ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 7-8 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 7-8

เมื่อฮวาหยางเห็นเขายังไม่ขยับจึงตอแยไม่เลิก และเติมความผิดหวังลงในความน้อยใจ ขนตาที่เปียกชื้นคู่นั้นจึงสั่นต่อหน้าเขาอย่างเงียบๆ

ภายในห้องเงียบมากจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นลงพื้นขึ้นมาทันที

ผ่านไปพักใหญ่ฮวาหยางจึงได้ยินเสียงคนผู้นั้นถอนหายใจเบามาก ราวกับเป็นการประนีประนอมอย่างทำอะไรไม่ถูก จากนั้นในที่สุดฝ่ามือใหญ่ที่แห้งและอุ่นก็วางลงบนมือของนาง น้ำเสียงที่อบอุ่นดังขึ้นที่ข้างหูพร้อมกับแผ่ไอร้อนบางๆ

กู้ซิ่งจือจับมือข้างหนึ่งของนาง พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ตั้งแต่แขนจนถึงข้อมือ ตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงนิ้ว ใช้ทั้งหลักการและการพลิกแพลง วิธีการเขียนต้องยืดหยุ่นได้และต้องมองภาพรวม เตรียมความพร้อมก่อนจรดพู่กัน”

ขณะที่พูดมือข้างนั้นก็เขียนอย่างประณีต คล่องแคล่วเป็นธรรมชาติ

ฮวาหยางยังคงประหลาดใจจริงๆ เพราะนางพบว่าแม้เวลานี้ทั้งสองคนจะใกล้ชิดด้วยท่าทางที่นัวเนียและแนบสนิทกันเช่นนี้ แต่นางกลับไม่รู้สึกถึงความหลงใหลเพ้อฝันใดๆ ของคนที่อยู่ด้านหลังเลย

มือที่จับนางมั่นคงและมีพลัง น้ำเสียงที่พูดก็เรียบนิ่ง หัวใจที่เต้นเบาๆ ผ่านเสื้อผ้าก็เป็นจังหวะที่ไม่วุ่นวาย ราวกับว่าทั้งเมื่อครู่และเวลานี้นางไม่เคยรบกวนจิตใจของเขาได้เลย

ฮวาหยางเกือบจะหัวเราะด้วยความโกรธกับนิสัยที่ไม่มีวันตามทันคนอื่นของเขา

เมื่อเปรียบเทียบกับการยั่วยวนผู้ที่มีฐานะสูงส่งที่ไม่เคยรู้จักพอกับสาวงามแล้ว การยั่วยวนกู้ซิ่งจือนั้นเหนื่อยยากยิ่งกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะต้องใช้กำลังด้วยซ้ำ นี่เป็นสิ่งที่นางไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ

ก็ได้…

ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางก็ไม่ถือสาที่จะก้าวไปอีกขั้น ถึงอย่างไรของที่ได้มาง่ายเกินไปก็ไม่อาจกระตุ้นความสนใจของนางได้จริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ฮวาหยางก็เขย่งเท้าขึ้น ขณะที่เส้นผมถูไถกับสันกรามของกู้ซิ่งจือ นางก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและเรียกที่ข้างหูของเขาอย่างไม่มีเสียง

‘พี่ฉางยวน…’

เสียงนั้นเบามากๆ เป็นเพียงลมหายใจที่แผ่วเบา แต่ลมร้อนชื้นนั้นยังคงกระจายตามคำว่า ‘ยวน’ นั้นไปทั่ว ตบเบาๆ ที่ลำคอราวกับแปรงปัดแป้ง

มือที่จับนางหยุดและสั่นอย่างเงียบๆ

สายลมและหมอกชื้นลอยละล่องอย่างไม่มีแรง

กู้ซิ่งจือรู้สึกว่าจิตสำนึกสั่นคลอนชั่วพริบตา แสงของเชิงเทียนที่อยู่ตรงหน้ามืดลง กลายเป็นฉากที่พร่ามัวโดยรอบ

ภายใต้แสงเทียนที่พลิ้วไหว มือขาวนวลของสาวงามปรากฏขึ้นตรงหน้า นิ้วมือที่เรียวยาวโค้งงอ เผยให้เห็นเล็บที่สะอาดราวกับไข่มุก ถัดลงมาเป็นสายโซ่เหล็กเย็นเฉียบที่ส่องแสงเยียบเย็น ขับให้ข้อมือทั้งสองข้างขาวผ่องยิ่งขึ้น

กู้ซิ่งจือตกตะลึง รู้สึกว่าที่ด้านข้างมีอะไรบางอย่างพาดลงที่เอวเบาๆ จากนั้นก็หนีบแน่น ดึงเขาเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหนึ่งชุ่น

ความรู้สึกเช่นนี้ช่างคุ้นเคยอย่างยิ่ง จิตใจสับสน หลงใหลเคลิบเคลิ้ม

ค่ำคืนที่มืดมิดและไร้ขอบเขตกลับสว่างขึ้นและกลายเป็นภาพที่มีสีสัน สดใสเสียจนกู้ซิ่งจือรู้สึกว่าฉากเหล่านี้ไม่ได้มาจากจินตนาการ แต่ควรจะเป็น…ความทรงจำ

ด้านล่างเป็นร่างของสตรีที่อ่อนนุ่ม…ขาของนางหนีบรอบเอวเขา และเขาก็รัดร่างของนางไว้ กดนางลงกับรั้วเหล็กที่เย็นเฉียบ

เสียงอาวุธโลหะกระทบกันดังขึ้น วุ่นวายและไม่เป็นระเบียบ คลื่นลูกแล้วลูกเล่าเหมือนการชะล้างความปรารถนาอันท่วมท้นในร่างกาย

เสียงครวญครางอย่างเหลือทนและลมหายใจร้อนชื้นของสตรีกระจายไปทั่วใบหน้า ใจเต้นเร็วอย่างควบคุมไม่ได้ขึ้นมาทันที

กู้ฉางยวน…’ นางขมวดคิ้วครวญคราง เรียกชื่อของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉางยวน…’

‘เอี๊ยด…’

จู่ๆ ก็มีเสียงเสียดสีบาดหูดังขึ้น ฮวาหยางล้มไปด้านหน้า โต๊ะที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาถูกผลักห่างออกไประยะหนึ่งทันที

กู้ซิ่งจือตกใจกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ครั้นก้มลงมองจึงพบว่าการดันเมื่อครู่ทำให้แท่นฝนหมึกบนโต๊ะพลิกคว่ำ น้ำหมึกสาดกระจาย ไม่เพียงทำให้ตัวอักษรที่เขียนเสียหาย แต่ยังกระเซ็นถูกนางทั้งตัว

เมื่อสติกลับคืนมา เขาจึงพบว่าคนที่อยู่ข้างๆ ตกใจไม่น้อย ดวงตาที่เปียกชื้นกำลังมองเขาอย่างตื่นตกใจยิ่ง

“ขออภัย” กู้ซิ่งจือโบกมืออย่างเหนื่อยล้าและเอ่ยว่า “คงเป็นเพราะระยะนี้เหนื่อยเกินไป ทำให้สับสนเล็กน้อย ทำเจ้าตกใจ…”

ยังพูดไม่จบสายตาก็มองไปยังมืออีกข้างที่สาวน้อยจับเอาไว้แน่น ดูเหมือนนางกำลังจับอะไรบางอย่าง

“เป็นอะไรไป” กู้ซิ่งจือไม่เข้าใจ “ข้าทำให้ของสำคัญอะไรของเจ้าสกปรกหรือไม่”

ครู่หนึ่งฮวาหยางจึงพยักหน้า แล้วรีบส่ายหน้าทันที กู้ซิ่งจือมองดูสิ่งที่อยู่ในมือนางด้วยความสับสน ก่อนจะจำของที่มีรอยหมึกจางๆ นั้นได้

นั่นคือถุงผ้าที่ฉินเจาถือเอาไว้ก่อนตาย

และในเวลานี้ฮวาหยางก็รู้สึกตัวเช่นกัน จับถุงผ้าที่เปื้อนน้ำหมึกจนมองไม่เห็นสีเดิม ก้มหน้าแล้วผลักประตูวิ่งหนีไป

ห้องอ่านหนังสือที่ว่างเปล่า แสงเทียนที่มืดลงเรื่อยๆ

กู้ซิ่งจือยืนอยู่คนเดียวครู่หนึ่ง หวนนึกถึงภาพที่ปรากฏขึ้นในสมองเมื่อครู่ก็อดที่จะยันกายกับโต๊ะด้วยความเสียใจไม่ได้

สถานที่ในฝันที่เขาเคยไปมานับครั้งไม่ถ้วน ย่อมรู้ดีว่าที่นั่นคือห้องขังนักโทษประหารของกรมอาญา ทำเรื่องเช่นนั้นกับนักโทษหญิงในห้องขังนักโทษประหาร…

กู้ซิ่งจือกำหมัดทุบหน้าผาก ไม่ต้องพูดถึงการทำอย่างนั้นจริงๆ แม้แต่คิด เขาก็ยังรู้สึกว่าเหลือเชื่อแล้ว

เหลวไหล

เหลวไหลจริงๆ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com