ตามที่ไป๋เหยาเล่า ขณะไป่หลี่จิงหงกลับถึงเกาะหุน ไป่หลี่เยียน ไป่หลี่จ้ง รวมถึงซย่าอวี่ได้มาอยู่บนเกาะสองวันแล้ว อีกทั้งยังมีข้อพิพาทกับประมุขเกาะเพราะเรื่องของไป่หลี่จิงหงอีกด้วย
ไป่หลี่จ้งใช้ฐานะญาติผู้ใหญ่เรียกร้องให้ไป่หลี่จิงหงปฏิบัติตามการจัดการของตระกูล ไป่หลี่จิงหงปฏิเสธอีกครั้ง สองฝ่ายคุยกันไม่รู้เรื่องก็สู้กันขึ้นมาอีก จากนั้นตกลงยึดตามผลแพ้ชนะ ผู้ใดชนะก็ฟังผู้นั้น
คราวนี้ไม่เหมือนกับคราวที่อยู่ในเมืองอิ้งสุ่ย ไป่หลี่จ้งหยิบเอาพลังแก่นแท้ที่แท้จริงออกมาใช้
แม้จะถูกกดพลังไว้ด้วยเพราะอยู่ดินแดนเทพยุทธ์ แต่ไป่หลี่จ้งก็มีอายุเกินสองร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การรับมือคู่ต่อสู้หรือการเคลื่อนไหวควบคุมยามรุกรับ ล้วนแต่จัดเจนกว่าคนหนุ่มอายุยี่สิบอย่างไป่หลี่จิงหงมาก
แต่หากกล่าวถึงพลังแก่นแท้ ไป่หลี่จิงหงก็มิได้อ่อนด้อยเช่นเดียวกัน
ประสบการณ์สู้ไม่ได้ ก็ใช้การจู่โจมอย่างไม่ให้ทันตั้งตัวมาชดเชย คนทั้งสองสู้กันสามชั่วยามเต็มๆ แล้วก็ยังคงไม่รู้ผลแพ้ชนะ แม้ทั้งสองจะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังเลี่ยงบาดแผลไม่กี่รอยไม่ได้
เวลานี้เองไป่หลี่เยียนพลันลงมือลอบโจมตีกะทันหัน หมายจะทำให้ไป่หลี่จิงหงเกิดอาการมึนงง แต่กลับถูกไป่หลี่จิ้งหย่วนหยุดยั้งได้ทันกาล
เนื่องจากการลอบโจมตีของไป่หลี่เยียน ไป่หลี่จิ้งหย่วนจึงสำแดงฝีมืออย่างเหี้ยมหาญ ไป่หลี่จ้งต่อสู้สิ้นเปลืองกำลังมาสามชั่วยาม แน่นอนว่าย่อมไม่มีโอกาสชนะแม้แต่นิดเดียว และก็เพราะความไม่มีเหตุผลในการลอบโจมตีระหว่างต่อสู้ ไป่หลี่จ้งจึงไม่พูดมากอีก พาไป่หลี่เยียนกับซย่าอวี่กลับไปดินแดนแรกนภาทันที
ส่วนไป่หลี่จิงหงก็มีการตระหนักรู้ใหม่ต่อวิชายุทธ์เนื่องจากการต่อสู้อย่างเต็มกำลังคราวนี้ หลังรักษาอาการบาดเจ็บเรียบร้อยจึงทำการสนทนาปรึกษาระหว่างพ่อลูกกับไป่หลี่จิ้งหย่วน
รูปลักษณ์ภายนอกของสองพ่อลูกคล้ายคลึงกันมาก แม้แต่บุคลิกพิเศษที่แสดงออกมาก็ยังใกล้เคียงกัน ข้อแตกต่างใหญ่ที่สุดระหว่างคนทั้งสองนอกจากการที่ภายนอกดูมีอายุต่างกันแล้ว ก็คือองคาพยพของไป่หลี่จิ้งหย่วนดูคร้ามเข้มกว่า ในขณะที่ไป่หลี่จิงหงออกไปทางหล่อเหลากว่า
‘จิงหง เจ้าไม่อยากไปดินแดนแรกนภาหรือ’
‘ข้าจะไปขอรับ แต่ไม่อยากไปเช่นนี้’
อันที่จริงเกาะหุนเองก็มีสิ่งตกทอดของสกุลไป่หลี่และมีเขตลี้ลับของสกุลไป่หลี่อยู่เช่นกัน
แม้สกุลไป่หลี่แห่งเกาะหุนจะมีผู้สืบสายเลือดไม่มาก แต่ส่วนใหญ่มีสติปัญญาเหนือผู้อื่น ประมุขเกาะแทบจะมีความสามารถโดดเด่นเกินใครทุกรุ่น ล้วนแต่ฝึกบำเพ็ญจนถึงจุดสูงสุดของดินแดนเทพยุทธ์
ทว่าผู้ที่ฝึกบำเพ็ญจนถึงจุดสูงสุดเหล่านี้มีเพียงจำนวนน้อยที่จากโลกไปเนื่องจากสิ้นอายุขัยอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่ล้วนแต่ผ่านการทดสอบของเขตลี้ลับ แล้วไปจากดินแดนเทพยุทธ์โดยอาศัยค่ายกลส่งตัว
เพียงแต่หลังจากจากไปก็ไม่อาจกลับมาได้อีก จวบจนช่วงร้อยปีมานี้จู่ๆ เกาะหุนก็มีคนจากภายนอกมาปรากฏตัว มิหนำซ้ำยังเป็นญาติผู้ใหญ่จากสายตระกูลอื่นของไป่หลี่จิ้งหย่วน คราวนี้พวกเขาถึงได้รู้ว่าสถานที่ที่เหล่าบรรพบุรุษไปที่แท้มีชื่อว่า ‘ดินแดนแรกนภา’
กว่าญาติผู้ใหญ่จะมาเยือนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยันต์ส่งตัวผ่านมิติก็มิใช่จะมีได้ทุกเวลา หลังจากครั้งนั้นก็มีบรรพบุรุษกลับมาอีกหนึ่งครั้ง และในครั้งที่สามก็คือการมาถึงของไป่หลี่เยียน พร้อมทั้งให้กำเนิดไป่หลี่จิงหง
หากมิใช่เพราะตัวของไป่หลี่จิ้งหย่วนเองก็เก่งกาจพอ พลังแก่นแท้ก้าวหน้าได้ไวพอ ไป่หลี่จิงหงก็คงจะถูกไป่หลี่เยียนพาตัวไปตั้งแต่เล็กๆ แล้ว
‘เจ้าจะไปดินแดนแรกนภา? แล้วแม่นางน้อยที่เจ้าพึงใจนางนั้นควรต้องทำอย่างไร’ แม้ไป่หลี่จิ้งหย่วนจะยังไม่เคยพบโม่อีเหริน แต่แค่นางเป็นหลานสาวผู้เป็นที่รักและเอ็นดูของโม่ซั่งเฉิน อีกทั้งตัวนางเองก็เป็นหมอโอสถชั้นยอด เขาก็ไม่ค่อยเห็นค้านแล้ว
ที่สำคัญที่สุดคือบุตรชายของเขา…ชอบนาง
อีกประการหนึ่ง ด้วยอุปนิสัยของไป่หลี่จิงหง ไป่หลี่จิ้งหย่วนเองก็ไม่คิดว่าถึงเขาคัดค้านจริงๆ จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
‘นางจะไปกับข้าขอรับ’
‘นางไปได้หรือ’ เงื่อนไขการไปจากดินแดนเทพยุทธ์ กล่าวว่ายากก็ไม่ยาก แต่ก็มิใช่คนทั่วไปสามารถบรรลุได้เช่นกัน
‘ได้ขอรับ’
ไป่หลี่จิ้งหย่วนพยักหน้า ‘ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็พานางกลับมาให้ข้าพบหน้าสักหน่อย’
‘ขอรับ’
ไป่หลี่จิงหงตัดสินใจแล้ว ไป่หลี่จิ้งหย่วนที่เป็นบิดาก็มีแต่ต้องสนับสนุน