บทที่ 5 ด้วยสัตย์สาบาน
ความรักอันเข้มข้นที่ฉายชัดในดวงตาคมกริบทำให้หัวใจของนิสรีนสั่นคลอน
เธอเองก็ไม่อยากเลิกกับเขา
ไม่อยากเลิกกับอัตรคุปต์ทั้งที่วันนี้เขาอุตส่าห์รักเธอแล้ว แต่ว่า…
“เราเอาชนะเขาไม่ได้หรอกพี่คุปต์ มนุษย์เอาชนะพระเจ้าไม่ได้”
ต่อให้ในโลกภายนอกนักเขียนคนนั้นจะเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่ต่างจากพวกเธอ แต่สำหรับโลกใบนี้…หล่อนไม่ต่างอะไรจากพระเจ้าผู้สร้างและลิขิตทุกอย่าง
“ถ้าไม่ลองแล้วนีซจะรู้ได้ไงว่ามันไม่ได้”
“พี่คุปต์…”
“ทำไมนีซถึงเอาแต่ผลักไสพี่ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าการที่เราเลิกกันตั้งแต่ตอนนี้มันจะทำให้เธอหนีพ้นจากโชคชะตาบัดซบนั่นได้”
คำถามแทงใจดำจากผู้ชายที่เธอรักทำให้นิสรีนเม้มปากแน่น
ใช่ เธอไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าการเลิกรากับอัตรคุปต์จะทำให้ตัวเองหนีพ้นจากเส้นทางที่ถูกลิขิตไว้
มันเป็นเพียงทางออกเดียวเท่านั้นที่นิสรีนซึ่งกำลังมืดแปดด้านมองเห็น
“ในเมื่อนีซเองก็ไม่มั่นใจว่านั่นคือทางเดียวที่จะเปลี่ยนโชคชะตาได้ แล้วทำไมเธอไม่ลองเสี่ยงไปด้วยกันกับพี่…” นัยน์ตาคมดุมองลึกเข้าไปในแววตาที่สับสน “…ลองเสี่ยงไปด้วยกันเถอะนีซ พี่เชื่อว่าถ้าเราจับมือกันแน่นพอ เราจะพากันผ่านเรื่องบ้าๆ พวกนี้ไปได้”
ความเชื่อมั่นอันเปี่ยมล้นของเขาทำให้หญิงสาวเริ่มลังเล ทว่า…
“เราไม่เหมือนกันพี่คุปต์” ริมฝีปากได้รูปค่อยๆ คลี่ยิ้มเฝื่อน ประกายแห่งความหวังที่พาดผ่านอย่างบางเบาตอนได้ยินอัตรคุปต์พูดดับวูบลงไป เพราะความจริงที่แตกต่างกันระหว่างเขากับเธอ “พี่คุปต์เป็นพระเอก ต่อให้พยายามสู้แล้วพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาที่ถูกลิขิตไว้ พี่คุปต์ก็จะได้เจอกับรักแท้ ได้พบกับบทสรุปอันสวยงาม แต่นีซ…” หญิงสาวกล้ำกลืนความเจ็บช้ำลงในอก แววตาแหลกร้าวกับโชคชะตาที่ถูกลิขิตไว้ให้นางร้ายอย่างเธอ “แต่นางร้ายอย่างนีซ…มีบทสรุปคือความตาย”
และที่น่ากลัวกว่านั้นคือเส้นทางก่อนจะเดินไปถึงบทสรุป นิสรีนได้กลายร่างจากคุณหนูไฮโซนิสัยเสียไปเป็นนางมารร้ายซึ่งไม่รู้ผิดชอบชั่วดี คิดแต่จะทำลายผู้หญิงคนหนึ่งให้ย่อยยับทั้งๆ ที่เด็กคนนั้น…มีสายเลือดเดียวกับตัวเอง
“นีซไม่อยากถูกความริษยาชิงชังเปลี่ยนให้ปีศาจ ไม่อยากถูกเวรกรรมตามทันจนชีวิตย่อยยับ ไม่อยากต้องจบชีวิตตัวเองลงเพราะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว และที่สำคัญ…”
นิสรีนกัดริมฝีปากกลั้นสะอื้น มือเรียวเลื่อนขึ้นมาลูบขอบตาของผู้ชายที่เธอรักมาตลอดอย่างแผ่วเบา
“…นีซไม่อยากถูกพี่คุปต์เกลียด”
เธอไม่อยากให้ความรักซึ่งปรากฏในดวงตาของเขาวันนี้ถูกแทนที่ด้วยความเกลียดแค้นชิงชัง
เพราะนั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้นางร้ายอย่างเธอรู้สึกแหลกสลายจนต้องตัดสินใจลั่นไกปืนจบชีวิตตัวเองลง
อัตรคุปต์รู้…ว่าเดิมพันของนิสรีนสูงกว่าเขามาก เขารู้ว่าเธอพูดถูกว่าถ้าหากการต่อต้านของพวกเขาล้มเหลว เขาก็แค่ถูกบังคับให้เริ่มต้นรักผู้หญิงคนนั้น มีชีวิตอันแสนสุขรออยู่ปลายทาง แต่บทสรุปของนิสรีนมีแต่ความพินาศย่อยยับจนต้องจบชีวิตตัวเอง
แต่เขาก็ยังเห็นแก่ตัว…อยากขอร้องให้เธอเสี่ยงไปด้วยกัน
ชายหนุ่มลดมือลงจากวงหน้าสวยมากอบกุมมือเรียวเอาไว้ แล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาแหลกร้าวของเธอ
“นีซ พี่รู้ว่ามันไม่มีอะไรเป็นหลักประกันให้เธอมั่นใจได้เลยว่าเราจะต่อต้านโชคชะตาบ้าๆ นั่นได้ แต่นีซ…” ริมฝีปากแดงจัดระบายรอยยิ้มเชื่อมั่นในตัวเองขณะเรียกชื่อเธอ
กุหลาบดอกเดียวที่เลือกด้วยตัวเองว่าจะปลูกไว้ในหัวใจดวงนี้
“ชื่อของพี่คือ ‘อัตรคุปต์’ อัตรคุปต์แปลว่า ‘ปกครองตนเอง’ พี่จะไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตของตัวเองตกอยู่ใต้อำนาจจากปลายนิ้วของใครทั้งนั้น” ดวงตาคมกริบเป็นประกายวาวโรจน์ “และนีซเรียกพี่ว่า ‘พี่คุปต์’…คุปต์ซึ่งหมายถึง ‘คุ้มครองรักษา’…”
มือใหญ่ดึงมือเรียวเล็กมาวางทาบบนแผ่นอกตรงตำแหน่งของหัวใจ ให้คำมั่นสัญญาที่เขาสาบานว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันเป็นจริง
“…พี่สัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อคุ้มครองนีซและรักษาความรักของเราเอาไว้” เขากระชับมือเธอซึ่งถูกดึงไปแนบไว้กับหัวใจ “แล้วถ้าวันไหนหัวใจดวงนี้มันจะเปลี่ยนไปรักคนอื่น…พี่จะเป็นคนจบชีวิตของพี่เอง”
สัตย์สาบานจากปากของผู้ชายที่เธอรัก พระเอกผู้ถูกสร้างมาให้ยึดมั่นต่อคำสัญญาเทียบเท่าชีวิต ทำให้ดวงตาของนิสรีนเบิกกว้าง หัวใจซึ่งเคยบิดร้าวด้วยความเจ็บปวดค่อยๆ เต้นกระหน่ำแรง เปลวไฟแห่งความหวังที่เคยดับมอดไปแล้วครั้งหนึ่งลุกโชนขึ้นอีกครั้งอย่างบางเบา
นัยน์ตาคมกริบซึ่งมักมองกันอย่างเฉยชาอยู่เสมอ บัดนี้กำลังมองเธอด้วยสายตาเว้าวอนอย่างที่นิสรีนไม่เคยเห็นมาก่อน
“ถ้านีซยังรักพี่อย่างที่พี่รักเธอ…เราเสี่ยงไปด้วยกันได้มั้ย”