อี๋อวี้กระจ่างแจ้งแล้วนึกพรั่นใจระลอกหนึ่งทันใด ต่อหน้าผู้อื่นจ่างซุนซีวางตัวห่างเหินกับหลี่ไท่ แต่ลับหลังตั้งหน้าตั้งตาเข้ามาแทรกกลางระหว่างตนกับหลี่ไท่ เริ่มแรกนางยังมีความระวังระไว หาได้รู้ไม่ว่าหลี่ไท่แค่คล้อยตามนางนิดๆ หน่อยๆ ก็ทำให้นางย่ามใจและลดความระแวงลง ถ้าหลี่ไท่ใจดำมากพอ ทำแบบนี้อีกหนสองหน ก็จะสามารถผลักหญิงงามล้ำหล้าผู้นี้ลงสู่หุบเหวลึกหมื่นจั้งได้แล้ว
หลี่ไท่นั้นหมายปองบัลลังก์และกำลังจะตบแต่งนางเป็นชายา เท่ากับยืนอยู่คนละข้างกับสกุลจ่างซุนแล้ว เขากระทำสิ่งที่เหมือนตบหน้าชาวสกุลจ่างซุนฉาดใหญ่เช่นนี้ กลับไม่มีคนหาเรื่องค่อนแคะได้สักนิด
อี๋อวี้มองบุรุษตรงหน้าอย่างเหม่อลอย อารมณ์หึงหวงก่อนหน้ามลายหายวับไป ในเพลานี้นางถึงกับบังเกิดความเห็นอกเห็นใจจ่างซุนซีอย่างน่าขัน
หลี่ไท่คิดไปถึงเรื่องใดก็สุดรู้ เขาชำเลืองมองไปทางซี่หน้าต่าง แววอ่อนโยนในดวงตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทีละน้อย ไม่รู้ว่าเขาพูดกับตนเองหรืออี๋อวี้
“การผูกไมตรีในใต้หล้านี้ล้วนหนีไม่พ้นการใช้เป็นเครื่องมือ แตกต่างกันที่บางคนประจักษ์ดีว่าเวลาไหนสมควรใช้ประโยชน์จากใคร แต่บางคนกลับไม่ล่วงรู้ถึงอันตรายของมัน”
อี๋อวี้มองดูดวงหน้าที่ทั้งแปลกตาทั้งคุ้นตานี้ของชายหนุ่ม อดนึกไปถึงคำกล่าวของเหยาอีตี๋กลางสายฝนวันนั้นไม่ได้ นางรู้เสมอมาว่าหลี่ไท่ไม่ใช่คนดีตามความหมายทั่วไป คนผู้นี้เลือดเย็น แล้งน้ำใจ และโหดร้าย บางทีเหยาอีตี๋อาจพูดถึงหลี่ไท่ได้แม่นยำเก้าส่วน หรือบางทีนางอาจเคยเห็นหลี่ไท่เพียงส่วนเดียว กระนั้นสำหรับนางแล้ว หนึ่งส่วนนี้กับเก้าส่วนนั้นล้วนเป็นหลี่ไท่ก็เพียงพอแล้ว
“ท่านเคยสนิทสนมกับพวกชาวสกุลจ่างซุนมิใช่หรือเจ้าคะ” อาจเป็นได้ว่าคำพูดของหลี่ไท่ช่วยสร้างความมั่นใจให้นางได้ ดังนั้นในเมื่อถามแล้ว นางก็ถามเสียให้พอในคราวเดียว
“สนิทสนม?” หลี่ไท่เบือนหน้ามา เขาหยุดเว้นจังหวะคล้ายใคร่ครวญความนัยของคำนี้ “ใครบอกกับเจ้าว่าข้าสนิทสนมกับพวกเขา”
อี๋อวี้ไม่กล้าบอกชื่อเฉิงเสี่ยวเฟิ่ง นางเบะปากกล่าว “ทักษะหมากล้อมของคุณหนูสาม ท่านเป็นคนสอนไม่ใช่หรือ”
หลี่ไท่มองนางปราดหนึ่ง “ตอนนั้นที่ข้าพาพวกเจ้าแม่ลูกจากสู่จงกลับมาด่านใน ได้รับพิษฝันร้ายก็เลยพักรักษาตัวในอุทยานซิ่งหยวน เวลาเบื่อหน่าย ย่อมต้องหาอะไรทำฆ่าเวลาอย่างช่วยไม่ได้”
อี๋อวี้ได้ยินเขาพูดสั้นๆ ง่ายๆ ทุกถ้อยคำ เป็นการบ่งบอกว่าไม่เคยมีเยื่อใยไมตรีใดๆ ในอดีตกับจ่างซุนซีจริงๆ ส่วนลึกของจิตใจย่อมยินดีปรีดาเป็นธรรมดา นางจึงมีแก่ใจสัพยอกเขา
“แล้วตอนนั้นท่านสอนข้าเดินหมากยิงธนูในคฤหาสน์ลับคงเป็นการฆ่าเวลาเช่นกันสินะ”
“ไม่ใช่” หลี่ไท่ปฏิเสธทันที เขาหวนรำลึกช่วงเวลานั้นด้วยสีหน้าเป็นปกติ ก้มหน้าลงมองนาง “ว่าไปแล้วก็น่าแปลกโดยแท้ แต่ไรมาข้าไม่ชมชอบสุงสิงกับใคร กลับพึงใจที่ได้ใกล้ชิดเจ้า”