หน้าตาคมสันและท่าทางเป็นผู้ใหญ่เกินตัวของมินแต่ไม่ยอมมีแฟนสักที ทำให้มีแต่สาวๆ ชายหูชายตาฝากความหวัง แม้หลายครั้งลัลน์จะนึกหมั่นไส้ท่าทางของสาวๆ เหล่านั้น แต่หากมีโอกาสก็อดไม่ได้ที่จะขอแซวมินอยู่เสมอ
“ลัลน์ไม่ชอบรับแขกไม่ใช่เหรอ ทำไมคราวนี้ยอมไปขับรถให้คุณนักข่าวนั่นล่ะ” คิ้วของมินขมวดมุ่นเข้าหากัน
“ถ้ามันจำเป็นก็ทำได้”
“งั้นมินไปเอง ลัลน์กลับไปอยู่บ้านนอนพักดีกว่า”
“ไม่ได้หรอก พี่รับปากพ่อแล้ว อีกอย่างมินท่าทางไม่สดใสจริงๆ นะ เมื่อคืนได้นอนเกินสองชั่วโมงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เกิดหลับในไปจะทำยังไง” แม้คุ้นเคยกับการมีมินอยู่ใกล้ๆ เสมอเวลาที่เขากลับบ้าน แต่ท่าทางอารมณ์เสียง่ายแถมขวางหูขวางตาไปหมดทำให้ลัลน์คิดว่าเขาอาจจะพักผ่อนน้อยเกินไปจนนึกเป็นห่วง
“ถ้างั้นมินก็จะไปด้วย” มินบอก
“หือ ไหวเหรอ กลับไปพักเถอะ”
“ทำไม หรือลัลน์ไม่อยากให้มินไปด้วย”
“อย่ามาตั้งคำถามแบบนี้นะ พี่น่ะต้องหัดทำอะไรเอง ไปไหนมาไหนเอง เพราะคนบางคนชอบทิ้ง” ลัลน์รวนกลับทันทีเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกหาเรื่อง กับใครๆ เธออาจเป็นหนูลัลน์หรือคุณลัลน์ที่เอาการเอางานจริงจัง มีความรับผิดชอบเต็มเปี่ยม แต่สำหรับมินที่ตลอดมาคอยตามใจ ลัลน์ก็ยังคงเป็นลัลน์ที่เอาแต่ใจ พร้อมจะอาละวาดหรือยอกย้อนกลับเสมอ
“โธ่ลัลน์…” มินเรียกได้แค่นั้นก็ต้องหยุด ได้แต่มองตามคนที่เดินห่างไปยืนอีกข้างของพี่ชายอย่างไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้น
รั้วบ้านเจ้าสาวที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาไม่อาจก้าวเข้าไปใกล้เพื่อต่อความอะไรกับลัลน์ได้อีก ขั้นตอนต่างๆ สำหรับวันสำคัญของพี่ชายจะต้องมาก่อนเรื่องอื่นๆ ในวันนี้ มินจึงทำได้แค่ส่งสายตาไปมองเธอเท่านั้นเอง
ธารณ์มองหญิงสาวที่นั่งพักห่างออกไปด้วยสายตาชื่นชมเปิดเผยแต่ไม่รุ่มร่าม ลูกสาวของคุณภวิชที่ได้พบตั้งแต่เย็นวาน วันนี้สวยสะดุดตา ใบหน้าเนียนคมที่ได้มองใกล้ยามที่ได้ยืนในระยะเกือบประชิดดูราวกับจะเป็นผิวแท้ๆ มากกว่าเนื้อแป้ง จมูกโด่งรับกับใบหน้าและริมฝีปากบาง รวมทั้งดวงตากลมโตที่มีขนตายาวเป็นแพสะดุดตา
ท่าทางสดใสเป็นธรรมชาติของลัลน์ทำให้เธอน่ามอง อัธยาศัยใจคอเท่าที่ได้พูดคุยก็ทำให้รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ใกล้…คิดถูกจริงๆ ที่มาร่วมขบวนขันหมากตามคำชวนของคุณภวิช…
“เป็นไงคุณ ประเพณีแบบคนเหนือ” คุณภวิชซึ่งวันนี้มีแต่ความยินดีกับช่วงเวลามงคลแห่งชีวิตครั้งสำคัญของหลานซึ่งเทียบได้กับลูกชายคนโตถามแขกที่เชิญมาร่วมขบวนฝ่ายเจ้าบ่าว
“สวยครับ ดูอบอุ่นอ่อนโยน บางทีผมอาจได้ข้อมูลไปเขียนสกู๊ปใหม่ ขอบคุณนะครับที่เชิญมาร่วมงานด้วย” ไม่เพียงลัลน์เท่านั้นที่เขาประทับใจ ภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่นั่งเคียงกันให้แขกผู้ใหญ่ใช้ฝ้ายผูกข้อมือหลังพิธีสู่ขวัญก็น่าชื่นชมจนธารณ์อยากเขียนสกู๊ปประเพณีล้านนาส่ง บ.ก. สักที
“จริงๆ แล้วผมอยากชวนคุณอยู่เที่ยวแม่อายอีกสักหน่อยนะ รีบกลับกรุงเทพฯ ไหมคุณธารณ์ ที่นี่ดูเหมือนจะบ้านนอกไปสักหน่อย แต่มีสถานที่สวยๆ น่าเที่ยวเยอะอยู่นา แล้วนี่อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานบุญยี่เป็ง รู้จักไหมคุณ สวยนะ สนุกด้วย”
“ก็น่าสนใจครับ แต่คงต้องขอคุยกับทางสำนักพิมพ์ก่อน ถ้าไม่ติดอะไรก็น่าจะสะดวกครับ”
“อืม นะ ลองคุยดู เรื่องที่พักไม่ต้องห่วง ผมดูแลให้เอง”
“เอ่อ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าทางสำนักพิมพ์สะดวกผมจัดการเองดีกว่า ค่าที่พักที่นี่ก็ใช่ว่ามากมายอะไร” ธารณ์บอกอย่างเกรงใจ โรงแรมที่พักเข้าขั้นสี่ดาวแต่ราคาย่อมเยาจนน่าตกใจ ธารณ์เข้าใจว่าทางโรงแรมลดให้เป็นกรณีพิเศษ เพราะนพวินทร์และนภางค์ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นี่ช่วยจัดการรับเป็นธุระจองให้ เขาจึงคิดว่าหากอยากอยู่ต่อจริงๆ ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้หนักหนาอะไร