ตามที่นางดู ซือหม่าผู้นี้ไม่ใช่คนที่ทะนุถนอมสาวงามอะไร เพียงเห็นผมสีขาวเงินใบหน้าเย็นชานั้นแล้วก็รู้สึกเคร่งเครียด ทนไม่ไหวเลยจริงๆ
ดังนั้นนางจึงลดความคิดที่จะเป็นอนุลง แต่พยายามปรนนิบัติฮูหยินน้อยผู้นี้อย่างเต็มที่ นายหญิงเป็นคนปัญญาอ่อนก็ดี มีเรื่องให้ต้องลำบากใจน้อยลง ตนเองทำงานไป รอเก็บเงินได้มากพอ ตอนอายุมากกว่านี้ ขอให้ผู้เป็นนายเห็นในความดีปล่อยตนเองออกจากจวน จะได้หาบุรุษดีๆ สักคนฝากชีวิตไว้ได้
แต่น้องสาวกลับไม่ได้คิดเช่นเดียวกับพี่สาว ตอนที่ซูซิ่ววุ่นกับการหวีผมให้หลี่รั่วอวี๋ ทางห้องครัวส่งรังนกต้มน้ำตาลใส่พุทราแดงที่เพิ่งตุ๋นเสร็จมาให้ฮูหยิน ซูเหมยตักหนึ่งถ้วยให้ฮูหยินแล้ว ก็ตักถ้วยหนึ่งวางไว้บนถาดแล้วยกไปที่ห้องหนังสือ
ซูซิ่วจะไม่รู้ความคิดของน้องสาวได้อย่างไร แต่จะพูดมากก็ไม่ได้ จึงปรนนิบัติฮูหยินให้ดื่มรังนกอุ่นๆ พานางไปนอน ห่มผ้าห่มเสร็จแล้วก็จุดไม้กฤษณาเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นจึงปูผ้าห่มบนที่พักเท้าข้างเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
หล่งเซียงกับบ่าวหญิงอาวุโสเพิ่งจะถูกลงโทษ พวกนางย่อมต้องระวังตัว ในเมื่อฮูหยินชอบเดินตอนกลางคืน เช่นนั้นก็มาเฝ้าใกล้ชิด จะได้ไม่หลับสนิทจนไม่รู้ตัว
นางนอนลงได้ไม่นาน ซูเหมยก็กลับมาจากห้องหนังสือ นั่งอึดอัดอยู่ในโถง บิดผ้าเช็ดหน้าด้วยความเข่นเขี้ยวอยู่ไม่กี่ที จากนั้นก็เข้าห้องชั้นใน เห็นหลี่รั่วอวี๋หลับแล้วจึงพูดเสียงเบา “ซือหม่าให้พี่ไปหา”
เพราะซูซิ่วสวมเสื้อผ้านอน จึงไม่ต้องตั้งใจเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากรีบลุกขึ้นมา ให้น้องสาวเฝ้าข้างเตียงแล้วก็เดินตรงไปยังห้องหนังสือที่อยู่ไม่ไกลจากห้องนอน
เข้าห้องหนังสือแล้วมองไป รังนกถ้วยนั้นยังวางอยู่บนมุมโต๊ะโดยไม่ถูกแตะ ซือหม่าถอดเสื้อนอกเปลี่ยนเสื้อนอนถือตำราเล่มหนึ่งนอนอยู่บนตั่งนิ่มในห้องหนังสือ ดูท่าแล้วคงจะนอนในห้องหนังสือ
ฉู่จิ้งเฟิงเห็นนางเข้ามาแล้ว ตามองตำรา ปากถามเสียงเอื่อยว่า “ฮูหยินนอนแล้วหรือ”
“เรียนซือหม่า เพิ่งนอนเจ้าค่ะ ก่อนนอนดื่มน้ำขิงไปเล็กน้อย กินรังนกอุ่นๆ ไปอีกหนึ่งถ้วย บ่าวใช้ขี้ผึ้งจันทน์แปดกลีบผสมถั่วดำนวดมือเท้าฮูหยินน้อย นอนเช่นนี้ทั้งคืน คงไม่ถูกไอเย็นจนเป็นไข้”
ฉู่จิ้งเฟิงพยักหน้าแล้วถามอีก “ฮูหยินได้บอกหรือไม่ว่าพรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไร”
ซูซิ่วรู้ว่าเหตุใดซือหม่าจึงถามเช่นนี้ วันนี้อาหารที่ห้องครัวทำเหมือนไม่ถูกปากฮูหยินน้อย ทั้งวันนี้นางกินอาหารสองสามคำเท่าแมวดม ดังนั้นจึงรีบตอบว่า “บ่าวถามก่อนที่ฮูหยินจะนอน ฮูหยินบอกว่าอยากกินแป้งย่างเป็ดเคี่ยว บ่าวถามอย่างละเอียดต่อไปอีก จึงได้รู้ว่าแป้งย่างนั่นที่ตรอกเก่าในเมืองเหลียวเฉิงจึงจะมี… พรุ่งนี้เช้าคงยังไม่ได้กิน แต่พรุ่งนี้ท่านซือหม่าต้องพาฮูหยินกลับบ้านเกิด เตือนบ่าวไพร่ที่ไปด้วยให้ซื้อมาให้ฮูหยิน”
ถึงตอนนี้ฉู่จิ้งเฟิงจึงวางตำราลง กวาดตามองซูซิ่วแวบหนึ่ง “เจ้ากับซูเหมยเป็นพี่น้องกันหรือ แต่เจ้าละเอียดสุขุมกว่านางมาก ต้องคอยชี้แนะนางบ้าง อย่าให้ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นบ่าวที่ไม่ใส่ใจมาอยู่ข้างกายฮูหยินจะมีประโยชน์อะไร”
ถึงตอนนี้ซูซิ่วจึงได้รู้ว่าเหตุใดน้องสาวจึงโมโหกลับมา คิดว่าคงถูกซือหม่าถามจนพูดไม่ออกและโดนตำหนิเข้ากระมัง นางจึงรีบขออภัยแทนน้องสาว แล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป
ก่อนออกมา ซือหม่าชี้ไปที่รังนกถ้วยนั้น “รังนกนี้เป็นของกินสำหรับสตรี คราวหน้าไม่ต้องยกมาอีก เจ้าปรนนิบัติฮูหยินอย่างดี รังนกนี้มอบให้เจ้าเป็นรางวัล แล้วยกชาสามอย่างมาให้ข้าถ้วยหนึ่ง”
ซูซิ่วขอบคุณซือหม่า แล้วยกรังนกกลับไป แต่ตอนนี้เป็นเวลาอยู่เวรดึก นางจะไปตำหนิน้องสาวก็ไม่เหมาะ แต่กลับลอบถอนใจอยู่ภายใน เห็นทีความคิดของนางถูกต้องแล้ว ซือหม่าที่เย็นชาผู้นั้นนอกจากจะอ่อนโยนกับฮูหยินโง่ทึ่มผู้นั้นแล้ว หญิงคนอื่นในสายตาของเขาเป็นเหมือนดอกหญ้าริมทาง ต้องบอกให้น้องสาวเก็บความคิดที่เป็นไปไม่ได้นั้นไว้ดีกว่า