14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน ลำนำรักมังกรดำ ชุด หัวใจเจ้าทะเล
บทนำ
ดวงอาทิตย์ใกล้จะจมลงทางฝั่งตะวันตก ลมราตรีพัดโชยเอื่อยบนทะเลสีส้ม ลูกคลื่นเล็กละเอียดตีกระทบลำเรือสีดำ พาให้เกิดเสียงที่คุ้นเคยเบาๆ
ใบเรือลดต่ำลง เรือใหญ่สีดำที่นางโดยสารอยู่กำลังจอดเทียบฝั่ง
กลีบเมฆสูงทางตะวันออกสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่ลับยอดเขาไปนานแล้ว ทำให้คนหลงนึกว่าดวงอาทิตย์กำลังจะลอยขึ้น นึกไปว่ายามนี้คืออรุณรุ่งมิใช่ยามสายัณห์
นางนั่งอยู่บนคานสูงของเสากระโดงเรือหลัก มองกลีบเมฆเหนือทะเลไกลๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆ ด้วยแสงอาทิตย์ จากสีส้มไปถึงชมพู กระทั่งม่วงอ่อนไปถึงฟ้าอมเขียว แม้ว่าจะมองมาสิบสี่ปีแล้ว นางก็ยังหลงใหลทัศนียภาพเช่นนี้อยู่ดี
ลมราตรี สายลมอันอบอุ่น…นางหลับตาลงรับสัมผัสของสายลมที่กระทบใบหน้า เส้นผมที่พัดพลิ้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเงียบงันถึงเพียงนั้น เงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเล เงียบจนพาให้คนเข้าใจผิดคิดไปว่าจิตใจได้รับความสงบสุข…
นางขยี้หางตาเบาๆ รู้ว่าทะเลที่สงบเงียบเช่นนี้ก็แค่ภาพลวงตา ก็เหมือนกับเรือดำลำนี้ เหมือนกับเจ้าของของมัน
พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความสงบก่อนพายุกระหน่ำเท่านั้น
ยามท้องฟ้ามืดมิดลงทั้งผืน สายฝนเม็ดบางเริ่มพร่างพรมลงมา
นางกระโดดจากเสากระโดงเรือเบาๆ ลงสู่พื้นโดยไร้เสียง
ชายตัวผอมเล็กผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากท้องเรือ มองเห็นสายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้ายามราตรีก็เลิกคิ้วถาม
“พายุหรือ”
นางผงกศีรษะด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ คนผู้นั้นเห็นดังนั้นก็พึมพำว่าต้องไปตรวจดูเชือกผูกสมอเรือสักหน่อย แล้วพลันเดินตากฝนไปยังอีกด้านหนึ่งของดาดฟ้าเรือ
นางเดินเข้ามาในส่วนห้องโดยสารใต้ท้องเรือแล้วก็ปิดประตูกระดานด้านบนลงมาด้วย บนทางเดินมืดในท้องเรือมีเพียงแสงบางๆ ทอลอดออกมาจากร่องประตูห้องโดยสารไม่กี่ห้อง นางได้ยินเสียงกรนราวกับฟ้าร้องของอาอ้วน และได้ยินเสียงพี่เหวยพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างข่มตาไม่หลับ จากนั้นก็เป็นเสียงพึมพำคำสอนของหลันเซิง เสียงกลุกกลักจากการเล่นลูกเต๋าของผีพนันจาง…
เสียงแผ่วเบานับไม่ถ้วน เมื่อมาอยู่บนทางเดินมืดมิดนี้แล้วกลับได้ยินชัดเจนอย่างยิ่ง อีกทั้งยังคุ้นเคย
ปึง!
เสียงของหนักร่วงลงพื้นที่ดังขึ้นมากะทันหันทำให้นางสะดุ้งน้อยๆ
“ทำอะไรน่ะ” คำถามอย่างไม่พอใจของพี่เหวยดังออกมาจากในห้อง
“ไม่มีอะไรๆ เสี่ยวชีตกเตียงอีกแล้วน่ะ” เสียงของเสี่ยวเก๋อดังออกมาจากอีกห้องหนึ่งที่ดับไฟแล้ว
พี่เหวยได้ยินก็บ่นอีกสองสามประโยค จากนั้นก็เป็นเสียงขอโทษงัวเงียของเสี่ยวชี และตามด้วยทุกสิ่งอย่างกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
ตอนที่นางเดินเข้าไปในห้องตัวเอง ลมก็เปลี่ยนเป็นแรงขึ้นแล้ว คืนนี้มืดมาก ด้านนอกกลายเป็นพายุฝนโหมคลั่ง เรือใหญ่ถูกคลื่นแรงทำให้ส่ายโอน นางมองพื้นกระดานที่เดี๋ยวยกตัวขึ้นเดี๋ยวลดต่ำลงแต่กลับไม่รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะนางรู้ว่าอยู่ในเรือลำนี้ปลอดภัยมาก หรือควรพูดว่านางรู้ว่าคนบนเรือลำนี้จะไม่ปล่อยให้มันจมเด็ดขาด
ดังนั้นนางจึงคลายเสื้อผ้าแล้วขึ้นเตียง รอคอยการมาถึงของเขาภายใต้ราตรีพายุคลั่ง เหมือนกับราตรีนับครั้งไม่ถ้วนในหลายปีที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขากลายเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร
นางจ้องมองไปเบื้องหน้าภายใต้ความมืด และพบว่าตอนที่นางรู้ตัว ทุกอย่างก็ดูเหมือนเกิดขึ้นโดยธรรมชาติแล้ว จากนั้นก็ต่อเนื่องมาตลอดจนถึงตอนนี้
ตลอดมาเขาสอนสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งวิชายุทธ์ การสะกดรอย การเดินเรือ การถือกระบี่ รวมถึง…การฆ่าคน
นางนับเป็นลูกน้องของเขา หรือเป็นลูกศิษย์? หรือเป็นแค่สตรีที่หาได้ง่ายเท่านั้น?
ประตูห้องโดยสารเปิดออกแล้ว ไม่ต้องหันไปนางก็รู้ว่าเป็นเขา
ด้านหลังมีเสียงถอดเสื้อผ้าลอยมา พริบตาต่อมาเรือนกายเย็นเยียบใหญ่โตของเขาก็มุดเข้ามาในผ้าห่ม กอดนางเข้าไปในอกจากด้านหลัง บนหน้าอกเขายังมีเม็ดฝนเย็นเฉียบอยู่ เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ขึ้นไปตรวจดูทุกที่บนดาดฟ้าเรืออีกรอบ ถึงได้เปียกและตัวเย็นขนาดนี้
มือของเขาแก้เชือกผูกเสื้อของนางออกแล้วสอดเข้ามาข้างใน กอบกุมเนินนุ่มอุ่นร้อนทั้งคู่ของนางไว้ นางสูดหายใจอีกครั้ง อยากจะหลบเลี่ยงเรือนกายและมือใหญ่ที่หนาวเย็นของเขา แต่มือเท้าของเขากลับยึดนางไว้แน่น แนบสนิทกับนางเป็นอย่างมาก ใช้ประโยชน์จากนางอบอุ่นตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า
ไม่นานความหนาวเย็นในผ้าห่มก็สลายไปไม่เหลือร่องรอย
นิ้วมือของเขาเรียวยาวมีพลัง คล้ายกับว่าเพียงแค่สัมผัสเบาๆ ก็สามารถจุดไฟในตัวนางได้แล้ว ต่อให้เขาจะเย็นจนเหมือนก้อนน้ำแข็งก็ยังเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่านั่นแค่ช่วงแรก หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นไฟไปแล้ว เผาผลาญทุกสิ่งเป็นจุณ ถึงขนาดที่ว่ายามนางลูบโดนเหงื่อบนหลังเขา ยังสงสัยว่าเหตุใดพวกมันไม่ระเหยหายไปเพราะร่างกายเร่าร้อนที่ห้อตะบึงของเขา…
เขาก้มตัวลงจูบนาง จากกล้ามเนื้อที่เกร็งแน่นของเขา นางรู้ว่าเขาไม่พอใจที่นางแบ่งความสนใจไป พริบตาถัดมานางก็ไม่สามารถคิดพิจารณาอะไรได้อีก ได้แต่โอบคอเขาแน่น กัดหัวไหล่แกร่งของเขาหยุดยั้งเสียงครวญของตน
ราตรียิ่งดึก พายุฝนนอกเรือก็ค่อยๆ สงบลง เหลือเพียงเม็ดฝนบางๆ ที่ยังคงร่วงโปรยอยู่
เขาหลับไปแล้ว มือใหญ่ยังวางอยู่บนเอวนาง หัวไหล่มีรอยฟันเพิ่มมาใหม่หนึ่งรอย
นางมองรอยฟันอย่างอึ้งงันเล็กน้อย ไล้เลียรอยห้อเลือดนั้นอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง จากนั้นถึงค่อยหนุนศีรษะบนแผ่นอกกว้างของเขา ความคิดล่องลอยอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
นางกลายเป็นสตรีของเขา แรกเริ่มเพียงเพราะฝันร้ายของนาง เพราะความปรารถนาที่เขามอบให้สามารถช่วยนางให้ลืมฝันร้ายอันน่าหวาดหวั่นนั้นไปได้ชั่วขณะ
ภายในอ้อมกอดอบอุ่นของเขา นางไม่ต้องหวาดกลัวอีก ไม่ต้องตื่นตระหนกอีก ชีวิตในทะเลทำให้ทุกสิ่งห่างไกลจนดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น…
ทว่า…อย่างไรนั่นก็แค่ดูเหมือนเท่านั้น