โม่อีเหรินนั่งบนหลังเขี้ยวเงิน ฉู่เซวียนอั๋งกับฉู่เซวียนฉีก็ให้ฉลามสองตัวเป็นพาหนะ เคลื่อนที่ผ่านน่านน้ำทะเลด้วยความเร็วสูงสุด ครั้นมาถึงเมืองผิงเจิ้นก็ตรงดิ่งไปที่โรงเตี๊ยมเฟิงหลิน
“คุณหนูอีเหริน คุณชายใหญ่และคุณชายรองสกุลฉู่” พอหลงจู๊เฉียวมองเห็นนางก็ก้าวมาต้อนรับทันที
หลังจากศึกที่เมืองฝูเฉิง เหล่าหลงจู๊และผู้ดูแลของสมาคมเฟิงหลินทั้งหมดก็ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าสมาคมโดยทั่วกัน
หนึ่ง เห็นโม่อีเหรินเมื่อใด จงให้การรับรองระดับสูงสุด
สอง ให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือตามความต้องการของโม่อีเหรินทุกประการ มิอาจผิดพลาด
หลงจู๊เฉียวชื่นชมโม่อีเหรินอยู่เป็นทุนเดิม บัดนี้มีคำสั่งจากหัวหน้าสมาคม เขาก็ยิ่งปฏิบัติต่อโม่อีเหรินอย่างกระตือรือร้นกว่าเดิม
“หลงจู๊เฉียว ไป๋เหยามาถึงแล้วหรือไม่”
“มาถึงแล้ว เชิญตามข้ามา” หลงจู๊เฉียวพาคนทั้งสามตรงมาถึงหน้าประตูห้องแห่งหนึ่งในเรือนส่วนหลัง แล้วถึงกล่าวกับโม่อีเหรินเสียงค่อย “องครักษ์ไป๋บาดเจ็บหนักยิ่ง”
โม่อีเหรินพยักหน้า หลังหลงจู๊เฉียวเคาะประตู นางก็เดินเข้าไปในห้อง
“หลงจู๊เฉียว…” ไป๋เหยาที่นอนอยู่บนเตียงฝืนยันตัวขึ้นมา ทันใดนั้นก็มองเห็นโม่อีเหริน จึงทำท่าจะลงจากเตียงด้วยอารามตื่นเต้น “ฮูหยินน้อย…”
“อย่าขยับ! เจ้านอนไป” โม่อีเหรินบอกทันที จากนั้นก็ก้าวไปตรวจดูอาการบาดเจ็บของเขา
ลำพังเฉพาะที่มองเห็น ไป๋เหยาไม่เพียงใบหน้าซีดขาว ตามตัวก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แม้แต่บนใบหน้ายังมีรอยแผลหลายรอย ชุดตัวในที่เปลี่ยนใหม่เปื้อนเลือดน้อยๆ อีกครั้งเนื่องจากการขยับตัวลุกขึ้นของเขาเมื่อครู่นี้ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือกระดูกไหล่ขวาแตกร้าว ร่างซีกขวาส่วนบนไม่อาจใช้แรงและขยับเขยื้อนได้โดยสิ้นเชิง
ส่วนที่มองไม่เห็นก็คือเส้นชีพจรและเส้นเอ็นในตัวเขามีร่องรอยฉีกขาด พลังวิเศษที่รวมกันอยู่ตรงจุดตันเถียนถูกทำให้กระจัดกระจาย สามารถกล่าวได้ว่า…ถูกทำลายพลังวัตรแล้ว
สิ่งที่หลงจู๊เฉียวสามารถทำได้ในเวลาเร่งด่วนมีเพียงรักษาบาดแผลภายนอกและอาการบาดเจ็บที่กระดูก แล้วใช้ยาบรรเทาอาหารเจ็บปวดของเขา ทว่าเส้นเอ็น เส้นชีพจร และอาการบาดเจ็บที่จุดตันเถียนจนปัญญาจะช่วยได้จริงๆ
โม่อีเหรินตรวจดูอาการบาดเจ็บของเขาเสร็จก็มีสีหน้าเคร่งเครียด หลังป้อนยาเม็ดหนึ่งให้ไป๋เหยากินแล้วก็หยิบยาออกมาสองสามขวด ขอให้พี่ชายทั้งสองช่วยเปลี่ยนยาให้ไป๋เหยาใหม่
“ฮูหยินน้อย ข้า…ไม่เป็นอะไรมาก แต่ว่าประมุขน้อย…” ไป๋เหยาพูดพลางมีท่าทางจะอารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก
“ใจเย็นหน่อย” โม่อีเหรินยื่นมือไปถ่ายพลังปฐมเข้ากลางกระหม่อมเขา ทำให้อารมณ์ของไป๋เหยาคงที่ “เปลี่ยนยาก่อน”
ไป๋เหยาได้แต่ทำตามคำสั่ง โม่อีเหรินหลบออกไปอยู่นอกห้องก่อน
มิใช่นางไม่เป็นห่วงไป่หลี่จิงหง แต่นางเชื่อว่าท่านป้าผู้นั้นทำร้ายใครก็ได้ แต่จะไม่ทำร้ายไป่หลี่จิงหงแน่
นางยืนกรานต้องการพาไป่หลี่จิงหงไปเสียเพียงนั้น จะต้องมีจุดประสงค์แน่นอน เช่นนั้นสำหรับนางแล้วไป่หลี่จิงหงยังมี ‘ค่า’ อยู่
ชั่วครู่ให้หลังฉู่เซวียนฉีออกมา โม่อีเหรินก็เข้าไป ไป๋เหยานั่งพิงอยู่บนเตียงแล้ว
สามพี่น้องเองก็ต่างยกเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง เขี้ยวเงินกับเซิ่นแยกกันครอบครองบ่าสองข้างของโม่อีเหรินด้วยขนาดตัวที่แปลงให้เล็กแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” โม่อีเหรินถาม
“สามเดือนก่อนหลังจากแยกกับฮูหยินน้อย พวกข้าก็ตามประมุขน้อยกลับเกาะหุน…”