Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน
ทดลองอ่าน Business Proposal นัดบอดวุ่น ลุ้นรักท่านประธาน บทที่ 3
chapter 03
ฉันต้องการเพียงเธอ
เรื่องทุกอย่างถูกจัดการอย่างชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ฮารีตอบยองซอไปด้วยความมั่นใจ แม้จะยังมีความกังวลอยู่บ้างก็ตาม แต่ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะสรุปแบบนั้น เพราะหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็ไม่ได้ยินข่าวคราวอะไรอีกเลย
แต่ในระหว่างที่ฮารีคิดแบบนั้นและกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง
“ที่อยู่บริษัทของคุณจินยองซอที่ท่านขอมาครับ”
เมื่อซองฮุนยื่นแฟ้มให้ แทมูก็หยิบกระดาษพริ้นต์ออกมาจากแฟ้ม
“แทรยุง?”
ผิดคาดที่จินยองซอไม่ได้ทำงานที่ยองจินบริษัทของพ่อเธอ แต่กลับอยู่ที่แทรยุงซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง
“นี่มันงานอดิเรกประเภทไหนกัน”
“ดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกที่แย่มากนะครับ”
ซองฮุนไม่ชอบความรู้สึกแรกที่ได้พบฮารี เขาไม่ชอบเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่ยองซอ แต่เป็นแค่เพื่อนของยองซอเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เนื้อคู่กันนะครับ ทำไมท่านถึงกับต้องไปหาเธอที่บริษัทด้วยล่ะครับ”
“ใครบอกว่าไม่ใช่เนื้อคู่”
“ท่านถูกปฏิเสธไม่ใช่เหรอครับ”
แทมูหรี่ตามอง
“หัวหน้าชา”
“ครับ”
“คุณเคยพูดเรื่องพรหมลิขิตใช่หรือเปล่า”
“ครับ?”
ซองฮุนรู้สึกไม่คุ้นหูเมื่อยินคำว่าพรหมลิขิตจากปากของแทมู มันทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว
“วันนั้นคุณบอกว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นรอผมอยู่ มันก็อาจจะเป็นพรหมลิขิตใช่ไหม”
“ใช่ครับ ผมพูดแบบนั้น”
ผมแค่พูดไปเฉยๆ เท่านั้น แต่ท่านประธานคงจะเลือกฟังแต่สิ่งที่อยากฟังและจำแต่สิ่งที่อยากจำเพื่อให้ได้ดั่งใจตัวเองสินะ
“ผู้หญิงคนนั้นรอผมอยู่ แล้วผมก็ขอโทษเธอที่ผมกลับไปช้า”
ซองฮุนกะพริบตาปริบๆ
“แล้ว…ยังไงเหรอครับ”
อย่าบอกนะว่าคำว่าพรหมลิขิตจะออกมาจากปากของแทมู
“ผมก็เลยคิดว่าจะรอเธอบ้าง”
“…ครับ?”
“รอให้เธอมาหาผมอีกครั้ง”
คังแทมูบอกว่าจะรองั้นเหรอ…?
มุมปากของแทมูยกขึ้นข้างหนึ่งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง มันเป็นรอยยิ้มที่ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาเห็นเข้าคงจะต้องขนลุกซู่แน่นอน ซองฮุนเอ่ยถามด้วยความกังวล
“ไปนัดบอดใหม่อีกครั้งดีไหมครับ”
แทมูมองซองฮุนอย่างไม่พอใจ
“หัวหน้าชา”
“ครับ ท่านประธาน”
“ต้องให้ผมพูดอีกกี่ครั้งว่าผมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”
ถ้าคุณให้ผมต้องพูดอีกครั้งและทำให้ผมเสียเวลาล่ะก็ ผมจะไล่คุณออก แทมูจ้องซองฮุนเขม็งด้วยสายตาแบบนั้น
“ขอโทษครับ งั้นจะไปเจอเธอเมื่อไรดีครับ”
“ไม่รู้สิ”
แทมูพลิกเอกสารดูอีกครั้งเพื่อคำนวณเวลาที่จะเอาตัวเองออกไปจากเอกสารนั้นให้ได้ แต่สีหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้นแสดงว่ายังหาคำตอบไม่ได้แน่ๆ คนที่งานยุ่งขนาดนั้น แต่กลับคิดเรื่องแต่งงานเนี่ยนะ ซองฮุนกระเดาะลิ้นในใจและก้มศีรษะลง
“เชิญทำงานต่อนะครับ”
แต่จู่ๆ แทมูก็เงยหน้าขึ้นมองซองฮุนที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง สายตาคู่นั้นทำให้ซองฮุนหยุดยืนตัวแข็งทื่อ
“มีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่าครับ”
“ตารางงานตอนเย็นมีอะไรบ้าง”
“ถ้าจะถามว่ายกเลิกได้ไหม ผมคิดว่าคงลำบากครับ เพราะวันนี้ท่านมีประชุมวางแผนกับคณะผู้บริหาร เพื่อเตรียมมีตติ้งกับทางฝ่ายญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ครับ”
“นั่นมันตารางของผม”
“ถ้างั้น…หมายถึงของผมเหรอครับ”
แทมูพยักหน้า
“ระหว่างที่ผมประชุม คุณต้องไปทำธุระให้ผม”
“ที่ไหนเหรอครับ”
“บริษัทของคุณจินยองซอ”
“ครับ?”
“ไปพาคุณจินยองซอมาหน่อย”
แทมูพูดเหมือนกำลังสั่งไก่ทอด
“ขอเร็วหน่อยนะ”
“ครับ เราจะรีบจัดส่งให้นะครับ”
ฮามินรีบวางสาย ร้านไก่ทอดเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากที่ไม่มีลูกค้าสั่งมาพักหนึ่ง
“วันนี้มีไปส่งอาหารให้ลูกค้าด้วยสินะ”
เมื่อเห็นว่ารถสกู๊ตเตอร์ส่งของไม่ได้จอดอยู่ ฮารีก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข ในขณะที่ฮามินทำหน้าตาดีใจ
“เลิกงานช้าจัง เพิ่งจะเลิกงานเหรอ”
“อื้ม แต่ทำไมนายถึงอยู่ตรงนี้ล่ะ แล้วใครไปส่งอาหารเหรอ”
“ผมเรียกกองหนุนมาน่ะ”
“กองหนุน? ใครกัน”
“ฮารีกลับมาแล้วเหรอ”
จูยงพ่อของฮารีโผล่หน้าออกมาจากในครัว จูยงยิ้มหน้าบานแฉ่งในแบบที่ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว ฮารีจึงยิ้มกว้างเช่นกัน
“จ้ะพ่อ หนูกลับมาแล้ว แม่จ๋า หนูกลับมาแล้ว”
ฮารีเดินเข้าไปในห้องครัว เสียงทอดไก่ช่างไพเราะเหลือเกิน
“อื้ม มาๆ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม เดี๋ยวแม่ทำอันนี้เสร็จแล้วจะทอดไก่ให้กินนะ”
“ไม่ต้องหรอกแม่ ไม่เป็นไร ตอนเลิกงานหนูกินโน่นกินนี่กับเพื่อนพนักงานมาแล้ว ว่าแต่วันนี้ยุ่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“ก็วันนี้มีแข่งฟุตบอลไง”
“อ๋อ แข่งทีมชาติรอบคัดเลือก วันนี้เป็นนัดสำคัญใช่ไหม”
“ใช่ เพราะอย่างนี้ถึงได้มีคนสั่งหลังจากเงียบเหงามานาน”
“โล่งอกไปทีน้า”
ทั้งสามยิ้มพร้อมกัน
“หืม? นั่นอะไรน่ะ”
ฮารีชี้ไปที่กระถางต้นไม้ที่แขวนอยู่บนชั้นติดผนัง กระถางต้นไม้นั่นมีใบไม้ห้อยลงมาและแขวนเอาไว้อย่างน่าหวาดเสียว เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน
“อ๋อ มีคนให้มาเลยเอาไปแขวนไว้ตรงนั้นก่อนชั่วคราวน่ะ”
“ใครเหรอ”
จากนั้นประตูร้านก็ถูกเปิดออก
“ไปส่งมาเรียบร้อยแล้วครับ”
แค่ได้ยินเสียง หัวใจของฮารีก็หล่นวูบ ดวงตาของเธอเบิกตากว้าง
“อีมินอูเหรอ”
มินอูถอดหมวกกันน็อกและเดินเข้ามาในร้าน แม้มินอูจะไม่โดดเด่นเท่าแทมู แต่ความสูงไม่ต่างกันเท่าไร ผิวสีแทนดูดี ดวงตากลมโต และรูปปากน่ามอง สายตาของฮารีเหลือบไปเห็นรูปร่างหน้าตาที่เพียงแค่ได้เห็นก็มีความสุขแล้ว จึงยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“มินอู ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
“ฉันทำงานพาร์ตไทม์ที่นี่น่ะ”
“อะไรนะ”
เมื่อเห็นฮารีตกใจ มินอูก็หัวเราะ
“ถ้าพี่ทำงานที่นี่ ผมก็คงจะไม่หวังอะไรอีกแล้ว เพราะสาวๆ คงโทรสั่งให้พี่ไปส่งเยอะแน่ๆ”
“นั่นมันความหวังของนายไม่ใช่เหรอ”
“แหม พี่ก็ ใช่ครับ ความหวังของผมเอง ขอบคุณมากนะครับพี่”
ฮารีขมวดคิ้วมองทั้งสองที่กำลังยิ้มให้กันอย่างสนิทสนม
อย่าบอกนะว่ากองหนุนที่ว่าคือมินอู
มินอูเป็นเพื่อนของเธอก็จริง แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชาย เขาจึงมักพูดคุยกับฮามินน้องชายของเธอและติดต่อกันบ่อยๆ จนกลายเป็นพี่ชายน้องชายกันไปแล้ว ด้วยเหตุนี้มินอูจึงมีโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่ของเธอไปโดยปริยาย รักข้างเดียวของฮารีจึงกลายเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้ายากเกินกว่าจะสารภาพความในใจออกไปได้