ลูกพี่คงไม่ใช่ยังไม่ตื่นหรอกกระมัง?! วันนั้นเขาพยุงลูกพี่ลงจากต้นไม้ หลังจากลูกพี่ถามประโยคแปลกๆ นั่นกับเขา ไม่นานเท่าไรก็พูดอะไรประหลาดๆ ที่เขาฟังไม่เข้าใจ จากนั้นก็เมาพับหลับไป อย่างเดียวที่เขาฟังเข้าใจก็คือลูกพี่สั่งเขาว่าไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามโม่เอ๋อร์แต่งงานเด็ดขาด!
ในเมื่อลูกพี่สั่งมาแล้ว เขาย่อมมาทำลายงานอย่างยินดี เขาให้ผีพนันเฒ่าดูแลลูกพี่ ส่วนตัวเองวิ่งไปเป็นเสี่ยวเอ้อร์ชั่วคราวตามหอสุราในเมืองบ้าง โรงเตี๊ยมบ้าง พอมีของจะส่งไปที่ปราสาทเขากระบี่เทพ เขาเป็นต้องอาสาทันที สองวันนี้เขาเข้าๆ ออกๆ ปราสาทเขากระบี่เทพมาหลายรอบแล้ว ตอนนี้จึงคุ้นเคยกับที่แห่งนี้ราวกับเป็นสวนบ้านตน
แต่ว่าสุราวสันต์ฟ้าลั่นนั่นแรงเอาเรื่อง ลูกพี่กรอกไปหลายไหถึงเพียงนั้น ถ้าตอนนี้ยังไม่ตื่น เช่นนั้นความเหนื่อยยากในสองวันที่ผ่านมานี้จะไม่เสียเปล่าเอาหรือ?!
ผีพนันเฒ่าบุ้ยปากไปที่โต๊ะประธาน
“นั่นไง ไม่ใช่อยู่ข้างหน้าแล้วหรือ”
“ตรงไหน ข้าไม่เห็นเลย!” เหวยเจี้ยนซินขมวดคิ้ว หรี่ตามองหาอยู่นานก็ยังหาเงาร่างของลูกพี่ไม่เจอ
“เฮ้อ ในเมื่อเขามาแล้ว อีกเดี๋ยวเจ้าได้ดูละครสนุกแล้วอย่าลืมสกัดองครักษ์ไล่ตามด้วยล่ะ” ผีพนันเฒ่าหรี่ตาลงมองไปทั่วโถงรอบหนึ่ง “ที่นี่ก็มีสองสามคนที่ใช้การได้ ถึงตอนนั้นเจ้าอย่ามาโทษว่าท่านปู่อย่างข้าไม่เตือนเจ้าเล่า”
เหวยเจี้ยนซินหยิบไส้กรอกห้ารสอีกหลายชิ้นยัดใส่เต็มปาก โบกมือชุ่มน้ำมันกล่าวอย่างมั่นใจ
“อ้องงำ อ้องงำ! อ้าอัดอานไว้ละ!”
“หา?” ผีพนันเฒ่าได้ยินแต่ฟังไม่เข้าใจ หันกลับมาก็เห็นเจ้าหนูนี่มีอาหารเต็มปาก ทำเอาเขาสะดุ้งโหยงอดด่าไม่ได้ “ให้ตายเถอะ เจ้าหนูอย่างเจ้านี่เป็นผีอดอยากหรืออย่างไร”
เหวยเจี้ยนซินกลืนอาหารในปากลงไปถึงค่อยกล่าว
“ไม่ต้องห่วง ข้าจัดการไว้นานแล้ว! สองวันมานี้ข้าขุดจนสองมือจะหักอยู่แล้ว รับรองว่าถึงตอนนั้นไม่มีใครกล้าตามมาแน่! อีกเดี๋ยวผู้เฒ่าอย่างเจ้าจำไว้ว่าต้องวิ่งให้ไวหน่อย อย่าชักช้ายืดยาด” เขาเรอออกมาทีหนึ่ง แล้วเกี่ยวเอาจอกสุรามาดื่มอีกจอกถึงค่อยเสริมอีกประโยคด้วยรอยยิ้มหยีอย่างพึงพอใจ “สองวันมานี้ข้าก็ลงแรงไปกับอาหารพวกนี้อยู่ไม่มากก็น้อย แค่มองก็หิวแล้ว ตอนนี้ย่อมต้องกินให้อิ่ม ยิ่งกว่านั้นต่อไปพวกเราก็ไม่ได้กินแล้ว ไม่กินให้พอก่อนจะได้อย่างไร”
ผีพนันเฒ่าค้อนปะหลับปะเหลือกใส่ ขณะกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงประทัดเสียงฆ้องกลองดังลั่น ในบรรยากาศชื่นมื่น เจ้าสาวในชุดแต่งงานสีแดงเพลิงให้แม่สื่อและนายน้อยปราสาทเขากระบี่เทพพยุงเข้ามาภายในโถง
“นี่ นั่นใช่โม่เอ๋อร์จริงหรือ” มองผ้าคลุมหน้าสีแดงของเจ้าสาว กระทั่งปลายคางยังมองไม่เห็น ผีพนันเฒ่าก็อดเกิดความสงสัยไม่ได้
“ใช่แล้วๆ สองวันก่อนข้าเพิ่งเห็นนางลองชุดแต่งงาน แต่ว่าพูดจริงๆ นะ วันนั้นบนหน้านางไม่มีความเบิกบานยินดีของเจ้าสาวสักนิด หน้าขาวซีดไปหมด” เหวยเจี้ยนซินชี้หน้าตัวเองแล้วกล่าวต่อ “นางบอกคนอื่นว่านางกินของผิดสำแดงจนท้องเสีย คนพวกนั้นก็ยังเชื่อ ช่างน่าหัวเราะจริงๆ นี่ๆๆ จะเริ่มพิธีแล้วนะ ลูกพี่เล่า” เห็นบ่าวสาวกำลังจะกราบไหว้ฟ้าดินแล้ว แต่ยังไม่เห็นลูกพี่ปรากฏกาย เขาก็ร้องเสียงหลงเบาๆ พลางดึงแขนเสื้อผีพนันเฒ่า
“เจ้ากังวลอะไร ลูกพี่ย่อมมีแผนการน่า!” ผีพนันเฒ่าเหล่มองเขาอย่างรำคาญ “เตรียมกลักไฟของเจ้าให้พร้อมเป็นพอ”
เขาเพิ่งพูดจบ ผู้ดำเนินพิธีด้านหน้าก็ส่งเสียงดัง
“หนึ่ง กราบไหว้ฟ้าดิน…”
บ่าวสาวในชุดแดงเพลิงทั้งตัวหันกายกลับมาหน้าประตูใหญ่แล้วโค้งคารวะ
คนผู้หนึ่งในโต๊ะประธานจ้องเจ้าบ่าวที่ประคองเรือนร่างแบบบางของเจ้าสาวเขม็ง หัวใจหดรัด แม้จะเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เขาก็แทบไม่อาจควบคุมไฟหึงหวงเต็มฟ้านั้นได้! บางทีจนกระทั่งถึงเมื่อครู่ ในใจของเขายังคงนึกว่านางเพียงพูดไปเท่านั้น จะไม่กราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับเจ้าหน้าขาวที่ยิ้มแย้มยินดีคนนี้จริงๆ จนกระทั่งตอนนี้เห็นนางกำลังกราบไหว้ฟ้าดินกับอีกฝ่าย เขาก็แทบโมโหเดือดดาลแล้ว!
ทว่าแม้ไฟโกรธจะปะทุแค่ไหน เขาก็ไม่ได้มองข้ามมือขวาของนางที่วางอยู่ข้างเอวยามลุกขึ้น
บ่าวสาวลุกยืนมั่นแล้ว ผู้ทำพิธีก็กล่าวต่อ
“สอง กราบไหว้บิดามารดา…”
ปลายคางเขาเกร็งขมึง กำหมัดไว้ข้างตัว รู้ว่าตนจะไม่อภัยให้ความกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ของนางเด็ดขาด
เจ้าบ่าวประคองเจ้าสาวให้โค้งตัวคารวะกู้หย่วนต๋าที่อยู่ในตำแหน่งด้านบน ยามทั้งสองกำลังจะหยัดกายขึ้น ลูกกลมสีดำลูกหนึ่งพลันถูกคนโยนเข้ามาในงาน เพราะกะทันหันเกินไป ทุกคนล้วนแต่ตกตะลึงจ้องมองลูกกลมดำที่ขนาดเท่าไข่ไก่ลูกนั้น มันกลิ้งไปสองรอบจากนั้นก็หยุดลง จู่ๆ เสียง ‘ปัง’ พลันระเบิดออก ควันขาวเหม็นกระจายออกมาอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะเดียวก็ปกคลุมทั่วโถง
เพราะสายตาทุกคนไปอยู่ที่ลูกกลมดำนั้นหมด จึงไม่มีใครเห็นว่าพริบตาที่หยัดกายขึ้นเจ้าสาวกระชากผ้าคลุมหน้าออกแล้วชักกระบี่อ่อนออกมาจากเอว พุ่งทะยานแทงใส่ตำแหน่งประธานพิธีเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว!