หลี่รั่วอวี๋รู้สึกว่าตนเองเสียเปรียบ ต้องพยายามทวงคืนมาสักนิดก็ยังดี จึงยื่นปลายลิ้นไปเลียบ้างอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ สุดท้ายก็งับริมฝีปากหอมกรุ่นของชายหนุ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พยายามดูดดึงเหมือนลูกสุนัขที่อ้าปากกินอาหาร…
ชายหนุ่มส่งเสียงครางเข้มผ่านลำคอ ร่างแข็งแรงนั้นทาบลงบนร่างนุ่มนั้นทั้งตัว
เพียงชั่วครู่นี้หลี่รั่วอวี๋ก็ตกเป็นรอง รู้สึกเพียงว่าหายใจไม่ทัน จึงผลักชายหนุ่มจะให้เขาลุกขึ้น
กว่าชายหนุ่มจะลุกขึ้นก็ไม่ง่ายนัก แต่คอเสื้อของหลี่รั่วอวี๋พลันถูกกระชากเปิดออก เผยให้เห็นลำคอระหงและเนินอกนูนสูงที่ถูกบังทรงรัดไว้แน่น ผิวขาวเนียนเป็นมัน เครื่องหอมรมควันกลิ่นมะลิที่กระจายออกมาระหว่างเนินอกที่กระเพื่อมช่างยั่วยวนให้คนจมอยู่ในเนินหิมะขาวผืนนี้…
ในยามนี้ความหอมนุ่มตรงหน้าทำให้เขาลืมไปว่านางเป็นคนสมองเสื่อม มีเพียงเสียงเลือดในหลอดเลือดไหลพล่านที่ดังสะท้อนอยู่ในส่วนลึกของหู…
“คน… คนเลว…” เสียงพูดปนสะอื้นนี้ทำลายบรรยากาศประหลาดในห้องนี้ลง หลี่รั่วอวี๋ถูกเขาทำให้ตกใจ พอเห็นในดวงตาของเขาปรากฏสีแดงจางๆ ขึ้นอีกครั้งก็ร้องไห้ออกมาทันที
ฉู่จิ้งเฟิงกลับเข้าสู่ความรังเกียจตนเองที่หิวโซจนไม่เลือกอาหารครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นคนสมองเสื่อมผู้หนึ่ง ความชื่นชอบของเขาฉู่จิ้งเฟิงตกต่ำถึงขั้นไปล่วงเกินหญิงสมองเสื่อมที่เป็นว่าที่ภรรยาผู้อื่นแล้วหรือ
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ตะคอกเสียงเข้ม “หุบปาก!”
แต่น้ำตาของนางใช่บอกว่าหยุดก็หยุดได้ เสียงตะคอกทำลายขวัญศัตรูของซือหม่าต้าฉู่อยู่ต่อหน้าคุณหนูรองสกุลหลี่กลับใช้ไม่ได้ผล
หลังจากตะคอกรุนแรงดุดันแล้ว ก็เห็นน้ำตามารวมตัวกันมากขึ้น ฉู่จิ้งเฟิงที่ถูกเสียงร้องไห้ดังสนั่นทำให้สมองตื้อก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ร้องไห้ ข้าจะให้เจ้าจับไก่ป่าดีหรือไม่”
หลี่รั่วอวี๋ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว เสียงสะอื้นก็ค่อยๆ เบาลง นางคิดสักครู่หนึ่งก็ยื่นมือออกไปช้าๆ เตรียมกลั้นหายใจจะดีดอย่างแรงสักที
ฉู่จิ้งเฟิงกุมข้อมือของนางที่คิดจะทำการอุกอาจแล้วสูดหายใจเข้าลึก หลุบตาลงแล้วพูดว่า “ความหมายของข้า คือไปจับไก่ในป่า…”
คฤหาสน์สกุลหลี่เมืองเหลียวเฉิงในตอนนี้วุ่นวายไปทั่ว
เดิมทีเสิ่นหรูป๋อทำตามอำเภอใจพาตัวคุณหนูรองหลี่ไป ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ไม่พอใจ นางเป็นคนพิถีพิถันเรื่องมารยาทพิธีการ ถึงแม้หลี่รั่วอวี๋ใกล้จะแต่งเข้าสกุลเสิ่นแล้ว แต่การพาตัวหญิงสาวไปเองเช่นนี้นับเป็นประเพณีของที่ใดกัน
ทว่าติดที่หน้าตาชื่อเสียงของลูกเขย นางจึงไม่อาจโวยวายได้ในทันที แต่ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กลับคิดจะไปสกุลเสิ่นพาตัวบุตรสาวคนรองของตนเองกลับมาในวันรุ่งขึ้น