ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 7-8 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 7-8

บทที่ 8 ภาพหลอน

เสียงตีฆ้องบอกเวลาดังผ่านแสงเทียนที่วูบไหว มือที่เห็นข้อต่ออย่างชัดเจนยื่นออกไปด้านข้างเพื่อป้องเปลวเทียนที่ใกล้จะดับ กู้ซิ่งจือหันไปปิดหน้าต่างที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่ง

ภายในห้องสว่างขึ้นทันที ในกระถางธูปสีเขียวบนโต๊ะตัวเตี้ยจุดธูปกลิ่นสาลี่อ่อนๆ ไว้ ควันสีขาวลอยละล่องอย่างต่อเนื่อง ตลบอบอวลอยู่เบื้องหน้าเขาราวกับลายเส้นคดเคี้ยวบนกระดาษเซวียนจื่อ

“อื้ม!”

ใครบางคนเอาแต่มองเขาภายใต้แสงไฟ จุดสิ้นสุดเส้นแนวตั้งของพู่กันไม่รู้ลอยไปถึงไหนแล้ว

ฮวาหยางกลัดกลุ้มจนต้องขยุ้มผม ถ้าไม่ใช่เพราะฐานะของเหยาเหย่า นางคงจะล้มโต๊ะเขียนหนังสือและเอาไฟมาเผาพู่กันกับกระดาษเหล่านี้แล้ว

“ไม่เป็นไร ลองอีกครั้ง”

มีเสียงกระซิบอยู่ข้างตัวโดยไม่มีการเยาะเย้ยหรือปลอบโยนแต่อย่างใด เป็นเพียงการออกคำสั่งเท่านั้น

หนุ่มรูปงาม…

ฮวาหยางลอบกำพู่กันในมือไว้แน่น ตำหนิในใจว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาทำท่าทางเหมือนเทพเซียนอยู่ใต้แสงจันทร์ เดินไปเดินมาอยู่เบื้องหน้าตนเอง นางก็คงไม่ต้องเขียนอักษรตัวละหนึ่งร้อยรอบโดยที่ยังไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้อยู่เช่นนี้

แต่จะว่าไปแล้วตอนแรกที่ฮวาหยางหลอกกู้ซิ่งจือให้สอนนางเขียนตัวอักษร ภาพที่คิดหวังก็ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

นางลอบถอนหายใจอย่างเงียบๆ มือซ้ายจับหนังสือ ‘คำสอนสกุลกู้’ หนาประมาณสามนิ้วมือที่อยู่บนศีรษะ

“หลังตรง เท้าสองข้างวางราบให้มั่นคง” คนที่อยู่ข้างๆ พูดพร้อมกับใช้พู่กันหางเพียงพอนเหลืองขนาดใหญ่ในมือเคาะหลังนางเบาๆ

ฮวาหยางกัดฟัน หายใจเข้าลึกๆ ยืดหลังตรงแล้วคิดจะขยับตัวเข้าไปใกล้โต๊ะอีกนิด พู่กันด้ามนั้นก็สกัดอยู่ตรงหน้านางอีกครั้ง

“ตัวอยู่ห่างจากโต๊ะสองชุ่น” พูดจบก็เคาะหัวไหล่นางเบาๆ สองครั้งแล้วเอ่ยอีกว่า “ไหล่ทั้งสองข้างเสมอกันตามธรรมชาติ” จากนั้นมือข้างที่ถือพู่กันก็ชี้อยู่ในสายตาของนาง เปลี่ยนกระดาษที่นางเขียนเสียแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เขียนต่อ”

“…” ฮวาหยางโกรธมากและสับสนอย่างยิ่ง

นางจำได้ว่าครั้งก่อนตอนที่ลอบสังหารเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในหยางโจวที่ชอบเข้าสังคมเพื่อยกระดับตัวเอง นางก็เคยขอให้อีกฝ่ายทำอย่างนี้เช่นกัน อีกฝ่ายโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนชัดๆ จับมือสอน พูดได้ว่าเป็นการลงมือเขียนเอง

แต่เหตุใดเมื่ออยู่กับหนุ่มรูปงามกู้กลับกลายเป็นเช่นนี้

นางไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกอย่างคลุมเครือว่าหากยังปล่อยให้เขาครอบงำเช่นนี้ต่อไป ขาและมือของตนเองคงจะใช้การไม่ได้แน่ ดังนั้นนางจึงแก้เผ็ดด้วยการเอี้ยวตัวแล้วก็พิงไปทางกู้ซิ่งจืออย่างอ่อนแอ

หนังสือบนศีรษะหล่นลงมา ฮวาหยางชนเข้ากับคนที่คาดคิดไว้ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความแข็งอย่างเหนือความคาดหมาย

แม้จะกั้นด้วยผ้าไม่บางถึงสองชั้น นางก็ยังรู้สึกได้ว่าหน้าอกที่แนบแผ่นหลังไม่ได้นุ่มอย่างที่คิด แต่ซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ มีความยืดหยุ่นกับความทรงพลัง และยังมีเส้นโค้งเว้าที่น่าเกรงขามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบุรุษอย่างคลุมเครืออีกด้วย

ฮวาหยางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากมุมของนางมองเห็นเพียงเส้นโค้งเว้าของสันกรามและลูกกระเดือกที่ชัดเจน ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึก แต่ตอนนี้อยู่ใกล้ๆ จึงสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้มีแต่ความอ่อนโยนเหมือนสตรีเท่านั้น แต่ในความอ่อนโยนนั้นได้ซ่อนความเข้มแข็งและความทรงพลังไว้ด้วย

อาจเป็นเพราะเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณของการเป็นนักฆ่า ฮวาหยางรู้สึกว่าตนเองไม่เคยเห็นคนตรงหน้ามาก่อน อย่างน้อยก็ไม่เคยรู้จักเขาดี

ในตัวของเขามักจะมีความขัดแย้งอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่นมีความดื้อรั้นซ่อนอยู่ภายใต้ความอ่อนโยน ตัวอย่างเช่นหลังจากถอนหมั้นก็เลือกที่จะอยู่คนเดียว และตัวอย่างเช่นด้านหลังห้องอ่านหนังสือของเขา ห้องพระเล็กๆ ห้องนั้นที่ไม่มีการจุดธูป ไม่มีการสวดมนต์…

ความคิดหมุนวนเป็นพันครั้ง แต่คนที่อยู่ด้านหลังกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เขาแค่รับหนังสือที่จู่ๆ ก็หล่นลงมาอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างก็จับนางไว้อย่างแม่นยำ

“หากเหนื่อยเกินไปพรุ่งนี้ค่อยฝึกใหม่ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง” เขาเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำท่าเหมือนจะปล่อยฮวาหยาง แต่กลับถูกนางฉวยโอกาสคว้าแขนเสื้อไว้

สาวน้อยยังคงไม่ขยับ หางตาแดง ดวงตาสดใสมองเขาอย่างพร่ามัว ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยื่นมือที่ถือพู่กันให้เขา ทำปากพูดพร้อมแสดงท่าทางน้อยใจและดื้อรั้น

‘ท่านบอกแล้วว่าจะสอนข้า’

กู้ซิ่งจือตกตะลึง มือที่ถือหนังสือ ‘คำสอนสกุลกู้’ ค้างอยู่กลางอากาศ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com