14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน วาสคนเขลา
แม้เขาจะตามไป๋ฉวนจงมา แต่เพราะนิสัยรักสันโดษไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้ใด คนที่ซือหม่าแต่งด้วยจะเป็นธิดาสกุลใดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย เขาสนใจเพียงวิชากลไก และไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลี่รั่วอวี๋เมื่อสองเดือนก่อนด้วย
จู่ๆ ก็ได้เจอคนรู้จัก เขาคิดเพียงว่าหญิงสาวเจ้าเล่ห์ผู้นี้อิจฉากลไกยอดเยี่ยมของเขา คิดจะสาดน้ำทำลาย จึงพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ไม่ทราบว่าคุณหนูรองมีคำชี้แนะอะไร เหตุใดไม่ทันพูดจาก็จะเอาน้ำมาสาดแล้ว”
หลี่รั่วอวี๋ช้อนตาขึ้นมอง เห็นเพียงบัณฑิตหน้าขาวหล่อเหลาสุภาพผู้หนึ่งยืนอยู่ในสวนดอกไม้ ปลายคางที่เชิดขึ้นเล็กน้อยฉายความเป็นศัตรูที่อธิบายได้ไม่ชัดเจน
หลี่รั่วอวี๋แม้จะจำเขาไม่ได้ แต่กำลังรอจะถาม ก็ถือกระบอกไม้ไผ่เบี่ยงหลบ แล้วปล่อยน้ำไหลเข้าไปในกระบะทราย ขณะเดียวกันก็เลียนแบบท่าทางฉู่จิ้งเฟิง จงใจร้องเพลงเสียงเข้ม “ปลาติดอวน จะอยู่ได้นานหรือ…”
คนข้างกายล้วนรู้ว่าหญิงผู้นี้อาการกำเริบแล้ว หล่งเซียงกลัวว่านางจะก่อเรื่อง จึงรีบแย่งกระบอกไม้ไผ่จากมือนางแล้วพูดกล่อมเสียงเบา
แต่คำพูดลอยๆ นี้เข้าหูเมิ่งเชียนจีแล้วความหมายก็แตกต่างไป ในอดีตเขาได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์มือภูต ตอนเรียนสำเร็จอายุเพียงยี่สิบปี เขาอายุน้อยมีความมุ่งมั่นมาก กำลังจะยืดแขนขา แต่ผู้ใดจะคิดว่า กลับต้องมาเจอประสบการณ์โจวอวี๋พ่ายแพ้จูเก่อเลี่ยง* เมื่อได้พบกับศัตรูที่ฝีมือทัดเทียมกัน หลี่รั่วอวี๋ยอดฝีมืออายุน้อยเช่นเดียวกัน ในตอนนั้นเขาพ่ายแพ้ขายหน้าให้กับคุณหนูรองหลี่ จึงรีบกลับสำนักเพียรพยายามมากขึ้น เก็บตัวอยู่บนเขาหลายปี ที่ยอมมาอยู่ใต้อาณัติของพระมาตุลาไป๋ เพราะได้ยินว่าหลี่รั่วอวี๋จะต่อเรือให้กรมโยธา เขาจึงตั้งใจมอบกลไกที่ตนเองตั้งใจคิดค้นมาสามปี ใช้โอกาสนี้เปรียบเทียบฝีมือกับหลี่รั่วอวี๋
คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันในจวนกลางสวนของท่านหญิงไหวอินนี้ สิ่งที่มาเข้าหูก็เป็นคำพูดลอยๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน หากเป็นคนทั่วไปก็แล้วไป แต่คุณชายเมิ่งผู้นี้ไม่ใช่คนทั่วไป เขายืนนิ่ง จดจ้องและครุ่นคิดความหมายในคำพูดของนาง
พอใช้กำลังก็รุนแรงเกินไป ในอดีตเขาถูกหลี่รั่วอวี๋ประชดประชันว่าเป็นเพียงการวางแผนรบบนกระดาษ กลไกแม้จะดีแต่ใช้ไม่ได้จริง ตอนนี้ถูกนางใช้น้ำสาด เห็นกลไกคุ้มกันเมืองมีน้ำหยดติ๋งๆ น้ำมันหล่อลื่นถูกชะล้างไปไม่น้อย…
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็รู้ว่าเมืองที่ต้องคุ้มกันอยู่ทางเหนือ พื้นที่นั้นถึงเดือนแปดแล้วก็จะเต็มไปด้วยหิมะ แม้กลไกนี้จะดีแต่ไม่ทนน้ำไม่ทนเย็น หากถูกน้ำที่ละลายจากหิมะก็จะจับตัวแข็งทันที แม้จะใช้ไฟลนก็เหมือนเป็นการเพิ่มภาระไม่มีประโยชน์ใด…
ถึงตอนนั้นไม่เท่ากับเหมือนเพลงที่นางร้อง… ‘ปลาติดอวน จะอยู่ได้นานหรือ’
เดิมคิดว่าไม่มีข้อบกพร่องใดแล้ว เสียเวลาไปสามปี ผลงานจากแรงกายแรงใจที่ยอดฝีมือด้านกลไกคุ้มกันเมืองมากมายยังมองไม่เห็นปัญหา แต่คุณหนูรองหลี่ผู้นี้กลับมองเห็นจุดบกพร่องภายในได้เพียงชั่วครู่…
ในตอนที่รู้ถึงจุดอ่อนกลไกของตนเอง สีหน้าของเมิ่งเชียนจีก็โกรธจนเขียวแล้ว เงยหน้าขึ้นมองคุณหนูรองหลี่ที่มีสาวใช้ประคองอยู่หัวเราะเอิ๊กอ๊าก หน้าตาไม่มีความสำรวมเลย ราวกับยิ้มเยาะเขาที่ไม่ประเมินกำลังตนเองมาแกว่งขวานหน้าบ้านหลู่ปัน** ความเย่อหยิ่งของเมิ่งเชียนจีขาดผึงลงทันที เขาสั่นไปทั้งตัว คำรามเสียงยาว แล้วหยิบพลั่วเหล็กปลูกดอกไม้อันหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะกระโจนเข้าไปทำลายกระบะทรายอย่างคลุ้มคลั่ง!
รอจนไป๋ฉวนจงคุณชายใหญ่สกุลไป๋รุดมาถึง เมิ่งเชียนจีก็เหนื่อยจนเหงื่อท่วมหัวแล้ว ล้มตัวอยู่ในพื้นที่พังระเนระนาดมือกุมหน้าไม่ขยับตัว เพียงพึมพำพูดว่า “กำลังกายใจสามปี กลับถูกคำพูดประโยคเดียวของเจ้าทำลาย! ข้าเทียบเจ้าไม่ได้จริงหรือ เทียบเจ้าไม่ได้…”
หลังจากถามรายละเอียดชัดเจนแล้ว ไป๋ฉวนจงก็ถลึงตามองหลี่รั่วอวี๋ที่ขดตัวสั่นอยู่ด้านข้าง เขามาในครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อ แสดงความสามารถให้ฉู่จิ้งเฟิงได้เห็น ทำให้อีกฝ่ายเกิดความกลัวบ้าง ไม่เคยคิดว่ากลไกชุดนี้ยังไม่ทันให้ฉู่จิ้งเฟิงได้เห็นก็ถูกคำพูดบ้าๆ ของภรรยาแต่งใหม่ของอีกฝ่ายทำลายเสียแล้ว อยากจะกระอักเลือดสดออกมาสักถ้วยจริงๆ
ส่วนเสิ่นหรูป๋อที่เดินตามหลังไป๋ฉวนจงมาก็มีสีหน้าเคร่งเครียด สายตาจับจ้องฮูหยินซือหม่า ไม่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่
ในตอนที่ไป๋ฉวนจงเตรียมจะหาเรื่องหลี่รั่วอวี๋ ฉู่จิ้งเฟิงก็รุดมาถึงอย่างรวดเร็ว
เขาไม่มองไป๋ฉวนจงที่ยืนอยู่ด้านข้างเลย เพียงแค่กวาดตามองหลี่รั่วอวี๋ที่ตื่นตกใจอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็สั่งหล่งเซียงกับเหล่าบ่าวหญิงอาวุโสว่า “ไป ส่งฮูหยินกลับห้องพักผ่อน”
หลังจากหลี่รั่วอวี๋เดินไปแล้ว เดิมทีไป๋ฉวนจงคิดว่าฉู่จิ้งเฟิงจะขอโทษ อย่างไรเสียก็เป็นฮูหยินของเขาที่ก่อเรื่อง แต่ตอนนี้สกุลไป๋ทำอะไรฉู่จิ้งเฟิงผู้นี้ไม่ได้ จะต้องทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ในใจเขาจึงคิดว่าหากอีกครู่ฉู่จิ้งเฟิงขอโทษแล้วตนเองควรจะตอบอย่างไร
แต่คิดไม่ถึงว่าพอฉู่จิ้งเฟิงเอ่ยปากแล้ว ทว่าคำพูดนั้นกลับเป็นอีกแบบ “คุณชายท่านนี้ที่คุณชายไป๋พามาไม่รู้ว่าฮูหยินป่วย คำพูดการกระทำแม้จะลบหลู่นาง แต่เห็นแก่หน้าคุณชายไป๋ ข้าจะไม่ถือสา ทว่าในลานนี้ล้วนเป็นดอกไม้ใบหญ้าหายากที่พี่สาวข้ารักทะนุถนอม หวังว่าคุณชายผู้นี้จะเก็บกวาดให้เรียบร้อย จะได้ไม่รบกวนความงามของดอกไม้ ทำลายความงามไป…”
เขาพูดจบก็ไม่รอให้ไป๋ฉวนจงตอบ หมุนตัวก้าวยาวๆ จากไปทันที
ไป๋ฉวนจงได้รับการอบรมจากพระมาตุลาไป๋อย่างดี ความรู้สึกยินดีโมโหล้วนไม่แสดงบนสีหน้า แต่พอมาเจอฉู่จิ้งเฟิงกลับพังทลาย ทั้งที่ภรรยาสมองเสื่อมของอีกฝ่ายเป็นคนก่อเรื่อง เหตุใดจึงกลายเป็นความผิดของเขาไปได้!
Comments
