บทที่ห้า
เมื่อเห็นในเรือนของหลี่รั่วอวี๋วุ่นวายยุ่งเหยิง กระถางดอกไม้และอ่างปลาตกแตกกระจายเต็มพื้น สาวใช้และบ่าวหญิงอาวุโสรอบข้างล้วนร้องโวยวายอย่างร้อนใจ อยากจะยื่นมือไปดึงคน แต่ก็หาช่องว่างไม่ได้เลย
ในตอนนี้ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแสบหูดังขึ้นอีก ก่อนจะเห็นหลี่เสวียนเอ๋อร์กุมหัวนอนฟุบอยู่บนพื้น ถูกหลี่รั่วอวี๋นั่งทับไว้แน่น ผมดำขลับบนหัวถูกหญิงสมองเสื่อมกระชาก พอออกแรงกระชากเช่นนี้ ผมกระจุกหนึ่งก็ถูกกระชากติดมือออกมาด้วย
หลี่เสวียนเอ๋อร์ทนไม่ไหว เจ็บจนร้องครวญเสียงดัง น้ำตาที่ไหลออกมาเปื้อนเครื่องประทินโฉมบนใบหน้าจนดูไม่ได้
เดิมคิดว่าบุตรสาวจะเสียเปรียบ แต่พอมาเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็ตกใจยกใหญ่ นางลืมไปได้อย่างไรว่าตอนบุตรสาวอายุห้าขวบก็ได้ไปเรียนที่สำนักศึกษาพร้อมกับเด็กชายอายุหกเจ็ดขวบจำนวนหนึ่ง อย่าเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงแล้วจะอ่อนแอ มาทำให้นางโกรธจริงๆ หรือทะเลาะวิวาทกันขึ้นมาเมื่อใดก็ไม่แพ้เด็กผู้ชายแม้แต่น้อย จึงมักจะมีเด็กผู้ชายอ้วนขาวหน้าเขียวช้ำร้องไห้เช็ดน้ำตาถูกท่านแม่ตนเองพามาฟ้องที่คฤหาสน์สกุลหลี่ ตอนนี้คิดไปแล้ว เสียนเอ๋อร์ปีศาจน้อยที่กร้านโลกนี้แท้จริงก็เลียนแบบตามพี่รองของตนเองกระมัง!
เดิมทีนางกับนายท่านหลี่ยังกังวลว่าบุตรสาวนิสัยดุร้ายเช่นนี้อนาคตจะทำอย่างไรดี โชคดีที่หลี่รั่วอวี๋โตขึ้นก็เชื่อฟังคำสั่งสอนของนายท่าน ค่อยๆ เก็บงำนิสัยความดุร้ายเอาไว้ กิริยาท่าทางก็ดูมีความเป็นกุลสตรี แต่ดูจากทีท่าปัดป่ายไปตามใจชอบในวันนี้ช่างเหมือนนิสัยของบุตรชายคนเล็กยิ่ง ไม่รู้ว่าหลี่เสวียนเอ๋อร์ผู้นี้ไปทำอะไรให้นางโกรธ จึงถูกกดไว้ใต้ตัวแล้วกระชากผมเช่นนั้น
โจวอี๋เหนียงยืนดูอยู่ด้านข้างอย่างปวดใจ เตรียมจะเข้าไปดึงตัวหลี่รั่วอวี๋ขึ้นมา แต่กลับถูกหลี่รั่วอวี๋สะบัด โจวอี๋เหนียงที่อ่อนแอต้านลมไม่ไหวอยู่แล้วก็ลื่นล้มลงท่ามกลางเศษกระถางดอกไม้
รอจนสาวใช้และบ่าวหญิงอาวุโสเข้าไปแยกหลี่รั่วอวี๋กับหลี่เสวียนเอ๋อร์ออกจากกันได้ในที่สุด หลี่เสวียนเอ๋อร์ก็ร้องไห้จนไม่เป็นเสียง ผมเผ้ารุงรัง สีหน้าซีดขาว
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ถามบ่าวหญิงอาวุโสที่คอยดูแลข้างกายหลี่รั่วอวี๋ จึงได้เข้าใจสาเหตุของเรื่องราว
หลายวันมานี้ หลี่รั่วอวี๋หลงใหลกับการ ‘ฝึกเหยี่ยว’ ทุกวันจะเล่นกับนกแก้ว เจ้านกแก้วตัวนั้นก็ฉลาด ถูกฝึกจนเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้ว
ทุกวันหลังจากปล่อยให้บินก็จะบินกลับมาเองได้ บางครั้งในปากก็จะคาบกิ่งไม้หรือดอกไม้ป่าบางอย่างมาด้วย ยังสามารถได้รางวัลชิ้นโต กินเมล็ดเหอเถา* ได้อย่างเอร็ดอร่อย
นกแก้วมีความฉลาด เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่บินออกไป กรงเล็บนั้นก็ไม่เคยว่างเปล่าเลย
แต่วันนี้นกแก้วนั่นบินไปในเรือนของหลี่เสวียนเอ๋อร์ บังเอิญไปคว้าเอาเรือรบจำลองลำหนึ่งที่หลี่เสวียนเอ๋อร์เพิ่งทำใหม่มา บินโซเซกลับมาในเรือนของหลี่รั่วอวี๋ อยากจะรีบเอามาแลกกับเมล็ดเหอเถาลูกใหญ่
หลี่เสวียนเอ๋อร์เห็นนกแก้วคาบเอาเรือจำลองที่ใกล้จะทำเสร็จแล้วไป กลัวว่าความพยายามหลายวันนี้จะต้องสูญเปล่าจึงย่อมไม่ยินดี นำสาวใช้ไล่ตามมาตลอดทาง
รอจนเข้ามาในเรือนแล้ว หลี่เสวียนเอ๋อร์ก็เห็นหลี่รั่วอวี๋กำลังเล่นเรือจำลองที่ตนเองทำอยู่ข้างอ่างปลาในเรือน เล่นไปพลางแกะชิ้นส่วนออกไปพลาง
คราวนี้หลี่เสวียนเอ๋อร์โกรธไม่น้อยจึงกระโจนเข้าไปแย่งเรือจำลอง แต่หลี่รั่วอวี๋เอี้ยวตัวหลบ หลี่เสวียนเอ๋อร์จึงยิ่งโกรธมาก เมื่อระบายอารมณ์ใส่หลี่รั่วอวี๋ไม่ได้และมองเห็นนกแก้วที่เกาะอยู่บนแท่นไม้ไซ้ขนตนเองอยู่ก็คว้าหลังนกแก้วเอาไว้ ก่อนจะถอนขนนกออกมาหลายเส้น
นกแก้วเจ็บจนร้องครวญ เสียงร้องครวญนี้เข้าไปถึงกลางใจคุณหนูรอง บ่าวหญิงอาวุโสไม่ทันเห็นชัด คุณหนูรองก็กระโดดไปบนตัวของคุณหนูสามแล้ว จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายไปทั่ว ปีศาจสาวจากฝันร้ายของเหล่าเด็กในสำนักศึกษาในอดีตปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง…
โจวอี๋เหนียงฟังสาเหตุอย่างชัดเจน แล้วมองบุตรสาวตนเองที่ผมหลุดไปกระจุกหนึ่งก็โมโหจนสั่นไปทั้งตัว อยากจะระเบิดอารมณ์แต่ก็ไม่กล้า อย่างไรเสียคนที่เป็นใหญ่ในคฤหาสน์สกุลหลี่ก็คือฮูหยินผู้เฒ่าหลี่
แต่ในตอนนี้เอง หลี่เสวียนเอ๋อร์กลับกุมท้องร้องเจ็บขึ้นมาทันใด มีบ่าวหญิงอาวุโสตาแหลม พบว่าข้างขาของนางมีเลือดไหลออกมา ดังนั้นเรือนที่เพิ่งเงียบสงบลงก็วุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง