“ถึงไหนแล้วธารณ์” เสียงนพวินทร์ที่ดังมาตามสายทำให้ธารณ์ยิ้ม
“ใกล้แล้วครับพี่ ผมเพิ่งผ่านอำเภอไชยปราการ”
“ไม่ต้องขับตรงเข้าฝางนะ ออกซ้ายที่ถนนเลี่ยงเมืองง่ายกว่า อีกไม่เกินชั่วโมงก็น่าจะถึงแม่อายแล้วล่ะ”
“ครับพี่” ธารณ์รับคำ เวลาที่คำนวณไว้ในทีแรกว่าน่าจะไม่เกินสองชั่วโมงคงจะถึงกลับกลายเป็นสองชั่วโมงกว่าเข้าไปแล้วที่เขายังไม่ถึงแม้แต่อำเภอฝาง
“พี่รอที่บ้านนะ ธารณ์เลี้ยวเข้าประตูหน้าโรงพักมาเลย ตรงเข้ามาด้านหลังโรงพักที่ซอยแรกก็เลี้ยวอีกที บ้านพี่อยู่หลังที่สามจากปากทาง รถกระบะของแฟนพี่จอดอยู่หน้าบ้านนั่นแหละ เลี้ยวมาก็เห็น มีคันเดียวจอดเด่นเชียว แถวนี้นอกจากแฟนพี่แล้วไม่มีใครเป็นนักเลงรถกระบะหรอก” เสียงของนพวินทร์แซวภรรยาติดแววอารมณ์ดี แล้วธารณ์ก็เหมือนจะได้ยินเสียงลอดมาแว่วๆ ที่จับใจความได้ไม่ชัดนัก แต่เขาคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของนภางค์ ภรรยาของนพวินทร์
“ครับพี่ เดี๋ยวเจอกันครับ” ธารณ์ตอบรับแล้วรอจนนพวินทร์เป็นฝ่ายตัดสายเสียก่อน
ลายแทงที่นพวินทร์บอกตรงเผงไม่คลาดเคลื่อน ธารณ์ชะลอความเร็วผ่านหน้าบ้านพักตำรวจสองหลังซึ่งมีรถเก๋งและรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ในซองหน้าบ้าน รถกระบะโฟร์วีลส์คันใหญ่ตามเทรนด์ที่มีรูปทรงราวกับรถถังย่อมๆ จอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านพักหลังที่สาม ส่วนในซองจอดมิดชิดนั้นมีรถจากัวร์ที่ธารณ์เคยได้ยินจากสายหมอกว่าพี่ชายแสนจะภูมิใจอวดโฉมอยู่
ธารณ์เอี้ยวหน้าไปมองทั้งๆ ที่ยังจอดรถไม่เรียบร้อย เห็นเจ้าของบ้านในชุดเสื้อยืดสีขาวสะอาด สวมกางเกงเลสองคนยืนเคียงกันราวกับคู่แฝด แต่เป็นแฝดต่างขนาดและต่างเพศ ขยับลุกยืนจากการนั่งเล่นที่เก้าอี้ไม้หน้าระเบียงบ้าน
บ๊อกๆ
“พี่ต้ามานี่นะ!” เสียงของเจ้าของบ้านฝ่ายหญิงเอ็ดเรียกสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวเล็กที่เห่าเสียงดังพร้อมกับวิ่งวนไปมา
“สวัสดีครับพี่นพ พี่นาย” ธารณ์เปิดประตูก้าวลงจากรถ ตรงเข้าไปหาเจ้าของบ้านทั้งสองพร้อมกับยกมือไหว้
นภางค์หรือพี่นาย ภรรยาของพันตำรวจเอกนพวินทร์ส่งยิ้มมาให้ ในขณะที่รวบอุ้มเจ้าขนฟูตัวน้อยที่ยังคงส่งเสียงเห่าไม่เลิก บอกไม่ถูกว่าเป็นการแสดงออกเพื่อไล่หรือต้อนรับแขกแปลกหน้าอย่างเขากันแน่
“นึกห่วงอยู่เหมือนกันว่าจะหลงหรือเปล่า” นภางค์ทัก
“เธอก็พูดเกินไป มาไม่ยากหรอกใช่ไหมธารณ์” นพวินทร์ถาม
“ไม่ยากครับพี่”
บ๊อกๆ เจ้าสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่ยังคงเห่าไม่เลิกทำให้นภางค์อดไม่ได้ที่จะเอ็ด
“เดี๋ยวเถอะพี่ต้า พอแล้ว”
“เธอไปเอ็ดมันทำไมเล่า ปล่อยลงเดินสิ เดี๋ยวมันก็เลิกเห่า” นพวินทร์ยื่นมือไปอุ้มเจ้าตัวน้อยจากอ้อมแขนของภรรยา แล้ววางลงอย่างทะนุถนอมกับพื้น ธารณ์ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าเชิงหมั่นไส้สามีของนภางค์
“ลูกชายเค้า…ตามใจรักกันยิ่งกว่าเมีย ว่าแต่หิวไหมธารณ์ เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วพี่จะให้เด็กพาไปเช็กอินที่โรงแรมดีไหม” นภางค์แซวสามีแล้วถามธารณ์ด้วยความเป็นห่วง
“ยังไงก็ได้ครับพี่” ธารณ์ตอบพร้อมกับก้าวตามนพวินทร์ที่เดินมาตบไหล่พาเขาไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตรงระเบียงหน้าบ้านพัก
“ตอนแรกว่าจะชวนนอนที่บ้าน แต่หมอกบอกว่าธารณ์ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ทางสำนักพิมพ์รับผิดชอบทั้งหมด พี่เลยคิดว่าไปนอนโรงแรมน่าจะดี ธารณ์จะได้พักสบายๆ เป็นส่วนตัวไม่ต้องคอยเกรงใจพี่ เลยให้พี่นายช่วยจัดการจองที่พักให้ เอ้าๆ ดื่มน้ำก่อนนะ ขอพี่กับพี่นายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ แล้วเราไปหาอะไรทานแถวท่าตอนริมแม่น้ำกกกัน” นพวินทร์บอกพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้ภรรยา ในขณะที่เด็กสาวคนหนึ่งเดินถือถาดแก้วน้ำดื่มเข้ามาวางตรงหน้าเขา
“ครับ” ธารณ์ได้แต่รับคำแล้วมองตามหลังเจ้าของบ้านทั้งสองที่หายกลับเข้าไปในบ้าน
เจ้าขนฟูสีทองกระโดดตามทั้งสองคนไป ธารณ์มองครอบครัวเล็กๆ ของนพวินทร์แล้วอดยิ้มไม่ได้ แม้จะไม่มีทายาท แต่ชีวิตคู่ของนพวินทร์และนภางค์ก็ดูสงบมีความสุข สายหมอกเคยบอกว่าลูกน่ะคู่นี้มีแล้ว คือเจ้าตาต้า ปอมเมอเรเนียนขนฟูที่นพวินทร์แสนจะตามใจนักหนานั่นเอง