นอกห้อง ฉู่เฮิ่นเทียนนั่งอยู่บนต้นไม้ ไม่สนใจเสียงโหวกเหวกภายในห้อง กระดกไหสุราลงคออีกคำใหญ่อย่างเลื่อนลอย ในสมองล้วนเป็นนาง…
โม่เอ๋อร์ของเขา โม่เอ๋อร์ที่ดื้อรั้นของเขา
เขายังคงจำเจ้าใบ้น้อยที่อยากเรียนวิชากระบี่เมื่อปีนั้นได้ จำได้ว่านางมีศีรษะเล็กและสูงเพียงเอวของเขา ทว่ากลับหัวแข็งเสียยิ่งกว่าก้อนหิน
“ไม่น่ารักเลยสักนิด…” เขากอดไหสุรา งึมงำกับตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์
นางไม่น่ารักเลยสักนิด รู้จักแต่กอดกระบี่สนิมกินเล่มนั้นฝึกอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งวัน ใบหน้าเล็กๆ แข็งทื่อ เคยเห็นนางยิ้มแค่ไม่กี่ครั้ง นางไม่รู้จักการออดอ้อน ไม่รู้จักการเอาใจ เพียงเบิกตาดำแวววาวที่ราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่งคู่นั้นของนางจ้องมองผู้อื่นตรงๆ ไม่รู้จักมารยาทสักนิด
นางเป็นเด็กน้อยที่ไม่น่ารักมาตลอด หลังจากนั้นนางก็เติบโตขึ้น จากเด็กไม่น่ารักเปลี่ยนเป็นแม่นางที่อ้อนแอ้นงดงาม แต่ก็ยังไม่น่ารักสักนิดดังเดิม
ทว่าเขากลับต้องการนาง
ทุกครั้งที่ขึ้นฝั่ง เขากกกอดหญิงอื่น ในใจกลับคิดถึงสตรีไม่น่ารักบนเรือคนนั้น
คืนหนึ่งเขาได้ยินเสียงร้องแผ่วเบาขณะกำลังหลับ เมื่อตามเสียงไปถึงในห้องนาง เห็นเพียงนางตัวสั่นหดตัวอยู่ที่มุมห้องราวกับสัตว์ตัวน้อยก็ไม่ปาน บนร่างมีเพียงชุดตัวใน ใบหน้าซีดขาว
‘เจ้าทำอะไร’ เขาเอ่ยถามอย่างอดไม่อยู่
นางเงยมองเขา อารมณ์บนใบหน้าอ่อนแอถึงขีดสุด เขารู้สึกเพียงว่านางใกล้ร้องไห้ออกมาเต็มที ดวงตาดำโตคู่นั้นกลับไม่หลั่งน้ำตาออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงเบิกตาโตมองเขา เขามองเห็นความหวาดกลัวและตื่นตระหนกจากในดวงตานาง สีหน้าที่อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตานั้นคล้ายกำลังวิงวอนให้เขาช่วยเหลือนาง
เมื่อพบว่านางไม่ปกติ เขาจึงยื่นมือออกไปอุ้มนางกลับขึ้นไปบนเตียง เขาสัมผัสได้ว่าร่างกายอ่อนหวานของนางกำลังสั่นเทาอยู่ในอกเขา นางขึ้นมาบนเตียงแล้ว แต่มือที่คล้องคอเขาอยู่กลับไปยอมปล่อย
กลิ่นหอมของสตรีลอยวนอยู่ตรงจมูกเขา เรือนร่างเติบโตเต็มที่ของนางแนบชิดเขา ปลายยอดกลมกลึงทั้งสอง เอวบางที่มือสามารถโอบรอบ…เขามองดูท่าทางอ่อนแอของนาง นึกเหตุผลที่ไม่ต้องการนางไม่ออก นางต้องการอะไรมาทำให้นางลืมความหวาดกลัว แม้เขาไม่รู้ว่านางกำลังกลัวอะไรกันแน่ แต่เขารู้อยู่พอดีว่าอะไรจะช่วยนางได้
คืนนั้นเขาครอบครองนาง นับแต่นั้นก็ราวกับต้องพิษ ลุ่มหลงในร่างกายของนาง จากนั้นก็เป็นลักษณะดึงดูดคนของนาง จนกระทั่งเขาไม่สามารถละสายตาไปจากสตรีที่ไม่น่ารักสักนิดคนนี้ได้อีก
ฉู่เฮิ่นเทียนกระดกสุราอีกคำ สุราเก่าแผดเผาลำคอเขา กระเพาะเขา หน้าอกเขา พาให้เลือดเดือดพล่าน พุ่งปะทะสมองที่สลัวรางร้อนผ่าวของเขา ในความพร่าเลือน เขาดันเห็นใบหน้าป่วยกระเสาะกระแสะของมารดาบนฟ้าครามเมฆขาว…
ใบหน้าขาวซีดซูบตอบ นางที่นอนอยู่บนเตียงยื่นมือผอมแห้งมาลูบใบหน้าเขา ในดวงตามีความเศร้าสลดรวดร้าวรุนแรง ‘เทียนเอ๋อร์ ถ้าทำได้ อย่าได้รักใคร เพราะนั่นมันเจ็บปวดเกินไป ทุกข์เกินไป ทรมานเกินไป…’
ตอนนั้นเขาอายุยังน้อย ฟังไม่เข้าใจ รู้แค่ว่าเป็นท่านพ่อผิดต่อท่านแม่ ดังนั้นหลังจากท่านแม่จากไป เขาก็สวมต่างหูมังกรสมุทรที่ท่านแม่ทิ้งไว้ที่หูขวา ขึ้นเรือสลัดเป็นโจรสลัด ปล้นชิงสินค้าของสกุลจั้นโดยเฉพาะ
เขากับจั้นเทียนต่อสู้กันมาหลายปี จนกระทั่งครั้งหนึ่งเขาได้พบจั้นเทียนอยู่บนฝั่งเพียงลำพัง เขาลงมืออย่างอดใจไม่อยู่ ระหว่างต่อสู้ เขาฟันถูกเสื้อของจั้นเทียน แต่กลับเห็นถุงผ้าปักดอกโบตั๋นสีซีดจางใบหนึ่งร่วงมาจากในเสื้อของอีกฝ่าย
เพื่อเก็บถุงผ้าใบนั้นจั้นเทียนไม่หลบกระบี่ยาวของเขาด้วยซ้ำ ยามเลือดสาดออกมาจากไหล่ของจั้นเทียน เขาเห็นอักษร ‘เหลียน’ เล็กๆ ตัวหนึ่งที่มุมถุงผ้า
ถุงผ้าปักของท่านแม่? เพราะเหตุใด