เอ่อ…จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกสาดน้ำใส่ ความเป็นจริงคงไม่ย่ำแย่ถึงเพียงนั้นกระมัง
“โม่อีเหริน?” ไป่หลี่จิงหงมองนางด้วยความแปลกใจ นางกำลังคิดอะไร คิดจนหัวคิ้วมุ่นเป็นปมแล้ว ซ้ำยังหน้าดำทะมึนอีกด้วย
“ไม่มีอะไร” โม่อีเหรินโกหกเอาตัวรอด สลัดความคิดเหลวไหลในหัวทิ้งไป แล้วเปลี่ยนมาเอ่ยถามเรื่องเป็นการเป็นงาน “จิงหง ท่านบอกว่าดินแดนทั้งสองไม่ได้มีการติดต่อกัน แล้วอย่างนั้นมารดาท่านมาได้อย่างไร”
“มาได้อย่างไรข้าก็ไม่รู้ นางเองก็ไม่มีทางบอก เรื่องที่ข้าแน่ใจได้คือทุกครั้งที่มา จะมีคนมามากที่สุดแค่สามคน”
“สามคน?” โม่อีเหรินข้องใจยิ่ง ทันใดนั้นก็ค้นพบว่าโลกนี้ยังมีเรื่องอีกมากมายที่นางไม่เข้าใจ
ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านตาจะรู้หรือไม่…
นางเพิ่งจะคิดถึงตรงนี้ เสียงของท่านก็ดังขึ้น
“บนร่างของคนที่มาใช่พกเครื่องรางหยกหรือป้ายหยกที่วาดรูปทรงกลมที่ดูแปลกจำเพาะไว้ด้วยหรือไม่”
ไป่หลี่จิงหงกับโม่อีเหรินหมุนตัวไปพร้อมกัน มองเห็นท่านตาเดินอย่างแช่มช้าออกมาจากในประทุนเรือ
ไป่หลี่จิงหงย้อนนึกถึงสิ่งที่ได้เห็นตอนห้าขวบ… “มี”
ขณะมารดาของเขาจะจากไปในตอนนั้นได้ไปอยู่เบื้องหน้าเขตลี้ลับของเกาะหุน เวลานั้นบนมือนางถือป้ายหยกไว้ป้ายหนึ่งจริงๆ บนนั้นสลักอักขระยันต์ที่ดูแปลกจำเพาะไว้ ขณะนางถ่ายพลังใส่เข้าไป อักขระยันต์ก็พลันเปล่งแสงขึ้นมาตอบรับกับโพ้นนภา แล้วหลังจากนั้นนางก็หายตัวไปตามอักขระยันต์ที่จางหาย
คำตอบของไป่หลี่จิงหงทำให้โม่ซั่งเฉินมีสีหน้าชะงักค้าง
“ท่านตา มันคืออะไรหรือเจ้าคะ” โม่อีเหรินเพิ่งเคยเห็นสีหน้าของท่านตาปรากฏ ‘แววเคร่งเครียด’ ออกมาเป็นครั้งแรก ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก
“ทุกครั้งที่มามีคนมากที่สุดเพียงสามคน?” โม่ซั่งเฉินถามต่อ
“ขอรับ ตอนกลับก็กลับไปสามคนเช่นกัน” ไป่หลี่จิงหงเอ่ยตอบ
“แต่ละครั้งมาห่างกันนานเท่าไร”
“ครั้งล่าสุดคือราวสิบห้าปีก่อน ก่อนหน้านั้นก็ห้าปี” ไป่หลี่จิงหงตอบอย่างละเอียด
โม่ซั่งเฉินได้ยินแล้ว สีหน้าเคร่งเครียดคลายลงเล็กน้อย “ปล่อยให้คนไปมาเกาะหุนตามสะดวก ไป่หลี่จิ้งหย่วนไม่มีความเห็นใดๆ?”
“ยี่สิบกว่าปีก่อนบิดาก็เคยเป็นกังวล ทว่าหลังจากการพบหน้าเมื่อสิบห้าปีก่อน บิดาก็มิได้เป็นกังวลอีก” ไป่หลี่จิงหงรู้ความหมายของคำถามของเขา
เนื่องจากความจริงได้พิสูจน์แล้วว่ามารดามิได้มีความสามารถเอาชนะบิดาได้อีกต่อไป
และเนื่องจากระหว่างการต่อสู้ทั้งสองครั้งที่ห่างกันหลายปี บิดาได้ค้นพบว่าพลังแก่นแท้ของมารดามิได้พัฒนาขึ้นโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเรื่องที่โม่ซั่งเฉินเป็นกังวลย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น
โม่อีเหรินมองดูท่านตาที่มีสีหน้าครุ่นคิดพลางกระตุกไป่หลี่จิงหงเบาๆ เป็นการบอกให้เขาปล่อยตนเอง
แม้ไป่หลี่จิงหงจะไม่อยากปล่อยเสียเท่าไร แต่ก็ยังคงคลายอ้อมแขนออกเล็กน้อย