เห็นสัตว์วิเศษขั้นสูงตัวใหญ่ที่ควรดุร้ายน่ากลัว เวลาอยู่ต่อหน้าฮูหยินน้อยกลับมีท่าทางน่ารักเชื่องเชื่อเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแม้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์จนทับฮูหยินน้อยเป็นสิบๆ คนให้แบนได้ ต่างส่ายหางต่อหน้าฮูหยินน้อย โอ้อวดตนเอง ขอให้ลูบหัว ขอให้ชมเชย ไป๋เหยาก็อยากจะขยี้ตาจริงๆ
สายตาของเขาน่าจะดียิ่ง คราวนี้ดวงตาไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นน่าจะไม่ได้มองผิดไป
หากแต่ไม่ว่ามองอย่างไร นี่ก็ขัดแย้งกันเกินไปแล้ว!
ไป๋เหยานั่งอยู่บนหลังฉลามด้วยท่าทางที่ดูเหมือนปกติ แต่อันที่จริงภายในใจสับสนยุ่งเหยิงไปหมด รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความจริง
ทว่าก็ต้องขอบคุณฉลามทั้งสองที่ทำท่าทางน่ารักน่าชัง ทำให้อารมณ์เขาไม่ได้หนักอึ้งเท่าเก่า
แม้จะยังเป็นกังวลต่อสถานการณ์ของประมุขน้อยและเกาะหุน แต่เขาก็ใจเย็นลงได้แล้ว
ระยะทางที่ไป๋เหยาต้องใช้เวลาถึงสิบชั่วยาม ฉลามสองตัวนี้ใช้เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็มาถึงแล้ว
จากไกลๆ สามารถมองเห็นครอบแสงสีทองอ่อนขนาดมหึมา ในครอบแสงเห็นเกาะเกาะหนึ่งอยู่รำไร
ประเมินด้วยสายตา เนื้อที่ของเกาะแห่งนี้กว้างใหญ่กว่าเกาะโม่เสวียนยี่สิบเท่าขึ้นไปเป็นอย่างน้อย
ฉลามทั้งสองลดความเร็วลงภายใต้สัญญาณจากโม่อีเหริน
“ฮูหยินน้อย นั่นก็คือค่ายกลพิทักษ์เกาะ เกาะหุนอยู่ข้างในนั้นขอรับ” ไป๋เหยายืนขึ้นมองไปรอบๆ
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “เจ้าเด็กนี่กลับมาจริงๆ”
ต่อจากนั้นเงาร่างสองสายก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาในพริบตา ยืนอยู่กลางอากาศ หนึ่งสูงหนึ่งเตี้ย ผู้ที่เอ่ยปากเมื่อครู่คือคนที่เตี้ยกว่า
“ซ้ำยังพาเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาเป็นผู้ช่วยอีกสามคน ฉลามสองตัวนี้…อืม…พอฝืนใจดูได้” คนร่างเตี้ยพูดต่อ
โม่อีเหรินมองพวกเขาปราดหนึ่ง
ชุดตัวยาวสีเทาดำทั้งตัว ตรงเอวมีป้ายหยกสีน้ำเงินห้อยอยู่คนละอัน ด้านบนสลักคำว่า ‘ไป่หลี่’ เอาไว้ กลิ่นอายเก็บงำสงวนท่าที ดวงตาแฝงแววน่าเกรงขาม
เดิมทีพลังยุทธ์ของสองคนนี้น่าจะเหนือกว่าระดับยอดราชันยุทธ์แล้ว เพียงแต่เพราะมาที่นี่ถึงได้ถูกกดพลังแก่นแท้จนเหลือเพียงเท่าระดับยอดราชันยุทธ์
พวกเขาน่าจะดูถูกผู้ฝึกบำเพ็ญของดินแดนเทพยุทธ์มากกระมัง!
“ไป๋เหยา คนที่ทำเจ้าบาดเจ็บก็คือมนุษย์ถ่านสองคนนี้ใช่หรือไม่” โม่อีเหรินแสร้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว
มนุษย์ถ่าน?
พรืด…เอ่อ…ดูเหมือนจริงๆ
“ขอรับ” ไป๋เหยาพยักหน้าโดยกลั้นหัวเราะเอาไว้
เขาพลันค้นพบว่าไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใด ขอเพียงอยู่กับฮูหยินน้อย ก็ทำตัวเคร่งขรึมเป็นการเป็นงานได้ยากยิ่ง
ประมุขน้อย…จะต้องชอบฮูหยินน้อยที่เป็นเช่นนี้มากกระมัง!
ไป๋เหยาพยายามกลั้นขำอย่างมาก แต่มนุษย์ถ่านทั้งสองที่ด้านบนนั้นกลับมิได้มีสีหน้ากลั้นขำ แต่เป็นกลั้น…โทสะ!
“แม่นางน้อยเป็นคนของเกาะหุนหรือ” มนุษย์ถ่านร่างเตี้ยถาม
โม่อีเหรินไม่ได้สนใจมนุษย์ถ่าน เพียงแต่ถามไป๋เหยาต่อว่า “เจ้าว่าสองคนนี้ถูกจิงหงส่งออกไปไกลเพียงไร”
“เอ่อ…น่าจะร้อยลี้กระมัง!” ไป๋เหยากลั้นขำต่อ
เป็นความจริงที่ถูกส่งตัวออกไปไกลมาก แต่พอถูกพูดออกมาจากปากของโม่อีเหริน ก็ดูเหมือนว่าสองคนนี้มีพลังแก่นแท้แย่เหลือใจ แค่ฝ่ามือเดียวก็ซัดลอยกระเด็น…ไปไกลยิ่ง