บทที่ห้า
แดนฮุ่นตุ้นตั้งอยู่ชายขอบของพิภพทั้งสาม แต่ละพิภพจะมีทางเข้าแดนฮุ่นตุ้นที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งทางเข้าระหว่างพิภพมนุษย์กับแดนฮุ่นตุ้นตั้งอยู่บริเวณสุดเขตประจิม
หากเฟิงจงเดินไปเอง เกรงว่าเวลาสามถึงห้าปีก็ยังไม่แน่ว่าจะไปถึง ทว่าสำหรับเทพเซียนแล้วนี่กลับเป็นเรื่องชั่วดีดนิ้วมือเท่านั้น ทันทีที่อำลาหลงต้ากับหลงเอ้อร์ ซีกวงก็เรียกก้อนเมฆมา แล้วนำพาหนึ่งมนุษย์กับหนึ่งสัตว์อสูรเหาะเหินไปอย่างรวดเร็ว
ณ สุดเขตประจิมมีขุนเขาสูง มีเขาลูกหนึ่งที่เป็นช่องผาขาดซึ่งถูกเรียกว่าผาตัดชีพ ที่นั่นก็คือที่ตั้งของทางเข้าสู่แดนฮุ่นตุ้น ซีกวงขี่เมฆร่อนลงบนยอดผาขาด ก่อนจะเอ่ยขึ้นหนึ่งประโยค “ถึงแล้ว”
กาลก่อนเฟิงจงนึกไม่ออกว่านางเคยเข้าสู่แดนฮุ่นตุ้นจากทางพิภพมนุษย์ หรือต่อให้เคยเข้าไปนางก็จดจำไม่ได้แล้ว ตอนนี้นางจึงยังสับสนมึนงงอยู่ “นี่ถึงแล้วหรือ”
ซีกวงจับฉยงฉียัดใส่อ้อมอกของนางแล้วกำชับหนึ่งประโยค “อุ้มมันให้แน่นล่ะ” จบคำเขาก็ยื่นมือมาโอบนางเข้าสู่อ้อมกอด จากนั้นพลันเหินร่างกระโดดลงจากช่องผาขาด
ข้างหูเฟิงจงมีเสียงลมดังอื้ออึง ซีกวงกอดนางกระชับแนบแน่น ทางหนึ่งนางหลับตาตั้งสติ ด้วยกลัวว่าหากเขาคลายมือจากนางแม้เพียงนิด นางก็มีโอกาสที่จะถูกความเร็วระดับนี้เหวี่ยงกระเด็นจนหาศพไม่พบ อีกทางหนึ่งนางก็กระชับวงแขนให้แน่นยิ่งขึ้น ป้องกันไม่ให้ฉยงฉีในอ้อมอกถูกเหวี่ยงหลุดออกไป
ชั่วครู่ให้หลังนางก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสารพัด ทั้งเทพ สัตว์เทพ สัตว์อสูร เซียน และปีศาจล้วนมีอยู่ครบถ้วน ความเร็วในการร่วงลงก็เริ่มผ่อนช้าลง เมื่อเฟิงจงลืมตาขึ้นอีกครั้ง ซีกวงในอาภรณ์สีดำปลิวไสวก็โอบนางลอยพลิ้วลงสู่พื้นแล้ว
เบื้องหน้ามีเพียงไอหมอกเทาสลัวลอยอยู่ทั่วบริเวณ ซีกวงกล่าว “จากที่นี่เดินตรงไปก็เป็นแดนฮุ่นตุ้นแล้ว ความจริงพื้นที่ของแดนฮุ่นตุ้นยังกว้างใหญ่ยิ่งกว่าพิภพมนุษย์เสียอีก การไปทะเลเขี้ยวพิโรธจึงไม่ใช่ใกล้ๆ เลย”
แท้จริงแล้วระยะทางใกล้ไกลนั้นมิใช่ปัญหา เป็นอันตรายจากเส้นทางเหล่านั้นต่างหากที่จะทำให้พวกเขาเสียเวลามากที่สุด
เฟิงจงเดินไปหยุดมองอยู่ที่เบื้องหน้าไอหมอก “เกรงว่าแดนฮุ่นตุ้นในตอนนี้กับในภาพความทรงจำตอนนั้นของข้าคงจะแตกต่างกันมากแล้ว หากมีอะไรที่ต้องระมัดระวัง เจ้าก็แจ้งข้าแต่เนิ่นๆ ด้วย”
“ไม่ว่าอะไรก็ต้องระมัดระวังทั้งนั้นล่ะ” ซีกวงหัวเราะก่อนจะแหวกไอหมอกเดินนำเข้าไป
ฉยงฉีชื่นชอบกลิ่นอายปีศาจร้ายเข้มข้นที่อยู่ภายในแดนฮุ่นตุ้น มันจึงขยุกขยิกอยู่ในอ้อมอกของเฟิงจง แสดงอาการอดใจรอไม่ไหวอยู่บ้าง เฟิงจงกดศีรษะของมันไว้พลางเดินตามหลังซีกวงเข้าสู่ไอหมอกนั้นไปติดๆ ยามที่เพิ่งจะทะลุผ่านเข้ามา ดวงตานางก็ถูกแสงสว่างเบื้องหน้าทำให้ตาพร่าลายแล้ว นางยกมือขึ้นบังไว้ถึงค่อยๆ ปรับสายตาได้