สัตว์ทั้งหลายตะโกนร้องพลางไล่ตามไปทันที
‘มอ…’ ‘อีเหรินกลับมาแล้ว!’
‘โฮก…’ ‘อีเหริน!’
‘จี๊ด…’ ‘โม่อีเหริน!’
เสียงร้องเหล่านี้เป็นการประกาศให้บรรดาสัตว์ที่อยู่ในป่าออกมาฉลองด้วยกัน!
เฟิงเหยี่ยนกับพี่น้องสกุลฉู่มองดูจนปากอ้าตาค้าง
พวกเขารู้มาตลอดว่าโม่อีเหรินมีวาสนากับสัตว์ต่างๆ มาก แต่มองเห็นสัตว์ทั้งหลายรักและปกป้องโม่อีเหรินเพียงนี้ ถึงขนาดเรียนการปลูกและตากสมุนไพรจนทำเป็น นี่สมควรกล่าวว่าเหล่าสัตว์วิเศษมีความสามารถในการเรียนรู้ดีจนน่าตกใจ หรือควรกล่าวว่าน้องสาวของพวกเขาร้ายกาจเกินไปดี
สัตว์วิเศษที่ปลูกและตากสมุนไพรเป็น? ดินแดนเทพยุทธ์หลายพันปีมานี้ไม่เคยได้ยินโดยสิ้นเชิง!
ขณะที่คนทั้งสามยังคงตกตะลึงพรึงเพริดอยู่นี้เอง วาจานั้นของโม่ซั่งเฉินก็ถูกโยนมา
‘จัดการสถานที่พักเอาเอง’
นี่ทำให้พี่น้องสกุลฉู่ไม่มีเวลาให้ตกตะลึงอีก ทั้งสองเริ่มหาสถานที่และคิดว่าจะปลูกเรือนอย่างไร
เนื่องจากไม่เคยปลูกเรือนมาก่อน ดังนั้นหยาดเหงื่อ คราบน้ำตา และความเหนื่อยยากกว่าจะปลูกเรือนพักออกมาได้สำเร็จในที่สุดโดยมีเฟิงเหยี่ยนคอยชี้แนะ ก็ทำให้พวกเขานึกขยาดจนแทบไม่อยากหวนนึกถึงอีกแล้ว
ไม่กี่วันให้หลังสองพี่น้องสกุลฉู่ก็คุ้นเคยกับชีวิตบนเกาะโม่เสวียนแล้ว
โม่อีเหรินมีหัวข้อการฝึกบำเพ็ญของตนเอง ฉู่เซวียนอั๋งกับฉู่เซวียนฉีก็ย่อมจะมีเช่นกัน
ฉู่เซวียนฉีมีเฟิงเหยี่ยนให้การสอนตามเดิม ส่วนฉู่เซวียนอั๋งผ่านการฝึกบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง จึงได้สนทนาปรึกษากับโม่ซั่งเฉินอยู่ช่วงสั้นๆ
‘ท่านตา ข้าเรียนกระบี่มาตั้งแต่เล็ก และก็เป็นแต่เพลงกระบี่’
‘เจ้าอยากมีกระบี่เป็นของตนเอง หรือเพียงแต่อยากกลายเป็นมือกระบี่อันดับหนึ่งแห่งดินแดนเทพยุทธ์’ หากเป็นอย่างหลัง เช่นนั้นก็เป็นเรื่องง่ายแสนง่ายสำหรับโม่ซั่งเฉิน
เพลงกระบี่ตกทอดของสกุลฉู่ ในสายตาโม่ซั่งเฉินก็คือ ‘นั่นมันอะไร’
ไม่ใช่สิ ไม่นับว่าเป็นอะไรด้วยซ้ำไป
ในห้องหนังสือของโม่ซั่งเฉินมีเพลงกระบี่หลายชุดที่ต่อให้เพลงกระบี่ของสกุลฉู่พัฒนาไปอีกสามระดับก็ยังไล่ตามไม่ทัน ไม่ว่าชุดใด หากเรียนจนเป็นแล้วล้วนสามารถทำให้ฉู่เซวียนอั๋งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนเทพยุทธ์ได้อย่างมั่นคงทั้งสิ้น
แต่ถ้าเป็นอย่างแรก…
‘ข้าอยากมีกระบี่เป็นของตนเองขอรับ’ ฉู่เซวียนอั๋งตอบอย่างหนักแน่น
‘เช่นนั้นก็ลืมทุกอย่างที่เจ้าเคยเรียนมาไปให้หมด นอกจากวิชาที่อีเหรินมอบให้เจ้าแล้ว เช้าตรู่ของทุกวันจงฝึกท่ากระบี่พื้นฐานท่าละพันรอบ หากรู้สึกว่าลำบาก ก็จงล้มเลิกแต่เนิ่นๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา’ โม่ซั่งเฉินกล่าวได้ชัดแจ้งยิ่ง และไร้ไมตรียิ่งเช่นกัน
‘ข้าจะฝึกให้ดีขอรับ’