ทดลองอ่าน ลำนำรักมังกรดำ ชุด หัวใจเจ้าทะเล – หน้า 12 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน ลำนำรักมังกรดำ ชุด หัวใจเจ้าทะเล

“ข้าคิดวิธีออกแล้ว”

คืนวันที่สอง เหวยเจี้ยนซินเรียกพวกพี่น้องที่ใจร้ายใจดำพวกนั้นมาที่ห้องของตนแล้วประกาศอย่างเคร่งเครียด

“วิธีอะไร” ผีพนันจางเล่นลูกเต๋าในมือ พิงข้างผนังถามออกมา

“ให้ลูกพี่ยอมไปหาโม่เอ๋อร์กลับมาเอง” เขามั่นใจ ยิ้มหยีพูดออกมา

“ชิ! ข้ายังนึกว่าเจ้าจะมีวิธีดีๆ อะไร” ผีพนันจางกลอกตาถากถาง

“เป็นไปไม่ได้ๆ!” อาอ้วนได้ยินก็ส่ายใบหน้าอ้วนแรงๆ เช่นกัน “ถ้าจะให้ลูกพี่ไปตามหาสตรีเอง มีแต่ฟ้าถล่มเท่านั้นล่ะ!”

หลันเซิงไม่ได้พูดอะไร แต่คิ้วก็ขมวดขึ้นมาแล้ว

“นี่พวกเจ้าไม่เข้าใจ โม่เอ๋อร์เป็นสตรีของลูกพี่ คิดว่าเรื่องนี้ทุกคนคงรู้ดี ใช่หรือไม่” เหวยเจี้ยนซินยิ้มกว้างถาม

ทุกคนพยักหน้า ไม่มีความเห็นอื่นต่อเรื่องนี้

“เช่นนั้นพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าลูกพี่ชอบโม่เอ๋อร์มากขนาดไหน” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ชี้จมูกตัวเองแล้วกล่าวอย่างได้ใจ “ข้ารู้!”

“เจ้ารู้อะไร” อาอ้วนขมวดคิ้ว

“ข้ารู้ว่าทุกครั้งที่ลูกพี่ลงจากเรือก็จะเอาตลับผงชาดสองสามอันกลับมาด้วย ข้ารู้ว่าลูกพี่วานให้คุณหนูใหญ่ที่หยางโจวหาคนสั่งทำกำไลหยกปิ่นปักผมเป็นพิเศษ ข้ายังรู้ว่าตั้งแต่ห้าปีก่อนลูกพี่ก็เริ่มตรวจสอบชาติกำเนิดของโม่เอ๋อร์อย่างลับๆ แล้ว!” พูดถึงตรงนี้สีหน้าเขาก็จริงจังขึ้นมา เอ่ยถาม “พวกเจ้าลองคิดดู ติดตามลูกพี่มาหลายปีขนาดนี้ มีแม่นางคนไหนเคยทำให้ลูกพี่ของพวกเราต้องเปลืองความคิดถึงขนาดนั้นบ้าง”

ทั้งสามสบสายตากัน ออกจะตกตะลึงกับคำพูดเมื่อครู่อยู่บ้าง หลายปีมานี้พวกเขาไม่เคยเห็นลูกพี่ใส่ใจแม่นางคนไหนมาก่อนจริงๆ

พวกเขารู้ตั้งแต่สามสี่ปีก่อนหน้าแล้วว่าโม่เอ๋อร์กับลูกพี่นอนร่วมห้องกัน แต่ก็เพียงเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่ล้วนมองไม่ออกว่าลูกพี่ปกป้องหรือปฏิบัติต่อโม่เอ๋อร์ดีเป็นพิเศษ โม่เอ๋อร์เหมือนกับคนอื่นๆ บนเรือ จำเป็นต้องทำงาน

ปกติยามออกทะเล ทุกคนบนเรือต้องผลัดกันเฝ้ายามตอนกลางคืนบนหอสังเกตการณ์ที่เสากระโดงเรือหลัก บนนั้นทั้งเล็กแคบทั้งหนาวเย็น ถ้าเจอฝนตกหรือเป็นฤดูหนาวยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เดิมทุกคนคิดว่าโม่เอ๋อร์เป็นสตรีสามารถงดเว้นได้ แต่ลูกพี่กลับยังให้นางทำตามกฎ ใจที่รักถนอมของมีค่าไม่มีอยู่แม้แต่น้อย

เรื่องอื่นๆ ทำนองนี้ยังมีอีกมาก

ดังนั้นอันที่จริงจึงไม่มีใครรู้ว่าลูกพี่ใส่ใจโม่เอ๋อร์ถึงเพียงนี้จริงๆ จนกระทั่งได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของเหวยเจี้ยนซิน ทั้งสามพลันตื่นตะลึง ทว่า…

อาอ้วนคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ ก็หรี่ตาเล็กลงเอ่ยถาม

“ข้าว่านะน้องเหวย เรื่องที่พวกเราพี่น้องไม่รู้ เหตุใดเจ้าจึงรู้มากขนาดนั้น”

“เอ่อ…หา? แหะๆ…” เหวยเจี้ยนซินได้ยินก็แกล้งโง่หัวเราะแห้งๆ สองครั้ง

“พูดมา!” ผีพนันจางเองก็เร่งเร้าพลางจ้องเขาอย่างสงสัย

“นี่…คือว่า…ที่จริงแล้ว…ทุกคนก็รู้ดีว่าข้าขยันฝึกยิงธนูมาก…” ลูกตาของเหวยเจี้ยนซินกลอกไปทั่วซ้ายขวาบนล่าง สุดท้ายถึงค่อยยิ้มโง่ๆ มองทุกคนแล้วเอ่ยอย่างยอมรับชะตากรรม “ฝึกไปฝึกมา บางครั้งไม่ระวังก็…เอ่อ ยิงถูกพิราบสื่อสารบ้าง”

“อะไรนะ!?” อาอ้วนได้ยินก็หน้าเขียวแล้ว โกรธจนเข้าไปบีบคอเหวยเจี้ยนซินเขย่าแรงๆ ร้องเสียงดัง “สารเลว! ที่แท้นกน้อยของข้าพวกนั้นล้วนถูกเจ้าทำร้าย! เจ้าระยำนี่ คืนชีวิตเหล่านกน้อยของข้ามานะ! ข้าจะบีบคอเจ้า จะบีบคอเจ้า…”

“อ๊า…แค่กๆ…ชะ…ช่วยด้วย…แค่กๆๆ…หลันเซิง…เหล่าจาง…” เหวยเจี้ยนซินถูกบีบจนหน้าแดงเถือก รีบยื่นลิ้นออกมา ส่งเสียงขอความช่วยเหลือไปทางอีกสองคน

หลันเซิงกับผีพนันจางเห็นว่าเขาชีวิตจะหาไม่แล้วก็รีบเข้าไปคว้าแขนอาอ้วนคนละข้าง

“พวกเจ้าอย่ามาดึงข้า! ให้ข้าบีบคอมัน!” อาอ้วนสองตาแดงก่ำ ตะคอกอย่างดุร้าย

“อาอ้วนเจ้าใจเย็นหน่อย เรื่องราวมีหนักเบารีบเร่ง ก่อนเจ้าบีบคอเขา ก็ให้เจ้านี่แก้ปัญหาเรื่องโม่เอ๋อร์ให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน” หลันเซิงยิ้มน้อยๆ เอ่ยปลอบ

ผีพนันจางยิ้มยิงฟัน กล่าวเสริมว่า

“ใช่แล้ว รอเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้าอยากเอาเจ้านี่ไปต้มยำทำแกง พวกเราก็จะไม่ขัดขวางเลย”

“เฮือก…แค่กๆ…” เหวยเจี้ยนซินหลุดออกมาจากมืออาอ้วนได้ก็ไปหอบหายใจที่ด้านข้างทันที ครั้นได้ยินก็ร้องเสียงหลงอีก “พวกเจ้าสองคนมีใจเมตตาบ้างหรือไม่?!”

ผีพนันจางขึงตา ปล่อยมือที่จับอาอ้วนออกแล้วชี้จมูกตัวเอง

“บอกว่าข้าไม่มีเมตตา? เจ้าเด็กหน้าเหม็นที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณนี่!”

พอไม่มีพันธนาการของผีพนันจาง มือขวาของอาอ้วนที่เป็นอิสระก็ยื่นไปหาเหวยเจี้ยนซินอีกครั้ง แยกเขี้ยวระบำกรงเล็บราวกับวิญญาณร้ายก็ไม่ปาน ทำเอาเหวยเจี้ยนซินกลัวจนร้องโหวกเหวก

“เหล่าจาง ข้าผิดไปแล้ว…ข้าผิดไปแล้ว! อาอ้วน ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ให้อภัยข้าเถอะ! ข้ามีวิธีให้โม่เอ๋อร์กลับมาจริงๆ นะ ขอร้องท่านผู้อาวุโสให้โอกาสข้าทำความดีชดใช้ความผิดสักครั้ง เป็นการปลอบประโลมดวงวิญญาณบนสวรรค์ของเหล่านกน้อยไง!”

ประโยคสุดท้ายทำให้อาอ้วนหยุดลงในที่สุด เขาจ้องเจ้าสารเลวเหวยเจี้ยนซินอย่างโมโหเดือดดาล เนิ่นนานกว่าจะระงับโทสะได้ ถึงค่อยตบโต๊ะไม้กล่าว

“ยังไม่รีบพูดอีก!”

“ได้ๆๆ!” เหวยเจี้ยนซินเห็นดังนั้นก็ผ่อนลมหายใจลง รีบยิ้มกล่าว “เป็นอย่างนี้ท่านอาอ้วนที่รัก วันนี้ข้าได้รับข่าวมาว่าโม่เอ๋อร์นาง…”

เขางึมๆ งำๆ พูดแผนการยาวเป็นพรวนออกมา อีกสามคนที่เหลือยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเข้าที จึงเริ่มปรึกษากันขึ้นมา ดังนั้นในห้องของเหวยเจี้ยนซินจึงเห็นศีรษะดำสี่หัวสุมอยู่ด้วยกัน ปรึกษาแผนใหญ่ทำร้ายฉู่เฮิ่นเทียน…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com