อี๋อวี้อายจนหูแดงเพราะคำกล่าวนี้ ถ้อยวาจาจากปากเขาทำให้นางรู้สึกว่าตนเองแตกต่างจากคนอื่น พาความหวานชื่นเอ่อท้นหัวใจ นางส่งเสียงอือออในลำคอแล้วหลุดปากอย่างใจกล้า “ข้าก็ไม่ชมชอบให้ท่านใกล้ชิดกับคนอื่น ท่านอย่าทำอย่างนั้นกับคุณหนูจ่างซุนอีกได้หรือไม่เจ้าคะ”
“อื้อ”
ไหนเลยจะรู้ว่าเขาจะรับคำโดยไม่กะพริบตา อันที่จริงนางพูดออกมาแล้วเสียใจทีหลังทันควัน หลี่ไท่เป็นใคร นางแจ่มแจ้งดีที่สุด บุรุษที่ยึดมั่นกับเป้าหมายอย่างแรงกล้าผู้หนึ่ง การบอกให้เขาปล่อยมือจากการค้าขายที่มีแต่ได้ไม่มีเสียนั้นเป็นไปไม่ใคร่ได้ ด้วยเหตุนี้มีกระแสอารมณ์ผิดแปลกไปไหลรินผ่านใจหญิงสาว ชั่ว ณ เวลานี้นางเพิ่งทำความเข้าใจกับถ้อยคำที่หลี่ไท่พูดเพื่อสร้างความมั่นใจให้นางอย่างถ่องแท้เป็นคราแรก ตรงกลางอกอุ่นผะผ่าวละม้ายได้ผิงกองไฟ ปมค้างคาในความสัมพันธ์ระหว่างกันล้วนคลี่คลายในอึดใจ
“พูดจริงนะเจ้าคะ ห้ามบิดพลิ้ว”
หลี่ไท่เห็นรอยยิ้มที่กลั้นไม่อยู่บนหน้านาง แม้นยังซีดเซียวอิดโรย แต่สีหน้าดีขึ้นมาก เขาส่ายหน้าตอบ “ไม่”
นี่ก็ไม่มีอะไรน่าบิดพลิ้ว ถ้ารู้มาก่อนว่านางเกลียดชังเรื่องพรรค์นี้ถึงเพียงนี้ เขาคงไม่ทำแต่แรกจนเป็นต้นเหตุให้นางล้มป่วยหนนี้ กลับส่งผลเสียมากกว่า
อี๋อวี้ดีอกดีใจครู่หนึ่งแล้วหุบยิ้ม เล่าเหตุการณ์ที่พบเหยาอีตี๋นอกหอจวินจื่อในวันประชันศาสตร์เขียนอักษรให้หลี่ไท่ฟัง ยกเว้นเรื่องเจ้าหนุ่มนั่นแทะโลมตนกับคำนินทาว่าร้ายหลี่ไท่แล้ว นางบอกจนหมดโดยไม่กริ่งเกรงเลี่ยงหลบรวมถึงที่เขาพูดว่าสาเหตุการตายของตงฟางหมิงจูมาจากหลี่ไท่
หลี่ไท่ฟังแล้วสงบนิ่งมาก มีเพียงสายตาที่มองอี๋อวี้แฝงรอยลังเลอยู่บ้าง ครั้นนางสังเกตเห็นก็ชั่งใจชั่วครู่ก่อนกล่าว “ข้าแค่บอกกับท่าน เสียงเล่าลือในเมืองหลวงแพร่สะพัดรวดเร็ว ใครจะรู้ว่าวันหน้าจะถูกประณามหรือไม่ พวกเราระวังป้องกันไว้ก่อนเป็นการดี ไม่ว่าอย่างไร คนก็ตายไปแล้ว ท่านไม่อยากเอ่ยถึง เช่นนั้นพวกเราก็ไม่พูดถึงนาง”
นางไม่ค่อยอยากสนทนาเรื่องของตงฟางหมิงจูเช่นกัน ด้วยรู้สึกไม่วายว่าตนติดค้างสตรีนางนั้น จะอย่างไรอีกฝ่ายกับหลี่ไท่มีสัญญาหมั้นหมายกันก่อน จนใจที่ตงฟางหมิงจูลาลับจากโลกนี้ไป คงได้แต่รองานมงคลเสร็จสิ้น นางค่อยจุดธูปเซ่นไหว้ทุกวันชิงหมิง* ถือเป็นการปลอบประโลมดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ
“ตงฟางหมิงจูยังไม่ตาย”
“เอ๊ะ?” อี๋อวี้ตกตะลึง
“ตงฟางโย่วเป็นคนของป้อมปราสาทแดง แต่มิใช่สกุลเดียวกัน ส่วนตงฟางหมิงจูแท้จริงแล้วเป็นบุตรสาวลับๆ ของธิดาเผ่ากับตงฟางโย่ว ศพในพิธีส่งศพวันนั้นเป็นตัวปลอม ตงฟางหมิงจูตัวจริงถูกรับกลับป้อมปราสาทแดงไปแล้ว”
เพราะตกใจเกินไป อี๋อวี้จึงนิ่งงันไปนานสองนานกว่านางจะค้นหาเสียงตนเองพบ
“ประเดี๋ยวก่อน ท่านรู้ตั้งแต่เมื่อไรเจ้าคะ”
“…สามปีที่แล้ว”
เพราะเขารู้ว่าธิดาเผ่าของป้อมปราสาทแดงล้ำค่าปานใด ดังนั้นตอนเลือกชายา เขาเลยมั่นใจได้ว่าตงฟางหมิงจูไม่มีวันได้แต่งเข้าวังเว่ยอ๋อง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 06 พ.ค. 63