โม่อีเหรินโมโหแล้วจริงๆ
ไป่หลี่จิงหงไม่ได้ห้ามนาง เพียงแต่เปลี่ยนมาคุ้มกันหลังนางแทน เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมีโอกาสลอบโจมตีนางอีก
“ช่างเป็นสาวน้อยเจ้าอารมณ์ยิ่งนัก ข้ายังไม่ทันโมโห เจ้ากลับชิงตัดหน้าข้าเสียแล้ว” ชายฉกรรจ์ยิ่งรู้สึกว่าน่าขันกว่าเดิมแล้ว
เป็นแค่สาวน้อยนางหนึ่งก็กล้ามาพูดจาขู่เข็ญต่อหน้าเขา คนหนุ่มสาวสมัยนี้ช่างอารมณ์ร้ายและความรู้น้อยโดยแท้ นั่งก้นบ่อมองท้องฟ้า ไม่รู้ว่าฟ้ากว้างใหญ่เพียงไร
“ท่านอาของท่านป้าท่านนี้ อย่ามาพูดเหมือนว่าท่านได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีเลย หากท่านได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี มีท่วงทีของผู้อาวุโสจริงๆ ท่านมีหรือจะเป็นฝ่ายมาหาเรื่องคนหนุ่มสาวอย่างพวกข้า ในความเป็นจริงท่านก็มิใช่อาศัยพลังแก่นแท้ที่ท่านมี คิดว่าสามารถเอาชนะจิงหงหรือถึงขนาดจับตัวเขากลับไปได้ง่ายๆ ถึงได้มาลงมือกับพวกข้าหรือไร”
ที่แท้โม่อีเหรินก็มองจุดประสงค์ของเขาออกอย่างปรุโปร่งแล้ว
“น่าเสียดายที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ท่านต้องการ จิงหงแข็งแกร่งกว่าที่ท่านคิดไว้ อีกทั้งสองคนนี้ก็ถูกข้าวางยาจนหมอบไปแล้ว ดังนั้นท่านถึงได้หยุดมือ”
“สาวน้อยพูดได้ถูกต้อง แต่แล้วอย่างไรเล่า” เป็นความจริง ชายฉกรรจ์ไม่ถือสาที่จะยอมรับ ใครใช้ให้เยียนเอ๋อร์กับซย่าอวี่ไม่เอาไหนถึงเพียงนี้เล่า
“ในเมื่อข้าพูดถูก เช่นนั้นท่านอาของท่านป้า ด้วยอายุของท่านที่ไม่รู้ว่ามากกว่าข้าตั้งกี่ปี ท่านก็ควรจะเข้าใจความจริงเรื่องหนึ่ง…” โม่อีเหรินมองเขายิ้มๆ พลางกล่าวช้าๆ “บัดนี้ผู้ใดมีพลังแก่นแท้ ผู้นั้นเป็นผู้ตัดสินใจ”
เขามีพลังแก่นแท้พอหรือ สายตาสงสัยมองตรงไปที่ชายฉกรรจ์อย่างไม่เกรงใจ
ถูกผู้น้อยกระทู้ถามเช่นนี้ ชายฉกรรจ์ก็มีสีหน้าเข้มขึ้น “สาวน้อย พูดอะไรออกมาจะต้องระวัง อย่าหาเรื่องใส่ตัว”
“ท่านอาของท่านป้า จะบิดพลิ้วต้องดูกาลเทศะด้วย ถ้ามิใช่เพราะสองคนนี้ยังต้องการให้ท่านพาตัวไป ท่านคิดว่าท่านจะยังสามารถยืนพูดมากกับข้าถึงเพียงนี้อยู่ตรงนี้ได้อย่างครบสามสิบสองอีกหรือ”
คนที่อาศัยความอายุมากกว่ามาข่มผู้อื่น มาเจอกับคนที่ทำอะไรไม่ตามแบบแผน คนอายุมากถูกทำให้โมโหแล้ว คนอายุน้อยกลับยังลอยชาย เฟิงเหยี่ยนที่กลั้นขำมาตลอดแสดงความเห็นใจเขาทันที
“พรืด…”
อีเหรินน้อยน่ารักเหลือเกิน! มิหนำซ้ำยังเฉลียวฉลาดเสียชวนให้คนเอ็นดู ไม่ว่าผู้ใดคิดจะรังแกอีเหรินน้อย ใช้อารมณ์กับอีเหรินน้อย ล้วนสมควรถูกทำให้โมโหจนเส้นเลือดในสมองแตก!
“สาวน้อย เจ้านึกจริงๆ หรือว่าการวางยาจะใช้ได้ผลกับทุกคน”
“ท่านอาของท่านป้า ท่านคงไม่คิดว่าข้าวางยาเป็นอย่างเดียวหรอกกระมัง”
“หรือว่าเจ้ายังมีความสามารถอื่นอีก” ชายฉกรรจ์นิ่งงันไป เดิมเขาคิดเช่นนี้จริงๆ
โม่อีเหรินแค่นเสียงออกจมูก “ท่านไม่ได้เป็นอะไรกับข้า เหตุใดข้าต้องบอกท่านด้วย”
ชายฉกรรจ์ถูกทำให้โมโหอีกครั้งแล้ว “สาวน้อย คนแก่อย่างข้าไม่อยากถือสาหาความกับเจ้า มิเช่นนั้นจะถูกคนหาว่าข้ารังแกเด็กเอาได้ เจ้าเองก็อย่ากำเริบเสิบสานเกินไปนัก”
“อ้อ ไม่อยากรังแกเด็ก หรือว่าที่เมื่อครู่ท่านสู้กับจิงหงเป็นครึ่งค่อนวันมิใช่การรังแกเด็ก”
“ข้า…นั่นข้ากำลังทดสอบพลังแก่นแท้ของหงเอ๋อร์ต่างหาก!”
“เป็นเพราะจิงหงไม่ฟังคำของท่าน ท่านถึงได้ลงมือ เตรียมจะจับตัวเขากลับไปมากกว่ากระมัง บัดนี้ท่านทำมาพูดเสียน่าฟังก็เพื่ออำพราง ท่านอำพรางก็แสดงว่าท่านร้อนตัว กล้าทำไม่กล้ารับ พฤติกรรมพรรค์นี้ก็คือพฤติกรรมที่ชายชาตรีพึงมีหรือ”
“…” ชายฉกรรจ์ถูกตอกกลับจนเบื้อใบ้ไร้คำพูด