บทที่หก
“ไม่ได้นะไต้อ๋อง!” หลิ่วเซิงก็ร้อนใจแล้วเช่นกัน
เฟิงจงไม่เอ่ยตอบ ฉวยตอนที่ยามนี้มีเสียงเอะอะดังขึ้น นางพลันโยนฉยงฉีในมือไปบนร่างของหลิ่วเซิง ฉยงฉีที่นางเพิ่งแอบป้อนยาลูกกลอนให้หนึ่งเม็ดขยายร่างขึ้นในพริบตา ชนกระแทกหลิ่วเซิงจนร่วงลงพื้นไปไม่พอ มันยังกระทืบอีกหนึ่งเท้าเหยียบร่างของเขาไว้ด้วย ขณะเดียวกันนางเองก็พลิกฝ่ามืออีกครา ส่งเชือกที่เล็กบางเส้นหนึ่งลอยไปรัดตัวไต้อ๋องเซียนจิ้งจอกผู้นั้นไว้อย่างแน่นหนา
ไต้อ๋องเซียนจิ้งจอกผละถอยไปหลายก้าว ใบหน้าฉาบด้วยความเขินอายระคนขุ่นเคือง “ชอบเล่นเชือก? ไม่เพียงเป็นหญิงที่มีหูตาแพรวพราวเท่านั้น เจ้ายังมีความชื่นชอบเยี่ยงนี้ด้วย!”
“ไต้อ๋อง ท่านไม่เป็นไรกระมัง!” หลิ่วเซิงอยากไปช่วยแต่ก็จนปัญญา อาการช้ำในที่ถูกฟางจวินเยี่ยเล่นงานกลับมากำเริบอีกแล้ว นอกจากเขาจะไม่อาจหลุดออกมาจากใต้ฝ่าเท้าของสัตว์ร่างใหญ่โตนี้ได้ มุมปากก็ยังมีเลือดซึมออกมาด้วย เขาจึงได้แต่ถลึงตาใส่เฟิงจงอย่างเคียดแค้น “แม่นาง ที่แท้เจ้าก็วางแผนร้ายมาก่อนแล้ว หากไม่อยากตายก็จงรีบปล่อยไต้อ๋องของข้าโดยเร็ว!”
เหล่าปีศาจภูเขารีบรุดจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่พอเห็นเฟิงจงยื่นท่อนกระดูกในมือไปจ่อที่ลำคอไต้อ๋องของพวกมันแล้ว พวกมันก็ชะงักเท้าไปพร้อมกันทันใด ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าผลีผลาม
เฟิงจงชายตามองไต้อ๋องเซียนจิ้งจอก “เชือกมัดเซียนนี้มีแต่ข้าที่สามารถคลายออกได้ จงคืนถุงฟ้าดินของข้ามา แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
ไต้อ๋องเซียนจิ้งจอกเอ่ย “ข้าไต้อ๋องไม่มีถุงฟ้าดินของเจ้าหรอก แต่ถึงมีก็ไม่คืนให้ เจ้าอย่าได้ปล่อยตัวข้าออกไปเชียว”
เฟิงจงออกแรงที่มือ ท่อนกระดูกซึ่งจรดอยู่บนลำคอสีขาวหิมะของเขาก็ทิ่มลงไปจนเห็นรอยเลือด
หลิ่วเซิงทนเจ็บ แล้วเค้นเสียงตะโกนขึ้นทันที “ข้าคืน! ข้าคืนให้แล้ว! อย่าได้ทำร้ายไต้อ๋องของข้า!” เขาพูดพลางควักถุงฟ้าดินออกจากอกเสื้อด้วยสีหน้าไม่ยินยอม
เฟิงจงจรดนิ้วทำมุทรา ฉยงฉีก็คาบถุงฟ้าดินไว้แล้วส่งมาให้ถึงมือนาง ตอนนี้นางถึงได้ขยับท่อนกระดูกห่างออกมาจากลำคอไต้อ๋องเซียนจิ้งจอกเล็กน้อย ดึงตัวเขาถอยไปยังทิศทางของปากถ้ำ
หลิ่วเซิงเอ่ยด้วยโทสะ “ยังไม่รีบปล่อยไต้อ๋องอีก!”
รอจนถอยไปถึงปากถ้ำ เฟิงจงก็ผลักไต้อ๋องเซียนจิ้งจอกไปข้างหน้า ทางหนึ่งทำมุทราเรียกตัวฉยงฉีกลับมา อีกทางก็กลับหลังหันแล้วออกวิ่งทันใด
เหล่าปีศาจภูเขารีบประคองรับไต้อ๋องเอาไว้ ขณะเดียวกันฤทธิ์ยาในร่างฉยงฉีก็หมดลงพอดี มันพลิกตัวไม่กี่รอบก็หดเหลือตัวเล็กจ้อย ลอดผ่านกลุ่มปีศาจภูเขา วิ่งตามเฟิงจงไปอย่างแคล่วคล่องว่องไว
พอหลิ่วเซิงกุมหน้าอกคลานลุกขึ้นมาได้ เขาก็เรียกระดมเหล่าปีศาจภูเขาหมายไล่ตามเฟิงจงออกไป ทว่ากลับได้ยินไต้อ๋องของตนเอ่ยขึ้นประโยคเดียวว่า “ช่างเถอะ”
หลิ่วเซิงหยุดฝีเท้าหันขวับมาก็เห็นไต้อ๋องของเขาเพียงสะบัดร่างอย่างผ่อนคลาย เชือกมัดเซียนก็ร่วงหล่นกับพื้นแล้ว