X
    Categories: Unrequited Love… ระยะแอบรักWith Loveทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน Unrequited Love… ระยะแอบรัก บทที่ 7

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 7

ลั่วจื่อเหลือบมองเธออย่างเร็วๆ ไปที แต่ไม่ได้พูดอะไร สายตาค่อยๆ เย็นชาลง เจิ้งเหวินรุ่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยังคงแนบใบหน้าครึ่งซีกกับโต๊ะ หัวเราะคิกคักไม่หยุด

“คนโกหก” เธอย้ำอีกครั้ง

ลั่วจื่อหันกลับไปเรียกเจ้าของร้านมาเก็บเงิน ทันใดนั้นเจิ้งเหวินรุ่ยก็ตะโกนขึ้นมากะทันหัน “เธอไม่คู่ควร! คนโกหก!”

ลั่วจื่อหดมือที่กวักเรียกเจ้าของร้านซึ่งค้างอยู่กลางอากาศกลับมาเล็กน้อย เธอ?

ถึงยังไงก็ไม่ได้ว่าฉันล่ะนะ ลั่วจื่อรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นห่วงว่าถ้าเจิ้งเหวินรุ่ยยังโวยวายต่อไปจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าคนอื่น จึงยังบากหน้าตะโกนเรียกเจ้าของร้านให้เก็บเงิน ทว่าในตอนนั้นร้านมีลูกค้าเยอะมาก ทำให้ไม่มีใครสนใจเธอ

“เสแสร้งทั้งนั้น เสแสร้งกันทั้งนั้น!”

“เลิกตะโกนได้แล้ว” ลั่วจื่อขมวดคิ้ว

“เธอคนนั้นจะกลับมาแล้ว เธอสำนึกผิดได้แล้ว เมื่อวานฉันถึงได้รู้…ว่าเธอสำนึกผิดได้แล้ว” น้ำตาของเจิ้งเหวินรุ่ยไหลลงมาเต็มที่ จู่ๆ ลั่วจื่อก็เข้าใจเหตุผลที่เจิ้งเหวินรุ่ยเมาขึ้นมา ‘เธอคนนั้น’ กลับมาแล้ว ดังนั้นความหวังที่เดิมทีก็เล็กจ้อยตรงหน้าเจิ้งเหวินรุ่ยจึงเปลี่ยนไปเป็นสิ้นหวังแทนทันที

ทีแรกลั่วจื่ออยากบอกกับเจิ้งเหวินรุ่ยว่าต่อให้ ‘เธอคนนั้น’ จะกลับหรือไม่กลับมา คนที่เธอชอบก็ปฏิเสธเธอไปแล้ว ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกัน แต่สุดท้ายลั่วจื่อก็ยังทนเอาไว้ เมื่อครู่นี้ที่เจิ้งเหวินรุ่ยร้องไห้ระบายอยู่นานก็เพราะชิงชังที่คนอื่นชอบกล่อมให้เธอรู้จักยอมแพ้ในเร็ววัน แล้วตัวเองจะไปซ้ำเติมเธออีกทำไมกัน

ความเงียบของลั่วจื่อทำให้เจิ้งเหวินรุ่ยไม่ยอมเลิกรา เธอใช้ดวงตาที่แดงก่ำจ้องเขม็งไปที่ลั่วจื่อพร้อมถาม “เธอคิดว่ายังไง”

“ฉันจะไปมีความคิดอะไรได้ยังไง”

“ฉันไม่เชื่อ คนโกหก”

ลั่วจื่อยอมรับแล้วว่าการที่ตัวเองรับปากมากินข้าวกับเจิ้งเหวินรุ่ยในวันนี้เป็นเรื่องที่โง่ถึงที่สุดจริงๆ

“พูดมา! รีบบอกฉัน ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางไม่คิดอะไร เธอไม่ชอบเขาเหรอ เขาดีขนาดนั้น”

“เขาดี? เพราะงั้นฉันเลยควรชอบเขา?”

“เธอไม่ชอบเขาเหรอ”

เจิ้งเหวินรุ่ยเอาแต่ถามย้ำคำถามเดียวอย่างดื้อรั้น

ลั่วจื่อรู้สึกเวียนหัวอยู่บ้าง ผ่านมาหลายปี ในที่สุดก็มีคนถามเธอชัดๆ ว่าเธอชอบเซิ่งไหวหนานไหม อย่างไรก็ตาม คนที่ถามกลับเป็นคนหัวรั้นที่กำลังเมาเหล้าคนหนึ่ง สถานการณ์ก็ดันเป็นร้านปิ้งย่างเสียงดังอึกทึกที่เต็มไปด้วยกลิ่นของควันและน้ำมัน ช่างทำลายบรรยากาศมากจริงๆ

แน่นอนว่าเธอย่อมไม่ตอบ ทั้งยังเกือบจะโพล่งคำพูดแกล้งโง่ออกไปว่า ‘เขาคือใคร’

ถึงยังไงเจิ้งเหวินรุ่ยก็ไม่เคยบอกว่าคนที่ตัวเองรักข้างเดียวเป็นใคร ไม่สู้เอาเรื่องนี้มาปิดปากอีกฝ่าย จากนั้นรีบเคลียร์เงินแล้วหนีไปเสียเลย

แต่ลั่วจื่อก็เก็บประโยคคำถามนั้นกลับกลืนลงท้องไปทันควัน

เมื่อครู่นี้เจิ้งเหวินรุ่ยเพิ่งถามว่าเธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกับแฟนเก่าเขาใช่ไหม เธอให้คำตอบกลับไปทันทีอย่างไม่ลังเล เท่ากับว่าผ่านคำบรรยายของเจิ้งเหวินรุ่ยนั้นลั่วจื่อยอมรับว่าเธอเดาตัวตนพระเอกในเรื่องราวของเจิ้งเหวินรุ่ยได้แล้ว ตอนนี้ถ้ายังจะแกล้งโง่อีก เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

พลาดไปเสียแล้ว…

ลั่วจื่อรวบรวมสติกลับมาตั้งใจมองผู้หญิงตาแดงก่ำที่รอคำตอบอยู่ตรงหน้า จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา

คนคนนี้เมาแล้วจริงๆ เหรอ

“เธอชอบเขาใช่ไหม” เจิ้งเหวินรุ่ยยังคงย้ำถามคำเดิม

โทรศัพท์มือถือของลั่วจื่อดังขึ้นมาในเวลาวิกฤต เธอรับสายทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าจอ เป็นเจียงไป่ลี่ เธอลืมเอากุญแจไป ผู้ดูแลหอเองก็ไม่อยู่ที่ห้องธุรการ ทำให้ยืมกุญแจไม่ได้ ดังนั้นหวังว่าลั่วจื่อจะรีบกลับไปที่ห้องได้

ลั่วจื่อคว้าโอกาสพูดคุยเรื่อยเปื่อยต่อไปอีกสักพักถึงวางสาย ในตอนนั้นคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ฟุบกลับลงไปบนโต๊ะอีกครั้งแล้ว คำถามเมื่อครู่นี้ผ่านพ้นไปทั้งอย่างนั้น

ตอนที่จ่ายเงินเจิ้งเหวินรุ่ยยังคงไม่ตื่น หลังลั่วจื่อจ่ายเงินเสร็จก็พยายามปลุกเธอ จากนั้นกึ่งดึงกึ่งลากพาอีกฝ่ายออกจากร้านอาหาร เจิ้งเหวินรุ่ยที่ทิ้งน้ำหนักพิงอยู่บนตัวเธอเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า ไม่รู้กำลังบ่นพึมพำอะไร ซ้ำตัวยังหนักมาก ลั่วจื่อเดินไปข้างหน้าตัวเอียงๆ อย่างยากลำบาก รู้สึกว่าตัวเองซวยโคตรๆ

“เธอขึ้นห้องไปเองได้ใช่ไหม” เธอจำได้ว่าหอพักของนักศึกษาหญิงคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อยู่ข้างหอพักของตัวเอง ดังนั้นเลยพาเจิ้งเหวินรุ่ยไปส่งถึงหน้าประตูหอพักเสียเลย

“อืม” เจิ้งเหวินรุ่ยเริ่มหัวเราะคิกคักขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเสียงหัวเราะแบบนั้นฟังดูเหมือนแม่ไก่ แต่ตอนนี้ฟังแล้วกลับดูเหมือนแม่มด

“งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน รีบขึ้นหอไปเถอะ ไว้เจอกันนะ”

“ลั่วจื่อ…” เจิ้งเหวินรุ่ยนั่งพิงประตูหอพักขณะลืมตาสะลึมสะลือเรียกเธอเอาไว้

“มีอะไรเหรอ”

“ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอทำสำเร็จอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เธอ ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางทำสำเร็จทั้งนั้น”

ลั่วจื่อไม่ได้พูดอะไร เธอพยายามควบคุมให้สีหน้าตัวเองไม่แสดงออกชัดว่ารังเกียจ

“ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกว่าฉันเป็นคนต่ำช้าน่าเบื่อ ฮิๆ ถึงยังไงทุกคนก็เป็นคนโกหก ความจริงไม่มีใครสูงส่งกว่าใครทั้งนั้น แต่ถ้าเธอคิดว่าฉันขัดขวางพวกเธอเพื่อให้เขารักฉัน เหอะๆๆ งั้นเธอก็คิดผิดแล้ว ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางชอบฉัน ต่อให้บนโลกใบนี้เหลือฉันเป็นผู้หญิงแค่คนเดียว เขาก็คงจะยอมเป็นเกย์ ไม่มีทางจะหันมาชอบฉัน” เจิ้งเหวินรุ่ยหัวเราะ ดวงตาทอประกายระยับอยู่ชั่ววูบหนึ่ง ก่อนจะดับมืดลงในพริบตาต่อมา “แต่ว่า…ที่ฉันต้องการไม่ใช่จะให้เขาชอบฉัน แต่เป็น…”

เธอรูดคีย์การ์ดพร้อมผลักประตูเข้าไปครึ่งบาน

“ที่ฉันอยากเห็นมากที่สุดคือ…เขาจะไม่ชอบใครทั้งนั้น!”

ประตูปิดล็อกดัง ‘แกร๊ก’ ต่อหน้าลั่วจื่อ เธอมองส่งร่างกายโซเซของเจิ้งเหวินรุ่ยหายลับไปที่หัวมุมหลังประตูห้องโถง

ความปรารถนาอันน่าหวาดกลัวแบบนี้

ในสายตาของคนที่ริษยานั้น ความสุขไม่ได้อยู่ที่การได้มา แต่อยู่ที่คนอื่นไม่ได้ไป

เธอยืนอยู่เงียบๆ สักพักก่อนหันหลังจากไป

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 .. 64 เวลา 12.00 .

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: