“โม่อีเหริน เหนื่อยหรือไม่” ฉู่เซวียนอั๋งไม่สนใจอย่างอื่น สนใจเพียงเรื่องนี้
เขาไม่เข้าใจว่าการหลอมโอสถมีความยากลำบากมากเพียงไร แต่ถ้าเป็นเรื่องง่ายๆ หมอโอสถบนดินแดนเทพยุทธ์ก็คงไม่มีน้อยถึงเพียงนี้ มิหนำซ้ำเดินไปแห่งหนใดก็ล้วนได้รับความเคารพยกย่อง
ส่วนน้องสาวของเขาแม้จะหลับมาหนึ่งวัน แต่ก่อนหน้านั้นนางอยู่ในห้องหลอมโอสถถึงสามวันเต็มๆ
“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ” โม่อีเหรินตอบพลางยิ้มตาหยี “พี่ใหญ่ ท่านกับพี่เล็กได้ฝึกเคล็ดวิชาเคลื่อนที่ในน้ำหรือยัง”
“ฝึกแล้ว” ฉู่เซวียนอั๋งลูบศีรษะน้องสาว “ไม่ต้องเป็นห่วงพวกข้า เส้นทางการฝึกบำเพ็ญเดิมทีก็สมควรเป็นความพยายามของตนเอง ไม่ต้องเตรียมอะไรให้พวกข้ามากเกินไป”
ตอนยังเล็ก นางเป็นน้องสาวที่พวกเขาสาบานว่าจะปกป้องคุ้มครอง
เติบใหญ่แล้ว แม้นางจะดูตัวเล็กอ่อนแอ แต่อันที่จริงกลับมีพลังแก่นแท้แข็งแกร่งยิ่ง
ไม่ว่าอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง นางก็เป็นน้องสาวของเขา ต่อให้บัดนี้พลังแก่นแท้ของพวกเขากลับกลายเป็นสู้นางไม่ได้แล้ว แต่พวกเขายังคงไม่มีทางลืมความมุ่งมาดปรารถนาเดิมในตอนเป็นเด็ก
น้องสาวไม่จำเป็นต้องเตรียมทุกอย่างให้พวกเขา
“ทางเดินเองได้ ฝึกบำเพ็ญพยายามเองได้ แต่หากสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นอีกนิด มีสิ่งในครอบครองได้มากขึ้นอีกหน่อย เหตุใดต้องปฏิเสธเล่าเจ้าคะ” โม่อีเหรินพิงไหล่พี่ชาย “ท่านพี่ สิ่งที่ข้าชำนาญที่สุดคือการหลอมโอสถ และก็มีวิธีการฝึกบำเพ็ญจำนวนหนึ่ง แม้จะอยากแบ่งปันให้พวกท่าน แต่หากพวกท่านใช้งานไม่เป็น ตัวพวกท่านเองไม่เพียรพยายามฝึกบำเพ็ญ เช่นนั้นข้ามอบให้มากเพียงไรก็ไม่มีประโยชน์”
ก็เหมือนตอนอยู่ในตระกูล มิใช่มีวิชาของตระกูล มิใช่มีทรัพยากรสำหรับฝึกบำเพ็ญที่ตระกูลอำนวยให้เช่นกันหรือไร
สิ่งที่นางสามารถช่วยได้ก็มีเพียงสิ่งเหล่านี้ การฝึกบำเพ็ญยังคงต้องอาศัยตัวพวกเขาเอง
มีเพียงพยายามด้วยตนเองจนสำเร็จเท่านั้นจึงจะเกิดประโยชน์กับตนเองอย่างแท้จริง
“ท่านพี่ หากพวกท่านมีของดี จะไม่มอบให้ข้าหรือเจ้าคะ” โม่อีเหรินย้อนถาม
“ต้องให้สิ!” ฉู่เซวียนอั๋งและฉู่เซวียนฉีตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“นั่นก็ถูกต้องแล้ว พวกเราเป็นพี่น้องกัน ความคิดความอ่านล้วนเหมือนกัน แล้วเหตุใดต้องใส่ใจอะไรมากมายปานนั้น ฝึกบำเพ็ญก็เพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น และก็เพื่อตนเองจะมีอิสระ ทำเป้าหมายของตนเองให้สำเร็จ ขอเพียงยึดมั่นในวิถีทางของตนเอง ไม่ลืมความตั้งใจเดิม ไม่คิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่น ไม่หวังในโชควาสนา ใครมอบอะไรให้มากเท่าใด สำคัญนักหรือเจ้าคะ”
หากคิดว่าตนเองเป็นพี่ชายจึงไม่ควรรับสิ่งใดจากน้องสาว ยุ่งยากใจเนื่องจากได้รับมามาก รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ความเนื่องจากเหตุนี้ นั่นมิใช่จะกลับกลายเป็นการกักขังตนเองแล้วหรือไร
ต้องมองการณ์ไกล จึงจะสามารถไปได้ไกล
ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถไปทุกอย่าง และก็ไม่มีใครที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ก็เหมือนตอนยังเล็ก นางเดินแค่สิบก้าวยังรู้สึกเหนื่อย นอนนิ่งอยู่บนเตียงแทบทุกวัน ไม่เคยคิดว่าตนเองจะเติบใหญ่ได้ ทว่าบัดนี้นางกลับเติบใหญ่แล้ว
เส้นทางบนโลกนี้ขรุขระก็เดินให้ระวังหน่อย แต่อย่าได้ทำให้ตนเองสะดุดเสียเอง นั่นเป็นการหาเรื่องลำบากให้ตนเองแล้ว
“อืม ไม่สำคัญ” ฉู่เซวียนอั๋งยิ้มออกแล้ว เขาพยักหน้าน้อยๆ ให้น้องสาว
“ไม่สำคัญ” ฉู่เซวียนฉีก็พยักหน้าเช่นกัน
ดูเหมือนไม่ว่าเรื่องใดมาถึงมือของโม่อีเหริน ก็ล้วนเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง ความยุ่งยากใจของพวกเขาเกินจำเป็นไปหน่อยจริงๆ
มาที่เกาะโม่เสวียนได้เพราะน้องสาวแล้วอย่างไร
มีสิ่งในครอบครองมากมายถึงเพียงนี้ได้เพราะน้องสาวแล้วอย่างไร
เพราะว่าห่วงใย น้องสาวถึงได้ทำอะไรเพื่อพวกเขามากเพียงนั้น