“เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากันแน่”
ฉยงฉีกระโดดพรวดขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่อาจทำใจยอมรับได้ ครานี้มันใช้อุ้งเท้าดึงแขนของนางไปด้านหลังอย่างไม่ลดละ พอเฟิงจงหันหน้าไปด้านหลังก็ต้องตื่นตกใจอย่างมาก รีบกดตัวมันพร้อมกับหมอบร่างของตนลงทันที
ลูกธนูคมกริบดอกหนึ่งแหวกอากาศมาถึงพร้อมเสียงหวีดหวิวอันแหลมเล็ก มันแฉลบถากแผ่นหลังของเฟิงจงไป นางรู้สึกเจ็บแปลบที่แผ่นหลัง คาดว่าอาภรณ์สวรรค์คงถูกกรีดขาดเป็นรูแล้ว
ครั้นก้มหน้ามองลงไปก็พบเงาดำทะมึนหลายสายเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางดงไม้เบื้องล่าง ความเร็วของเงาเหล่านั้นเทียบเคียงกับอาชาเหินได้ทีเดียว พร้อมกันนั้นนางก็ได้ยินเสียงหนึ่งตะโกนก้อง “หาพบแล้ว! ไต้อ๋อง กล่าวไม่ผิดเลย มีมนุษย์ผู้หนึ่งบุกรุกเข้ามาจริงๆ”
เฟิงจงกระทุ้งท้องม้าทันใด ส่งผลให้สองปีกของอาชาเหินพลันกระพือขึ้นสูง
เบื้องล่างยิงลูกธนูขึ้นมาอีกดอก นางรีบเบี่ยงกายหลบหลีก ไม่ทันคิดว่าลูกธนูดอกนั้นจะพุ่งเป้ามายังอาชาเหิน จึงยิงถูกท้องของมันตรงๆ
อาชาเหินแผดเสียงร้องโหยหวนก่อนจะสลายไปในชั่วพริบตา ใต้ร่างของเฟิงจงว่างเปล่า ร่างนางพลันร่วงดิ่งลงไปทันใด โชคยังดีที่ไม่ตกกระแทกพื้น หากแต่หล่นอยู่บนยอดไม้ที่ดูคล้ายร่มใหญ่ต้นหนึ่งอย่างพอดิบพอดี กระนั้นความเร็วที่สาวน้อยร่วงลงก็เร็วอยู่ ทำเอากระดูกทั่วร่างนางคล้ายจะหลุดออกจากกันทีเดียว
ฉยงฉีที่ตกอยู่ด้านข้างร้องพูพูไม่หยุดปาก เฟิงจงพลันรู้สึกว่าต้นไม้ใต้ร่างตนเองขยับไหว นางจึงทนเจ็บแล้วลุกขึ้นนั่งทันที เห็นทั้งกิ่งและใบบนยอดไม้พากันม้วนจากด้านนอกเข้าหาด้านในคล้ายต้องการจะห่อหุ้มนางไว้ในนี้ ก็รีบคว้าตัวฉยงฉีแล้วพุ่งตัวกระโดดลงพื้นโดยไม่รั้งรอ
รอบด้านคือต้นไม้ที่บิดตัวเริงระบำประหนึ่งเป็นคน ทั้งเสียงร้องตะโกนของกองกำลังที่ไล่หลังก็ประชิดเข้ามาทุกขณะด้วยความเร็วที่สูงยิ่ง หากนางยังวิ่งต่อไปเช่นนี้จะต้องหนีไม่รอดแน่ๆ
เมื่อเล็งหาหินก้อนใหญ่ที่ขวางทางอยู่เบื้องหน้าได้ก้อนหนึ่ง เฟิงจงก็วิ่งปราดไปนั่งยองอยู่หลังหินก้อนนั้นในอึดใจเดียว นางวางฉยงฉีลงแล้วหยิบกล่องหุ้มแพรที่ซีกวงมอบให้ใบนั้นออกจากแขนเสื้อมารื้อดูของด้านใน กระทั่งค้นเจอยาลูกกลอนสีดำสนิทมาหนึ่งเม็ด พอหยิบออกมาสูดดมที่ใกล้ปลายจมูก ในใจนางก็พลันยินดีปรีดา จับฉยงฉีง้างปากแล้วยัดยาลูกกลอนเข้าไปทันที
“ต้องอยู่แถวนี้แน่ๆ ค้นหาให้ดีๆ”
เสียงของกองกำลังที่ไล่ล่าพวกนางใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว เฟิงจงถึงกับได้กลิ่นของพวกมัน ทั้งหมดล้วนเป็นปีศาจภูเขา ไม่รู้ว่าไต้อ๋องที่พวกมันเอ่ยถึงเป็นผู้ใดกัน นับแต่โบราณมาแดนฮุ่นตุ้นก็เป็นสถานที่อันไร้ระเบียบ เฉกเช่นเม็ดทรายที่ไม่อาจรวมตัวกัน เป็นผู้ใดกันที่สามารถตั้งตนเป็นอ๋องจอมอหังการในที่แห่งนี้ได้
เสียงพูดยังไม่ทันขาดคำ ปีศาจภูเขาที่ว่องไวดุจเงาก็พุ่งตัวมาถึงบริเวณใกล้เคียงแล้ว พวกมันมีรูปร่างหน้าตาคล้ายมนุษย์ยิ่งนัก ในมือแต่ละตนถือคันศรกับลูกธนู มีรอยสักบนใบหน้า เผ้าผมปล่อยสยาย บนร่างของเฟิงจงมีข่ายอาคมที่ซีกวงวางไว้ก่อนหน้านี้ พวกมันจึงสูดดมไม่พบกลิ่นอายของนาง ได้แต่เสาะหาไปทีละจุด ไม่ช้าพวกมันก็มองเห็นหินใหญ่นี้แล้ว
ขณะกำลังจะเข้าไปใกล้ เบื้องหลังหินใหญ่ก็พลันบังเกิดเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดังกึกก้องขึ้น พร้อมกันนั้นสัตว์ร่างใหญ่ที่มีสีขาวหิมะทั้งตัวก็กระโจนขึ้นไปบนหินใหญ่ บนแผ่นหลังของมันมีสาวน้อยชุดสีขาวร่างเล็กอ้อนแอ้นนั่งอยู่ผู้หนึ่ง นางกำลังก้มมองพวกมันจากที่สูงด้วยแววตาเย็นชา