ทว่าเถาวัลย์พันลี้หลังมีวิวัฒนาการกลับมีพลังโจมตีและความแข็งแกร่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นคนละเรื่อง
การโจมตีของสี่คนจากตระกูลเสวียนหมิงไม่อาจทำให้เถาวัลย์พันลี้ถอยไปได้โดยสิ้นเชิง จึงถูกพันรัดแทบจะทันที
“อ๊าก! ช่วยด้วย…”
แม้อาวุธเวทของไป่หลี่จิงเทาจะสามารถทำให้เถาวัลย์พันลี้ผงะถอยไปได้ แต่กลับไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆ ให้แก่มันได้เลย ซ้ำพอถูกโจมตีมาจนต้องถอย เถาวัลย์พันลี้กลับยิ่งตอบโต้เขารุนแรงขึ้นกว่าเดิม
หากมิใช่ชุดวิเศษบนตัวเขามีพลังป้องกันมากพอ กอปรกับหลบหลีกได้เหมาะสม ไป่หลี่จิงเทาคงถูกเถาวัลย์พันลี้ทำให้บาดเจ็บไปนานแล้ว
ทว่าตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว เพื่อรักษาชีวิตไว้ ไป่หลี่จิงเทาจึงไม่แอบซ่อนอีก นำอสนีม่วงออกมาโยนใส่เถาวัลย์พันลี้
ตูม!
“ซี้ด…”
เถาวัลย์พันลี้ที่ขวางอยู่เบื้องหน้าไป่หลี่จิงเทาส่งเสียงร้องประหลาดออกมา เถานับไม่ถ้วนถูกระเบิดกระจุย ไป่หลี่จิงเทาฉวยโอกาสหนี
เนื่องจากถูกระเบิด เถาวัลย์พันลี้จึงคลั่งขึ้นมาแล้ว มันยื่นเถานับไม่ถ้วนออกไปกลางอากาศในชั่วพริบตา ขณะเดียวกันก็กระชากต้นไม้ลงมา ไป่หลี่จิงเทาเพิ่งจะเหินกายหนีได้เพียงหนึ่งจั้งก็ถูกเถาหนึ่งพันข้อเท้า
เถาหนึ่งทำสำเร็จ เถาอื่นๆ ก็ตามมาพันไว้ทันที
เวลาเดียวกันนี้เถาที่รัดคนทั้งสี่จากตระกูลเสวียนหมิงไว้อยู่ก็แทงเข้าไปในร่างของพวกเขา ดูดร่างพวกเขาจนแห้งในพริบตา
แม้แต่จะกรีดร้องก็ยังไม่ทัน คนทั้งสี่จากตระกูลเสวียนหมิงกลายเป็นซากแห้งคาที่ ส่วนเถาที่ล้อมรอบพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง
ไป่หลี่จิงเทาตกใจ เหวี่ยงอาวุธเวทบนมือออกไปทันที เถาวัลย์ถูกโจมตีจนผงะถอยไปอีกครั้ง
ไป่หลี่จิงเทาลุกขึ้นออกวิ่งตะบึงอีกครั้ง เถาวัลย์สีแดงไล่ตามไปติดๆ ไป่หลี่จิงเทาสู้พลางหนีพลาง
ถึงแม้จะหนีมาได้อีกสองสามก้าว แต่ยังคงหนีมิพ้นอาณาเขตของเถาวัลย์พันลี้ อสนีม่วงก็ดันมีแค่หนึ่งเดียว ไป่หลี่จิงเทาฝืนรักษาความเยือกเย็นไว้ท่ามกลางความสับสนหวาดหวั่น เมื่อค้นพบว่าอาวุธเวททำได้เพียงโจมตีให้เถาวัลย์พันลี้ผงะถอย แต่ไม่อาจทำลายมันได้ เขาจึงเปลี่ยนมาเริ่มโยนยันต์อัคคี ยันต์อสนีทั้งหมดที่มีในตัวใส่มันแทน
ยันต์อัคคีและยันต์อสนีช่วยชิงเวลาพักหายใจมาให้ไป่หลี่จิงเทาได้เล็กน้อย พร้อมทั้งยังทำให้เถาวัลย์สีแดงโจมตีได้ช้าลง
ไป่หลี่จิงเทาดีใจ อาศัยจังหวะทำท่าจะเหินกายจากไปอีกครั้ง กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีปลายเถาวัลย์เถาหนึ่งยื่นออกมาจากข้างใต้พื้น ทะลุผ่านชุดวิเศษ แทงเข้าที่ขาซ้ายของเขา
“อึก!”
ไป่หลี่จิงเทาเจ็บปวด รู้สึกเพียงว่าขาซ้ายเหมือนถูกอะไรดูดไป เจ็บปวดรวดร้าวจนทำให้เขาต้องร้องลั่นออกมาอย่างสุดกลั้น
“อ๊าก!”
เขาต้องตายแล้วอย่างนั้นหรือ เขาไม่ยอม!
ในช่วงเวลาคับขัน เปลวเพลิงสีส้มสายหนึ่งก็ลอยมาเผากิ่งเถานั้นอย่างรวดเร็ว
เงาคนสายหนึ่งลอยมาพร้อมกัน ใช้มือข้างหนึ่งช้อนตัวไป่หลี่จิงเทาขึ้นมา วางเปลวเพลิงสีส้มไว้ใต้เท้า แล้วขี่อัคคีหนีไปอย่างฉับไว!
เถาวัลย์พันลี้อยากไล่ตามเพียงไรก็ติดที่ความร้อนของเปลวเพลิง ทำได้เพียงมองเหยื่อหนีไป ‘ตาปริบๆ’
ไม่มีอาหารแล้ว…
เถาวัลย์พันลี้เลื้อยกรูสวบสาบกลับไปยังบริเวณก้อนหิน มองเห็นซากแห้งทั้งสี่ที่อยู่บนพื้นก็เฆี่ยนตีไม่ยั้งราวกับระบายความโกรธแค้นก็มิปาน
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 เม.ย. 65 เวลา 12.00 น.