้วใช่หรือไม่ เจอมนุษย์คนหนึ่งยังเห็นเป็นจ่งเสินไปเสียได้”
“ก็นั่นน่ะสิ! ตงจวินต้องถูกพวกใจร้อนเหล่านั้นชักนำให้เสียคนเป็นแน่…หืม? ช้าก่อน มนุษย์หรือ!”
เสียงพูดของมังกรขาดหายไปทั้งอย่างนั้น มังกรตัวที่สำลักน้ำฝนพลันจามหนึ่งหน ทำเอาฉยงฉีที่อยู่เบื้องล่างสะดุ้งเฮือกทำเนื้อหล่นเป็นรอบที่สอง มันเต้นผางด้วยความขุ่นแค้น ซีกวงเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองปราดหนึ่ง “อย่ามัวแต่วิพากษ์วิจารณ์กัน เร่งมือทำงานไป!”
ยากนักที่สองมังกรจะได้เห็นตงจวินเคร่งขรึมจริงจังถึงเพียงนี้ พวกมันนึกว่าบทสนทนานี้ถูกได้ยินเข้าแล้วจึงรีบเงียบเสียง โปรยฝนไปโดยไม่สนทนากันอีก
แท้จริงแล้วที่ซีกวงทำเช่นนี้นับว่าเสี่ยงอยู่บ้าง ทว่านี่ก็เป็นเพราะเขาอับจนหนทางอื่นแล้วจริงๆ
มังกรเขียวสองตัวนี้ของเขามิใช่ธรรมดา ด้วยหน้าที่รับผิดชอบของตงจวิน มังกรเทียมรถจึงต้องไม่หวั่นเกรงต่อความร้อนของเปลวสุริยะ พวกมันสองตัวมีพลังธาตุน้ำโดยกำเนิดซึ่งเหนือกว่าพญามังกรเจ้าสมุทรเสียอีก ประกอบกับภายในกายของพวกมันเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง น้ำฝนที่พวกมันโปรยปรายออกมาจึงมีความเย็นยิ่งกว่า ทั้งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายคน นี่จึงเป็นวิธีลดทอนอัคคีอันร้อนระอุในร่างของเฟิงจงได้รวดเร็วที่สุดในเวลานี้แล้ว
เห็นผืนฟ้าจวนจะมืดมิดลง ชั่วเวลาหนึ่งเค่อกำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ทว่าตอนนี้เองซีกวงพลันสัมผัสได้ถึงพลังปราณของเทพเซียน หัวใจของเขาหดเกร็งในทันที ทว่ายามนี้ไม่อาจยุติการโปรยฝนนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ชวนให้เขาปวดศีรษะยิ่งนัก