ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 5-6 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 5-6

ในห้องขังศาลต้าหลี่

ภายในห้องสอบสวนที่มืดและคับแคบเวลานี้กลับมีแสงไฟสว่างไสว เสื่อฟางที่เหม็นอับผสมกับกลิ่นเลือดทั้งเก่าและใหม่นั้นส่งกลิ่นฉุนเป็นอย่างยิ่ง

บนโต๊ะที่อยู่ตรงกลางมีกาน้ำชากระเบื้องสีขาววางอยู่ ขอบกามีหยดน้ำเกาะ น้ำชาเย็นหมดแล้ว มือที่เหมือนหยกลูบไล้อย่างเงียบๆ ปลายแขนเสื้อชุดขุนนางสีม่วงเลื่อนลงมาหนึ่งชุ่น เผยให้เห็นข้อมือที่ขาวผ่องซึ่งไม่ด้อยไปกว่ากระเบื้องเคลือบสีขาวสว่างนั้นเลย

“ใต้เท้ากู้” หลินไหวจิ่งเสนาบดีศาลต้าหลี่โน้มตัวลงมา ลดเสียงต่ำลงพูดว่า “ข้าสอบถามมาแล้ว คนผู้นี้ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”

กู้ซิ่งจือนิ่งเงียบ เพียงมองไปที่องครักษ์ของกองทหารรักษาวังที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่หลินไหวจิ่งพูด

ในคืนที่เสนาบดีเฉินถูกสังหาร องครักษ์ผู้นี้น่าจะเป็นคนลาดตระเวนไปตามถนนหน้าวังหลวง แต่จนกระทั่งถึงยามโฉ่ว สามเค่อ หลังจากเสนาบดีเฉินเสียชีวิตไปเป็นเวลาหนึ่งเค่อ คนผู้นี้จึงได้ไปรายงานกองทหารรักษาวัง

และสาเหตุที่พลาดตอนเกิดเหตุ ตามคำบอกเล่าของเขาเป็นเพราะเกิดเหตุฉุกเฉินภายในร่างกาย บังเอิญไปเข้าห้องเวจ

บังเอิญ? บังเอิญถึงเพียงนี้เลย?

กู้ซิ่งจือหัวเราะเบาๆ

กองทหารรักษาวังทำหน้าที่ป้องกันวังหลวง ตามเสด็จเพื่อถวายการรับใช้และอารักขาอย่างใกล้ชิด แต่ในราชสำนักหนานฉีปัจจุบันมีใครไม่รู้บ้างว่าผู้บัญชาการกองทหารรักษาวังเป็นคนของอู๋จี๋เสนาบดีฝ่ายขวา ไม่เพียงเท่านั้น…

กู้ซิ่งจือครุ่นคิดพร้อมกับเหลือบตาขึ้น สบตากับหลินไหวจิ่งที่อยู่ด้านข้างแล้วยิ้มอย่างสงบนิ่ง

ดูเหมือนว่ามือของอู๋จี๋จะยื่นเข้ามาในศาลต้าหลี่แล้ว

“ใต้เท้ากู้?” หลินไหวจิ่งเห็นว่าคนตรงหน้าเงียบไปนานจึงรู้สึกกังวลใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามหยั่งเชิงว่า “ยังมีข้อสงสัยอะไรอีกหรือ”

รอยยิ้มของกู้ซิ่งจือกว้างขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าที่เดิมทีก็สดใสอยู่แล้วเวลานี้ยิ่งเบิกบานขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“ไม่มีข้อสงสัย เพียงแต่อยากให้ใต้เท้าหลินพบใครสักคน”

ทันทีที่พูดจบมือที่มีกระดูกอันงดงามก็เคาะลงบนโต๊ะราวกับกำลังตีขิม

ประตูห้องขังด้านหลังถูกเปิดออก ฉินซู่ควบคุมตัวคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยตนเอง เมื่อเดินเข้ามาใกล้ หลินไหวจิ่งและองครักษ์ที่คุกเข่าอยู่ต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ

“ในเมื่อใต้เท้าหลินไม่สามารถถามอะไรได้ มิสู้ให้ข้าทำแทนจะดีกว่า ลองถามทหารของกองทหารรักษาวังผู้นี้ดูก็แล้วกัน”

หลินไหวจิ่งตกตะลึง และองครักษ์หนุ่มที่คุกเข่าอยู่ก็สะดุ้งตัวตาม

ในคืนที่เสนาบดีเฉินถูกสังหาร องครักษ์หนุ่มผู้นี้น่าจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ถนนหน้าวังหลวงจริงๆ แต่ในคืนนั้นทหารของกองทหารรักษาวังที่สนิทสนมกับเขามาโดยตลอดได้ลาออกเนื่องจากมารดาป่วยหนัก ก่อนออกเดินทางได้นัดพบกับเขา

เดิมทีเขาก็ชอบดื่มสุราอยู่แล้ว เมื่ออารมณ์ดี พอดื่มก็ลืมเวลา เมื่อรู้ตัวก็เลยเวลาทำงานแล้ว

เมื่อเสนาบดีฝ่ายซ้ายของราชสำนักถูกสังหาร เขาออกไปในเวลาปฏิบัติหน้าที่ แล้วยังเกี่ยวข้องกับการดื่มสุรา หากถูกจับได้จะต้องตายอย่างแน่นอน

เขาคิดว่าถึงอย่างไรทหารผู้นั้นก็ได้ไปจากเมืองจินหลิงแล้ว เรื่องนี้นอกจากตนเองก็ไม่มีใครรู้

ประกอบกับผู้บัญชาการกองทหารรักษาวังยังเป็นคนของอู๋จี๋เสนาบดีฝ่ายขวา ด้วยความหน้าไหว้หลังหลอก เสนาบดีฝ่ายขวาจะต้องทำทุกวิถีทางทำให้กองทหารรักษาวังไม่เกี่ยวข้องกับการตายของเสนาบดีเฉิน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ย่อมต้องคุ้มครองเขา

แต่ไม่เคยคิดเลยว่ากู้ซิ่งจือจะเจ้าความคิด ตามหาตัวทหารที่จากไปแล้วคนนั้นกลับมา

หลินไหวจิ่งใจเต้น แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วถามว่า “ใต้เท้ากู้หมายความว่าอย่างไร”

“ข้าแค่ได้ยินมาว่าทั้งสองคนได้พบกันก่อนเกิดเหตุ ในเมื่อใต้เท้าหลินไม่สามารถถามอะไรได้ ข้าจึงคิดว่าบางทีการให้ทั้งสองคนพบกันอาจจะช่วยได้” กู้ซิ่งจือยังคงมีท่าทางสบายๆ น้ำเสียงอบอุ่น ไม่มีร่องรอยของความโกรธแม้แต่น้อย

หลินไหวจิ่งไม่แน่ใจ แต่กู้ซิ่งจือได้รับพระราชโองการให้รับผิดชอบตรวจสอบการตายของเสนาบดีเฉินอย่างละเอียด เขาจึงไม่สามารถคัดค้านได้ ต้องจำใจยอมถอย

กู้ซิ่งจือส่งสัญญาณให้ฉินซู่นำตัวอีกฝ่ายเข้ามา

องครักษ์หนุ่มเห็นทหารผู้นั้นก็ตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองสบตากันอย่างเงียบๆ และองครักษ์หนุ่มก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ก้มศีรษะและคุกเข่าอย่างเรียบร้อย

“ใต้เท้ากู้ต้องการจะถามอะไร”

ท่ามกลางความเงียบสงบหลินไหวจิ่งพูดขึ้นก่อน

“อืม” กู้ซิ่งจือรับคำโดยไม่มองเขา ก้มลงมองทหารที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าแล้วถามว่า “คืนวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนหนึ่ง พวกเจ้าเคยพบกันหรือไม่”

ทั้งสองคนสบตากันแล้วเอ่ยว่า “เคยพบกันขอรับ”

“อืม” กู้ซิ่งจือพยักหน้า มองสำรวจทั้งสองคนแล้วถามต่อ “เจ้าแยกย้ายกับเขาตั้งแต่เมื่อไร”

“เรียนใต้เท้า ก่อนยามจื่อ ขอรับ ตอนนั้นเขาบอกว่าจะกลับไปทำงาน ข้าน้อยไม่กล้ารั้งไว้จึงจากไป”

“เป็นเช่นนี้หรือ” กู้ซิ่งจือหันไปทางองครักษ์หนุ่ม

“ใช่ ใช่…เรียนใต้เท้า เป็นเช่นนี้ขอรับ…” องครักษ์หนุ่มตอบอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

“อืม” กู้ซิ่งจือพยักหน้า ยังคงมีท่าทีเรียบเฉย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองหลินไหวจิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ข้าถามเสร็จแล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com