พวกเขาแค่ต้องรับไว้ แล้วอย่าลืมความมุ่งมาดปรารถนาเดิมของตนเอง ไม่เกียจคร้านทะนงตนเพราะเหตุนี้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
สิ่งที่น้องสาวต้องการมิใช่ความซาบซึ้งใจและความยุ่งยากใจจากพวกเขา แต่เป็นการที่พวกเขามุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ก้าวแล้วก้าวเล่า
“เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการฝึกบำเพ็ญหรือการดำรงชีวิต ก็ล้วนต้องมีความสุข อย่าหาเรื่องทุกข์ให้ตนเอง” โม่อีเหรินยิ้มตาหยี “เพราะว่าท่านพี่หาเรื่องกลุ้มในตนเอง ดังนั้นจะต้องได้รับการลงโทษ”
ฉู่เซวียนอั๋งและฉู่เซวียนฉีสบตากัน
“ลงโทษอะไรหรือ”
“พี่ใหญ่กับเขี้ยวเงิน พี่เล็กกับเซิ่น จะสู้จะหนีจะไล่ตามได้หมดทั้งสิ้น ห้ามหยุดเป็นเวลาสองชั่วยาม”
โม่อีเหรินเพิ่งจะพูดจบ เขี้ยวเงินกับเซิ่นก็วิ่งมากระโจนใส่คนทั้งสองทันที เคราะห์ดีที่สองพี่น้องตาไวเท้าไว มิเช่นนั้นยามนี้คงถูกกระแทกล้มแล้ว…
“เริ่มตอนนี้เลยหรือ!”
“อย่างน้อยก็บอกกันก่อนสิ!”
นี่คือการลอบจู่โจมชัดๆ
“วู้!”
“โฮก!”
พวกมันส่งเสียงร้องก่อนแล้ว ไม่ได้ลอบจู่โจม
สองพี่น้องถูกวิ่งไล่ตามไปแล้ว ต่อจากนั้นก็มีทั้งดาบวายุทั้งพ่นไฟ ทำเอาฉู่เซวียนฉีได้แต่ปล่อยเปลวอัคคีออกมาใช้ไฟสู้กับเซิ่น
ฉู่เซวียนอั๋งน่าสงสารกว่าเล็กน้อย ทำได้เพียงจับกระบี่ฝืนต้านทาน
ทว่าขณะเดียวกับที่ฝืนต้านดาบวายุ เขาก็ค้นพบว่ามือของเขาเคลื่อนไปที่ใด กระบี่ก็เคลื่อนตามไปที่นั้น กำลัง ทิศทาง และความแม่นยำล้วนเป็นไปตามใจนึก ไม่มีสักอย่างที่คลาดเคลื่อน ฉู่เซวียนอั๋งชักจะแจ้งใจอยู่หน่อยๆ แล้ว
ทางด้านโม่อีเหรินก็หยิบชุดน้ำชาออกมา ระหว่างชงชาก็ยังไม่ลืมแบ่งให้ท่านตาเหยี่ยนที่กำลังชมเรื่องสนุกด้วยกัน
“ไม่แปลกเลยที่เฉินจะมีใจลำเอียงไปทางเจ้าถึงเพียงนี้”
ทั้งๆ ที่อายุเพิ่งจะสิบกว่า ทั้งๆ ที่บางครั้งดูไร้เดียงสามาก ทว่าบางครั้งกลับมีความคิดความอ่านละเอียดอ่อนจนน่ากลัว ปมในใจของอั๋งเอ๋อร์และฉีเอ๋อร์ล้วนถูกนางมองเห็นอยู่ในสายตา
เนื่องจากไม่อาจเปิดใจกว้าง มีเรื่องกวนใจ การฝึกบำเพ็ญในระยะนี้ของสองพี่น้องจึงล้วนหยุดชะงักอยู่เล็กน้อย
เขากับเฉินล้วนมองออก แต่กลับไม่สะดวกจะพูดอะไรมาก
พูดออกไปด้วยฐานะตาและอาจารย์ ถ้าไม่ฟังเหมือนเป็นการอบรมตักเตือนก็จะฟังเหมือนเป็นการอบรมสั่งสอน พวกเขาสามารถฟังเข้าใจ แต่ไม่แน่ว่าจะสามารถปล่อยวางได้อย่างแท้จริง ทว่าวันนี้โม่อีเหรินนับว่าเป็นคนแก้ปมแล้ว
“ท่านพี่ต้องอิสระเป็นธรรมชาติ ต้องร้ายกาจเหมือนท่านตาถึงจะดี”
“เหมือนท่านตาเหยี่ยนไม่ดีหรือไร” หน้าตาหล่อเหลา อัธยาศัยดี เป็นมิตรน่าชิดใกล้ จิตใจก็ดีงาม
“ไม่ค่อยดีเจ้าค่ะ” โม่อีเหรินตอบอย่างตรงไปตรงมายิ่ง
“ไม่ดีตรงที่ใดหรือ” เฟิงเหยี่ยนหวิดจะสำลักน้ำชา เขาถูกรังเกียจแล้ว? เขาถูกอีเหรินน้อยรังเกียจแล้วหรือ
“พูดด้วยง่ายเกินไป เก่งเกินไป คนเก่งมักต้องทำงานหนักกว่าผู้อื่น วันหน้าจะกลายเป็นวัวเป็นม้าถูกใช้แรงงาน เหน็ดเหนื่อยหนักหนา”
“…” เฟิงเหยี่ยนแน่ใจแล้วว่าตนเองถูกรังเกียจจริงๆ