‘แม้ไป่หลี่จิงหงจะเหมือนภูเขาน้ำแข็ง แต่ข้ามีภาพจำต่อเขาดียิ่ง’ คนทึ่มโดยธรรมชาติอาศัยสัญชาตญาณในการตัดสินใจจัดไป่หลี่จิงหงเข้าอยู่ในขอบข่ายคนกันเอง
ไมตรีจิตและการชื่นชมเช่นนี้ อันที่จริงดูพิกลอีกทั้งไม่วกวนอย่างยิ่ง
ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก็รู้ได้ว่าต่างฝ่ายต่างวางกันและกันไว้ในตำแหน่งเดียวกัน
เนื่องจากให้การยอมรับ จึงปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ รับอีกฝ่ายมาเป็นคนของตนเอง
ไม่เพียงแต่ประมุขหอน้อยทั้งห้าให้การยอมรับไป่หลี่จิงหง ไป่หลี่จิงหงเองก็ให้การยอมรับทั้งห้าคนนี้เช่นกัน ดังนั้นขณะที่เล่าถึงจึงย่อมจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
ด้วยเหตุนี้พอโม่อีเหรินได้ยินนามของสองสามคนตรงนี้ ในสมองจึงมีภาพจำชัดเจน และก็ย่อมจะทักทายสองคนนี้อย่างเป็นธรรมชาติ
“ข้าคือโม่อีเหริน พวกท่านสบายดีหรือ ต้องการดื่มชาหรือไม่”
“ต้องการ!” คนทั้งสามต่างพยักหน้าและเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน โดยหลงชิงเหยากับหลิงเซ่าจวินพยักหน้าแรงที่สุด
โม่อีเหรินเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดีอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวเตือนก่อนจะรินชาให้ “ชานี้ข้าเพิ่งคั่วใหม่ เพิ่งจะลองทำเป็นครั้งที่สอง เพราะฉะนั้นรสชาติอาจจะไม่ดี พวกท่านต้องเตรียมใจไว้ก่อน”
พอพูดจบนางยังคิดอีกเล็กน้อย ถึงค่อยสำทับอีกว่า “ทว่าพวกท่านวางใจได้ ต่อให้ไม่อร่อยก็จะไม่ทำให้พวกท่านท้องเดินอย่างแน่นอน”
หลิงเซ่าจวิน หลงชิงเหยา และชิงอู๋หยาได้ยินดังนั้นก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ข้อความส่วนหลังไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเลยจริงๆ
แม้จะกล่าวว่าชงชา แต่อันที่จริงอุณหภูมิของน้ำมิได้สูง ขณะคนทั้งสามยกถ้วยชาขึ้นมา น้ำชาก็อยู่ในอุณหภูมิกำลังพอดี
ดื่มเพียงอึกเดียว หลิงเซ่าจวินกับหลงชิงเหยาก็มีสีหน้าเปล่งประกายแล้ว
ชิงอู๋หยาเพียงรู้สึกว่าน้ำชาที่ดื่มแม้จะขมอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วไม่เลว ทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลายไร้ใดเทียม ต่อจากนั้นเขาก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาทันทีเช่นกัน
ขณะพวกเขาดื่มชากัน โม่อีเหรินก็หยิบเหยือกหยกที่คล้ายกับกาน้ำชาออกมาอีกใบหนึ่ง
คนทั้งสามถลึงมองเหยือกหยกใบนั้น
เหยือกน้ำชาที่ทำจากหยกผลึกพันปี?!
ภาชนะที่ทำจากหยกผลึกพันปีมีจุดเด่นอยู่ที่สามารถรักษาไอวิเศษของสิ่งของที่อยู่ภายในไม่ให้กระจายหายไปได้ ของเยี่ยงนี้…เป็นของที่ใช้เก็บรักษาสมุนไพรได้ดีที่สุด
ใช้ของเยี่ยงนี้ทั้งก้อนมาทำเป็นเหยือกน้ำชา จะสิ้นเปลืองเกินไปแล้วหรือไม่
ครั้นมองเห็นของสิ่งนี้ หลงชิงเหยาก็หันหน้าไปมองกระบอกไผ่หยกที่ดูน่ารักยิ่งใบนั้นอย่างละเอียด จากนั้นถึงได้จำแนกออกว่าของที่ดูเหมือนเป็นกระบอกไผ่หยกธรรมดานี้ถึงกับทำจากหยกน้ำแข็งหมื่นปีซึ่งหาได้ยากยิ่งกว่าหยกผลึกพันปีเสียอีก…
หลงชิงเหยาเงียบงันไปแล้ว ในใจคิดแต่เพียงว่ายังสามารถฟุ่มเฟือยกว่านี้ได้อีกหรือไม่
หากแต่ไม่ว่าพวกเขาจะกำลังคิดอะไร ก็มองเห็นโม่อีเหรินรินน้ำบริสุทธิ์ถ้วยหนึ่งให้ไป่หลี่จิงหงบ้วนปากก่อน…
เอาน้ำพุวิเศษมาบ้วนปาก?!
หลิงเซ่าจวินอยากจะคว่ำโต๊ะ
จากนั้นโม่อีเหรินก็รินน้ำชาในเหยือกออกมาอีกครั้ง เป็นของที่เพิ่งชงเมื่อครู่ หากแต่…หอมสดชื่นยิ่งกว่า และมีไอวิเศษเข้มข้นยิ่งกว่า
“ใบชาเหมือนกัน แต่นี่เป็นชาที่ชงแบบเย็น ท่านลองดื่มดูอีกที จากนั้นก็บอกว่าท่านชอบแบบใดมากกว่ากัน” โม่อีเหรินกล่าว
ที่แท้ไป่หลี่จิงหงก็กำลังลองชิมชาอยู่อย่างนั้นหรือ
แต่…ใบชาที่ใช้ชิมนี้จะระดับสูงเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่