Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน
ทดลองอ่าน Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน บทที่ 1
“ไหนดูซิ…”
ยองซอแบมือและเริ่มพับนิ้วลงทีละนิ้ว
“อีมินอู พ่อหนุ่มคนที่เธอแอบชอบชวนไปกินมื้อเที่ยง แต่กลับพาแฟนมาแนะนำให้รู้จักโดยไม่บอกไม่กล่าว และร้านไก่ทอดของพ่อแม่ที่กำลังจะไปได้ดี แต่ธุรกิจต้องมาสะดุดเพราะไข้หวัดนก เธอเลยต้องช่วยจ่ายค่าเช่าให้ใช่ไหม”
“อื้ม แถมเงินกู้ที่บริษัทก็กองโตอย่างกับภูเขา”
ฮารีพูดอย่างเศร้าสร้อยและพับนิ้วของยองซออีกหนึ่งนิ้ว
“ฉันจะเริ่มทำงานพาร์ตไทม์แล้ว ทีนี้คงต้องใช้ชีวิตทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำโดยไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์”
เมื่อฮารีพับนิ้วลงอีกหนึ่งนิ้ว ยองซอก็หรี่ตามอง
“เธออย่าเอาเรื่องน่าห่อเหี่ยวใจมารวมกันแบบนี้ได้ไหม เรื่องมันยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนี่นา”
“ก็มันเป็นความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้น่ะสิ”
“แต่อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนมาเลี้ยงเหล้าให้เธอฟรีๆ แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
ยองซอยกนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีหนึ่งในห้านิ้วที่ยังคงเหลืออยู่ ฮารีจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย
“แต่ฉันยังไม่ได้ดื่มสักแก้วเลยนะ”
“ต้องรอให้กับแกล้มมาก่อนแล้วค่อยดื่มสิ”
“ดื่มระหว่างรอกับแกล้มก็ได้นี่นา”
ยองซอหรี่ตามองฮารีอีกครั้ง
“ถ้าเธอดื่มทั้งที่ไม่มีกับแกล้มตอนกลางวันแสกๆ จนเมาเละเทะขึ้นมา แล้วมันจะลำบากใคร”
“เพื่อนมีเรื่องห่อเหี่ยวใจเกินสามเรื่องขนาดนี้ก็ต้องเมาเละเทะบ้างแหละน่า แค่นี้ทำให้ฉันไม่ได้หรือไง”
“เรื่องค่าเหล้าน่ะฉันช่วยได้ แต่เรื่องอื่นยังไงก็ไม่ได้ ถ้าเธออ้วกมาโดนเสื้อฉันจะทำยังไง”
ยองซอจับบริเวณไหล่ของเสื้อและขยับไปมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแบรนด์เนม
ยองซอเป็นลูกสาวคนเดียวของประธานบริษัทยองจิน การที่ทั้งสองสนิทสนมกันมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายมาจนถึงอายุยี่สิบเจ็ดปีโดยที่ไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียวก็เรื่องหนึ่ง แต่การที่เพื่อนเศรษฐีคนนี้ไม่เคยทิ้งฮารีผู้ที่เกิดมาในครอบครัวธรรมดาก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่สุดในชีวิตของฮารี อย่างไรก็ตามการมีเพื่อนรวยก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะมันทำให้เธอได้ดื่มเหล้าฟรีแบบนี้
“เธอมีเงินเยอะ แค่เสื้อซื้อใหม่ก็ได้นี่นา ได้โปรดให้ฉันดื่มเหล้าก่อนเถอะนะ”
“ไม่ได้ วันนี้ฉันต้องไปนัดบอด”
“อะไรกัน เธอมีนัดแล้วเหรอ กี่โมงล่ะ แล้วทำไมไม่บอก”
“นัดช่วงค่ำ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากไปด้วย เลยไม่อยากจะพูดถึงมันน่ะสิ”
“ทำไมล่ะ”
“ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะฉันยังไม่อยากแต่งงานน่ะสิ”
“งั้นเธอก็แกล้งทำเป็นเสียสติสิ เธอเล่นบทนั้นเก่งไม่ใช่เหรอ อันที่จริงเธอก็เป็นแบบนั้นอยู่นิดๆ นะ”
ยองซอจ้องเขม็ง เมื่อเห็นฮารียิ้มแป้น เธอก็ถอนหายใจออกมาราวกับยอมแพ้
“ฉันขี้เกียจทำแบบนั้นแล้ว แกล้งเสียสติแค่ครั้งสองครั้งก็น่าจะพอแล้วนี่นา”
“อย่าบอกนะว่าเธอเคยแกล้งเสียสติจริงๆ น่ะ”
“อื้ม ตอนนี้ฉันเก่งแล้วด้วยนะ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อยองกู* ค่ะ ฉันไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่อายุประมาณคุณน่าจะรู้จักใช่ไหมคะว่ายองกูคืออะไร ตี๊รีรีรีหรี่”
ยองซอกางแขนออกมาตีปีกพั่บๆ จนฮารีถึงกับอ้าปากค้าง
“ให้ตายสิ แต่ละคนอายุเท่าไรกันเนี่ย”
“หลากรุ่นหลากวัยเลยล่ะ ตอนนี้ฉันไม่ฟังประวัติส่วนตัวก่อนไปเจอด้วยซ้ำเลยไม่ค่อยรู้หรอก เพราะยังไงพอไปถึงปุ๊บก็ต้องแกล้งทำเป็นเสียสติแล้วรีบออกมาก่อนอยู่ดี”
“แล้วพ่อเธอไม่ว่าเหรอ”
“อื้ม พ่อยังขยันหาคู่นัดบอดมาให้ฉันไม่ขาดเลยน่ะ เหมือนจะบอกให้คอยดูว่าสุดท้ายใครจะชนะ”
จะว่าไปสีหน้าของยองซอก็ดูเบื่อหน่ายมากจนฮารีถึงกับลืมเรื่องของตัวเองและมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ แม้จะดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ว่าใครก็มีปัญหาของตัวเองกันทั้งนั้น เธอตระหนักถึงเรื่องนี้เมื่อได้เห็นชีวิตของยองซอ
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากแพ้พ่อน่ะ แล้วอีกอย่างถ้าเกิดจู่ๆ พ่อยกเลิกบัตรเครดิต ฉันก็แย่น่ะสิ”
นั่นก็จริง ถึงยองซอจะมีงานทำ แต่ถ้าจะรักษาชีวิตอันแสนสำราญเอาไว้ล่ะก็ ยังไงก็จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตของพ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ถือโอกาสนี้หาผู้ชายดีๆ ไปเลยก็ไม่เลวนะ
“คู่นัดบอดของเธอรวยๆ กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ งั้นก็แต่งงานไปเลยสิ”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ฉันกำลังตามหาพรหมลิขิตของฉันอยู่ ความรักของฉันต้องมีความซาบซึ้งตรึงใจ”
“ฉันก็เหมือนกัน”
“อุ๊ย เธอก็ด้วยเหรอ”
“อื้ม ฉันก็กำลังตามหาพรหมลิขิตของฉันอยู่เหมือนกัน ส่วนคนรักของฉันน่ะต้องเป็นมหาเศรษฐีเท่านั้น ถ้าหน้าตาดีจนทำให้มินอูกลายเป็นปลาหมึก** ไปได้เลยก็ยิ่งดี”
แม้ไม่รู้ว่าจะมีผู้ชายแบบนั้นอยู่ในโลกหรือเปล่าก็ตาม ฮารียิ้มอย่างขมขื่น
ระหว่างนั้นกับแกล้มก็มาพอดี เมื่อกระทะไส้ย่างร้อนๆ ถูกยกมาเสิร์ฟ ฮารีก็รีบถูมือทั้งสองข้างและเปิดขวดโซจู*** ทันที
“เอาล่ะ เธอแก้วนึง ฉันแก้วนึง”
ต่างฝ่ายต่างรินโซจูให้กันแล้วชูแก้วขึ้น
“เอาล่ะ ดื่มเพื่อผู้ชายที่เป็นพรหมลิขิตของเราทั้งคู่ ชน!”
ฮารีและยองซอชนแก้วกัน
“ถ้าเบื่อการแกล้งทำตัวเป็นคนเสียสติ งั้นลองเปลี่ยนเป็นสไตล์เฟม ฟาทัล* ดูบ้างสิ แบบเซ็กซี่ขั้นสุดไปเลย ใครจะไปรู้ล่ะ ผู้ชายที่เป็นพรหมลิขิตของเธออาจปรากฏตัวขึ้นแล้วตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ได้นะ”
“เฟม ฟาทัลเหรอ”
“ฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบจับพวกผู้ชายกินค่ะ ฮึ่ม”
ฮารีจูบอากาศเสียงดังจุ๊บพลางทำตาปรือ ขยิบตาวิ้งให้ยองซอ แล้วนำแก้วโซจูมาจ่อใกล้ปาก
“เดี๋ยวก่อน!”
ยองซอจับข้อมือฮารีเอาไว้
“ทำอะไรของเธอเนี่ย โซจูหกหมดแล้วนะ”
“ฉันมีความคิดดีๆ แล้ว”
ยองซอทำตาเป็นประกาย ขณะที่ฮารีขมวดคิ้ว
“ทำไมต้องมามีความคิดดีๆ อะไรเอาตอนนี้ด้วยล่ะ”
“ก็ฉันเพิ่งคิดออกตอนนี้นี่นา”
“อะไรล่ะ”
ฮารีเสียใจที่เผลอถามออกไป เพราะรู้สึกว่ารอยยิ้มของยองซอดูมีเล่ห์เหลี่ยมยังไงชอบกล
“เธอบอกว่าอยากหางานพาร์ตไทม์ใช่ไหม”
“อื้ม ทำไม…ไม่นะ ไม่!”
ฮารีรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและพยายามจะดื่มโซจูอีกครั้ง แต่ยองซอกลับจับข้อมือเธอแน่นขึ้น
“ยังไงเธอก็อารมณ์บูดอยู่นี่นา รักข้างเดียวที่เธอรักนักรักหนาก็โดนยายผู้หญิงคนอื่นแย่งไปแล้ว”
“แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องงานพาร์ตไทม์ตรงไหนยะ”
“ถือโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศแล้วลองไปเจอผู้ชายคนอื่นดูสักทีดีไหมล่ะ”
“ใคร…”
อย่าบอกนะ
“ใช่ คู่นัดบอดฉันไง”
“นี่! จะบ้าเหรอ”
“ทำไมล่ะ ก็เธอต้องการเงินไม่ใช่เหรอ”
“…”
“เป็นสไตล์เฟม ฟาทัลไง ฉันชอบจับผู้ชายกินค่ะ ให้ฉันลองกินคุณดูบ้างไหมคะ เธอแค่ไปทำแบบนี้ก็พอแล้ว”
ยองซอทำสีหน้าเลียนแบบเหมือนที่ฮารีทำเมื่อกี้นี้ เมื่อฮารีส่ายหน้าอย่างแรง ยองซอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“เธอจะยึดติดกับนายมินอูคนนั้นไปจนถึงเมื่อไร ลองพังให้สุดสักวันหนึ่งเถอะน่า ดีจะตาย”
ทันทีที่ได้ยินชื่อมินอู ฮารีก็รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังถูกทิ่มแทง ยองซอคงเห็นว่าคำพูดนี้พอจะใช้ได้ผล จึงรีบย้ำให้มั่นใจ
“อย่างน้อยก็น่าจะพอจ่ายหนี้เงินกู้บริษัทที่กองพะเนินเป็นภูเขาได้สักนิดไม่ใช่เหรอ”
ยาย…สารเลว บังอาจเอาความเจ็บปวดของฉันมาหลอกใช้งั้นเหรอ
เอื๊อก ฮารียกแก้วดื่มรวดเดียวก่อนที่จะวางแก้วลงเสียงดังปึง เขม้นมองยองซอและพูดออกมา
“เธอจะให้เท่าไร”