อีกด้านหนึ่งโม่ซั่งเฉินเองก็อ่านเนื้อหาในม้วนไผ่หยกจบแล้ว เพียงแค่ได้อ่านเคล็ดวิชาชุดนี้ก็ทำให้โม่ซั่งเฉินต้องพยักหน้าด้วยความชื่นชม
“วันนี้เจ้าง่วนอยู่กับการฝึกสิ่งนี้ที่ใต้น้ำหรือ”
“เอ่อ…ยังมีนี่ด้วยเจ้าค่ะ”
โม่อีเหรินโบกมือไปบนโต๊ะ บนโต๊ะศิลาก็มีไข่มุกสดใสวาววามกองหนึ่งปรากฏขึ้นในทันใด หลากสีสัน ซ้ำยังมีหยาดน้ำหยดลงมา
ดูช่าง…เอ่อ…สดอ่อนน่าอร่อยโดยแท้
เฟิงเหยี่ยนและพี่น้องสกุลฉู่ถูกไข่มุกที่หลากสีสันเพียงนี้ วาววามเพียงนี้ จำนวนมากเพียงนี้ทำให้ตะลึงลาน ส่วนโม่ซั่งเฉินก็…ม่านตาหดตัว
“ไข่มุกสีรุ้ง!”
“และยังมีนี่อีก…” เดิมทีโม่อีเหรินจะเอาหอยกาบยักษ์ออกมา แต่มองซ้ายมองขวาแล้ว หากเอามันออกมาในนี้ ไม่ทับสมุนไพรก็ต้องทับศาลาแห่งนี้เสียหายแน่นอน
นางเหลือบสายตามองเขี้ยวเงิน “เขี้ยวเงิน เจ้ามานี่หน่อย”
เขี้ยวเงินได้ยินก็กระโดดลุกขึ้นเดินตามโม่อีเหรินออกไปข้างนอกทันที
โม่อีเหรินพูดกับมันสองสามคำ ใบหน้าหมาป่าที่ดูเย็นชาสง่างามของเขี้ยวเงินก็พลัน…ยุ่งยากใจ ทว่ามันยังคงพยักหน้า
“เขี้ยวเงิน มีเจ้าอยู่ช่างดีจริงๆ” โม่อีเหรินยิ้มตาหยีในทันใด
เขี้ยวเงินหายยุ่งยากใจในทันที โม่อีเหรินดีใจก็พอแล้ว ส่วนเรื่องขายหน้าอะไร…ให้คิดเสียว่ามันไม่มีอยู่
“พร้อมหรือยัง”
“วู้” เขี้ยวเงินตอบรับ ก่อนบินขึ้นสูง
แม้จะพูดภาษามนุษย์ได้ แต่ถึงอย่างไรโม่อีเหรินก็ฟังภาษาสัตว์เข้าใจ อีกทั้งเสียงดั้งเดิมของสัตว์วิเศษอันที่จริงก็เป็นเสียงที่พวกมันใช้ได้เคยชินและสบายที่สุด ดังนั้นหากไม่จำเป็น เขี้ยวเงินก็จะไม่พูดภาษามนุษย์
“ฮ่าๆ” โม่อีเหรินหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง มือขวายกสูง หอยกาบตัวใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศทันที จากนั้นก็ลอยตกลงบนหลังเขี้ยวเงินอย่างช้าๆ
มองดูแล้วมีขนาดอย่างน้อยเกินสิบจั้ง บดบังท้องฟ้าจนทางหุบเขาด้านนี้มืดลงกว่าเดิม
บุรุษทั้งสี่ในศาลาเดินออกมา ก็ถูกโม่อีเหรินทำให้ปากอ้าตาค้างไปอีกครั้ง
เทียบกันแล้ว หมาป่าสีเงินที่เอาตัวยันไว้ข้างใต้ตัวนั้นปกติดูองอาจห้าวหาญน่าคร้ามเกรงยิ่ง บัดนี้กลับดูตัวเล็กน่ารักได้ถึงเพียงนี้!
เป็นหอยกาบที่ใหญ่ยิ่งนัก
เป็นเปลือกหอยที่ใหญ่ยิ่งนัก
อีเหรินน้อยเอาของที่ใหญ่ถึงเพียงนี้กลับมาได้อย่างไร…
ฉู่เซวียนอั๋ง ฉู่เซวียนฉี เฟิงเหยี่ยน ทางหนึ่งถูกทำให้จิตใจสั่นสะเทือน ขณะเดียวกันอีกทางก็มีแต่เครื่องหมายคำถาม
ทว่าโม่ซั่งเฉินกลับเดินไปข้างหน้า ก่อนยื่นมือออกมา
พลังวิเศษขุมหนึ่งถูกปล่อยออกมายันตัวหอยกาบไว้แทนโม่อีเหริน พร้อมทั้งตรวจดูสภาพของหอยกาบยักษ์
“หอยกาบตัวนี้…อายุเป็นหมื่นปีแล้ว”
“หมื่นปี?!” สามคนที่ยังปากอ้าตาค้างอยู่ข้างหลังสูดลมหายใจเฮือกพร้อมกัน
“มีความเป็นไปได้เจ้าค่ะ ตอนที่ข้าเจอ มันก็มีสภาพเยี่ยงนี้แล้ว ทว่าด้านในยังมีไข่มุกเม็ดใหญ่อยู่อีกไม่กี่เม็ด” พอคิดถึงไข่มุก โม่อีเหรินก็ยิ้มตาหยี “ท่านตา ท่านแบ่งไข่มุกบนโต๊ะไปสักหน่อยนะเจ้าคะ ที่ข้ายังมีอยู่อีกจำนวนหนึ่ง สามารถใช้ทำเป็นน้ำวิเศษและยาลูกกลอนสำหรับบำรุงสายตาได้”
โม่ซั่งเฉินมองนางอึดใจหนึ่ง