ตำแหน่งนี้ไม่ว่าชายฉกรรจ์จะโจมตี หรือสตรีสองนางบนพื้นจะลอบจู่โจม เป้าหมายแรกที่จะโดนก่อนล้วนเป็นไป่หลี่จิงหง
ชายฉกรรจ์มองดูการกระทำของไป่หลี่จิงหงโดยไม่กระโตกกระตาก
ดินแดนเทพยุทธ์เล่าลือกันว่าไป่หลี่จิงหงประมุขน้อยเกาะหุนตกหลุมรักโม่อีเหริน ท้าทายสามสมาคมใหญ่และหอซือมิ่งเพื่อนาง ดูท่าเรื่องนี้คงเป็นความจริง
ชายฉกรรจ์พินิจมองโม่อีเหรินอีกครั้ง ลำพังดูเช่นนี้มองไม่ออกจริงๆ ว่านอกจากความมีชีวิตชีวาน่าพึงใจและความเฉลียวฉลาดน่ารักแล้ว นางยังมีจุดใดที่ทำให้คนสนใจได้อีก ทว่า…ชุดปีกสวรรค์บนตัวนางมิใช่ใครๆ ก็มีในครอบครองได้ ถึงจะเป็นที่ดินแดนแรกนภา ผู้ที่ทำชุดปีกสวรรค์เยี่ยงนี้ออกมาได้ก็มีไม่มากเช่นกัน
อีกทั้งสัตว์ตัวน้อยสองตัวที่อยู่บนบ่าและบนมือนางก็คล้ายว่าจะไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้น
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ นางก็ยังคงไม่ใช่ตัวเลือกภรรยาในอุดมคติของหงเอ๋อร์อยู่ดี…
“ท่านอาของท่านป้า สายตาของท่านพิกลยิ่ง” โม่อีเหรินจ้องเขาพลางเอ่ย
“ท่านอาของท่านป้า?” ชายฉกรรจ์งันไป
“ท่านป้าท่านนี้เรียกท่านว่าท่านอานี่นา” โม่อีเหรินชี้ไป่หลี่เยียนที่อยู่บนพื้น “ท่านจึงเป็นท่านอาของท่านป้า”
“…” เรียกตรงเผงเกินไปแล้ว
“ท่านอาของท่านป้า สายตาที่ท่านมองข้าดูเหมือนว่าข้าเป็นสินค้ารอจำหน่ายเมื่อได้ราคาดี ท่านพึงต้องทราบไว้ว่าข้ามิใช่คนที่ท่านสามารถตัดสินราคาได้”
วาจาประโยคสุดท้ายมีความหยิ่งทะนงและความวางอำนาจรำไรของนางแย้มพรายออกมา แม้แต่ไป่หลี่จิงหงก็ยังประหลาดใจเล็กๆ
ชายฉกรรจ์ประหลาดใจเช่นเดียวกัน แต่กลับไม่ได้ใส่ใจ “สาวน้อย อย่านึกว่าตนเองสามารถวางยาทำให้คนล้มได้ก็นับว่ามีฝีมือแล้ว เจ้าสามารถเอาชนะพวกนางได้ก็ด้วยอาศัยการลอบโจมตี หาใช่ฝีมือที่แท้จริงไม่”
“ไม่ว่าเป็นม้าพ่อพันธุ์หรือม้าแก่ วิ่งชนะก็นับเป็นม้าดี ท่านอาของท่านป้าคิดเห็นเช่นไร”
“การกระทำนอกรีตนอกรอย ไม่มีค่าพอให้พูดถึง มิใช่พฤติการณ์ของชายชาตรี” ชายฉกรรจ์ไม่เห็นด้วย
“ในสนามรบล้วนกล่าวกันว่าการศึกไม่หน่ายกลอุบาย ยิ่งกว่านั้นก็เป็นท่านป้าท่านนี้ลอบโจมตีก่อน ยังจะให้ข้ามีคุณธรรมจริยธรรมเมตตาธรรมกับคนที่ลอบโจมตีข้าอีกหรือไร” โม่อีเหรินไม่เห็นด้วยกับคำของชายฉกรรจ์ “อีกอย่างข้าก็เป็นสตรีตัวน้อย มิใช่ชายชาตรี เห็นแก่ที่ท่านแซ่ไป่หลี่เหมือนกัน ข้าจะไว้หน้าจิงหงสักครา ท่านพาพวกนางจากไปบัดเดี๋ยวนี้” โม่อีเหรินเอ่ยไล่คนอีกครา
ชายฉกรรจ์ถูกทำให้โมโหจนยิ้มออกมา
“เจ้าไล่ข้า?” ชายฉกรรจ์เดินไปที่ใดล้วนแต่ได้รับความเคารพเสมอมา ชั่วชีวิตไม่เคยถูกคนไล่ รอยยิ้มจึงบิดเบี้ยวเหลือกำลัง
“ใช่ ไล่ท่าน”
ชายฉกรรจ์แค่นเสียง “สาวน้อย เห็นแก่ที่หงเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับเจ้า ข้าไม่อยากถือสาหาความเจ้าเกินไป เจ้าเองก็รู้จักบันยะบันยังสักหน่อย”
“คำกล่าวที่ว่าคนร้ายตะโกนขอความช่วยเหลือก็หมายถึงคนประเภทอย่างท่าน เป็นพวกท่านมาหาเรื่องพวกข้า รบกวนการเที่ยวเล่นของพวกข้า ซ้ำบัดนี้ยังหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ อีก ท่านนึกจริงๆ หรือว่าพวกข้ารังแกได้ง่าย” โม่อีเหรินก้าวออกจากการปกป้องของไป่หลี่จิงหง แววตาที่สุกใสเสมอมามีแววดุดันแฝงอยู่เป็นครั้งแรก