โม่เอ๋อร์ที่ชุ่มเหงื่อทั้งตัวสะดุ้งตื่นฉับพลันในความมืด
นางตัวเกร็งไปทั้งร่าง หอบหายใจคำโต จนกระทั่งอาการคลื่นเหียนนั้นผ่านพ้นไปถึงค่อยเช็ดเหงื่อบนใบหน้า ยามนางหันกายกลับมาคิดจะเสาะหาความอบอุ่นที่เขามอบให้ แต่กลับหาคนไม่เจอ ถึงเพิ่งระลึกได้กะทันหันว่านางไม่ได้อยู่บนเรือแล้ว นึกได้ว่านางจากเขามาแล้ว และที่นี่คือโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในหลิ่งหนาน
มือเล็กที่หดคืนเย็นเฉียบ นางงอตัวกอดหัวเข่าอยู่ที่มุมเตียง จ้องห้องที่มืดมิดด้วยดวงหน้าซีดขาว
สิบวันแล้วนับจากจากเรือดำมา นางอ้อมไปอ้อมมาหลายครั้ง ไม่ง่ายกว่าจะมาถึงหลิ่งหนาน มาถึงสถานที่ที่คนชั่วนั่นอยู่
ปีนั้นเพราะนางทำตามคำสั่งของท่านแม่จึงรอดพ้นการเข่นฆ่านั้นมาได้ ทว่ากลับถูกโจรอีกกลุ่มที่เร่งมาจับตัวได้ จะส่งนางไปทางเหนือ ระหว่างทางนางอาศัยการสะเดาะกุญแจที่ท่านแม่เคยสอนนางเล่นๆ หนีออกไปได้สองสามครั้ง แต่เพราะไม่เป็นวิชายุทธ์ ทุกครั้งหนีไปได้ไม่นานก็ถูกจับกลับมาแล้ว
ภายหลังโจรพวกนั้นไม่กล้าดูถูกนางอีก ไม่เพียงเปลี่ยนเป็นเดินทางทางน้ำ ยังสวมตรวนมือเท้าให้นางด้วย ขังนางไว้ในกรงไม้ใต้ท้องเรือ เตรียมการป้องกันไว้หลายชั้น ถ้าไม่ใช่ภายหลังคุณหนูใหญ่สกุลจั้นมาพบและช่วยนางไว้ นางคงถูกคนทรมานจนตายไปตั้งนานแล้ว
แผนที่จิ๋นซี
เพื่อแผนที่จิ๋นซีแผ่นหนึ่ง ครอบครัวของนางต้องเผชิญกับเคราะห์ถูกฆ่ายกตระกูล ที่น่าหัวเราะก็คือก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น นางถึงขนาดไม่เคยได้ยินคำว่าแผนที่จิ๋นซีนี้เลยด้วยซ้ำ บิดาของนางเป็นอาจารย์กระบี่ที่พอมีชื่อเสียงในหลิ่งหนาน ส่วนมารดานางเป็นเพียงบุตรสาวของช่างทำกุญแจเท่านั้น
ถึงตอนนี้นางก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนพวกนั้นถึงคิดว่าแผนที่จิ๋นซีอยู่ในมือบิดามารดานาง พวกเขาเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาๆ เท่านั้น!
โม่เอ๋อร์กัดริมฝีปากล่างแน่น ในดวงตาเคลือบประกายน้ำตาและความเคียดแค้น
หลายปีมานี้นางขอให้คุณหนูใหญ่ช่วยสืบหามาตลอด แต่เพราะเมื่อปีนั้นนางซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ มองเห็นเพียงรองเท้าดำที่ปักลายแมวภูเขาคู่นั้น เบาะแสน้อยเกินไปจึงยากจะหาพบ มาถึงตอนนี้ไม่ง่ายกว่าจะหาเจอ ในที่สุดนางก็รู้ว่าศัตรูที่พาคนมาฆ่าล้างครอบครัวนางเมื่อปีนั้นเป็นใคร นางจะต้องแก้แค้นให้ท่านพ่อท่านแม่ ให้เดรัจฉานพวกนั้นชดใช้หนี้เลือด!
ท้องฟ้าสีคราม กลีบเมฆสีขาว ใบเรือยังไม่ชักขึ้น เรือดำยังคงจอดนิ่งริมฝั่ง
มังกรดำฉู่เฮิ่นเทียนมีผมยาวดำ เป็นเส้นผมที่ทั้งดำทั้งตรง
ในอาณาเขตทะเลต้าถังนี้ เทียบกับพวกโจรสลัดที่เสื้อผ้าสกปรกผมสยายยุ่งเหยิงแล้ว ฉู่เฮิ่นเทียนมังกรดำผู้เป็นตำนานคนนี้ก็เรียกว่าสะอาดสะอ้านมากแล้ว
ความสะอาดของเขายิ่งเพิ่มความเป็นตำนานให้กับตำนานไร้พ่ายของเขา
เขาเป็นโจรสลัด โจรสลัดที่ฆ่าคนชิงสมบัติ เป็นโจรสลัดในหมู่โจรสลัด!
เขาคือมังกรดำ โจรสลัดมังกรดำไร้คู่ต่อสู้ที่อาละวาดไปทั่วทิศ!
มังกรดำฉู่เฮิ่นเทียนสวมชุดดำ ขับเรือดำ เชี่ยวชาญการกลืนกินความชั่วร้ายด้วยความชั่วร้าย!
เรือทุกลำบนทะเลล้วนรู้ว่าไม่สามารถหาเรื่องเรือดำได้ โจรสลัดทั้งหมดบนทะเลขอเพียงเห็นเรือดำที่ไร้คู่ต่อสู้ลำนี้จากไกลๆ ก็จะหันหัวเรือหนีทันที ไม่มีใครกล้าเดิมพันโชคชะตาของตน เพราะเรือที่เคยลองล้วนจมลงใต้ก้นทะเลตลอดกาล!
แต่ยามนี้เส้นผมยาวที่สะอาดและเรียบร้อยอยู่เป็นนิจของฉู่เฮิ่นเทียนกลับยุ่งเหยิงเล็กน้อยโดยไม่รู้สาเหตุ…
เหวยเจี้ยนซินจ้องปอยผมสีดำที่หาญกล้ากระดกตัวขึ้นมา อ้าปากอยากจะเอ่ยคำพูด
“ลูกพี่ โม่…”
เพิ่งอ้าปาก เขาก็ได้รับสายตาเย็นเยียบทันที ทำเอาหวาดกลัวจนหุบปากโดยพลัน
ฉู่เฮิ่นเทียนมองเส้นขอบทะเลไกลๆ ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
หลายวันมานี้มักมีคนมาขอร้องแทนโม่เอ๋อร์บ่อยๆ ต่อให้ไม่กล้าเอ่ยปากก็จะมองเขาตาปริบๆ หวังว่าเขาจะช่วยนาง และหนึ่งในนั้นคนที่พูดมากที่สุดก็คือเหวยเจี้ยนซิน
ผ่านไปไม่นาน เหวยเจี้ยนซินก็พยายามเอ่ยปากอย่างไม่กลัวตายอีก
“ลูกพี่ หรือท่านทนไม่สนใจได้จริง…”
ฉู่เฮิ่นเทียนสีหน้าเย็นชา มือข้างหนึ่งวางอยู่บนกราบเรือ เอ่ยเสียงเย็น
“หญิงผู้นั้นจะเป็นหรือตายไม่เกี่ยวกับข้า! เข้าใจหรือไม่”
ทุกคนรวมทั้งเหวยเจี้ยนซินที่สอดปากโหวกเหวกต่างเงียบกริบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก