“คุณปุกำลังถึงช่วงไคลแม็กซ์แล้วค่ะ เราก็เข้ามานั่งดูด้วยกันสิตาเทพ พ่อกับแม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจดีนะ ลุคเธอดูเหมาะกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของแฟตบอมบ์ด้วย”
‘แฟตบอมบ์ (Fat Bomb)’ บริษัทเครื่องดื่มทางเลือกชื่อดังแห่งยุค เนื่องจากปัจจุบันกระแสรักสุขภาพในประเทศไทยกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทำให้ฟังก์ชันนัลดริ๊งก์บูมขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ ส่งผลให้แฟตบอมบ์สามารถเข้าควบส่วนแบ่งของตลาดเครื่องดื่มได้มากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ กอบโกยกำไรมหาศาลทุกไตรมาส ผลักให้ตระกูลปกรณ์เกียรติก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเมืองไทย เป็นที่จับตามองของสื่อมวลชนทุกสำนัก แต่กว่าจะมีอย่างวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนายปุริมและ ‘นางปุรี’ สองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งต้องต่อสู้กับมรสุมชีวิตเป็นเวลากว่าหกปี และมีแผนจะส่งมอบอาณาจักรเครื่องดื่มพันล้านให้กับทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลสืบสานต่อในไม่ช้า
“ครับ คุณแม่” เทพบุตรรับคำอย่างว่าง่าย แม้ว่าในใจเจ้าตัวอยากจะกลับห้องนอนตนมากกว่าก็ตาม แต่โดยนิสัยปกติแล้ว หากพูดถึงเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเวลาไหนรองประธานบริษัทอย่างเขาไม่เคยปฏิเสธในการร่วมปรึกษาหารือเลยสักครั้ง
คนปวดแปลบที่บริเวณหัวเข่าข้างขวากัดฟันเดินเป็นปกติเข้ามาจับจองที่นั่งบนโซฟาหลุยส์สีทองอร่าม โดยหารู้ตัวไม่ว่าคนเป็นพ่อกับแม่ต่างสะดุดตากับเศษหญ้าแห้งและรอยดำเป็นปื้นบนหลังเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเอง
ทว่าปุริมกับปุรีก็เลือกที่จะเงียบไม่ถามอะไรลูกชายทั้งนั้น พวกเขาทำเพียงสบสายตากันและกันแวบหนึ่ง ก่อนจะนึกย้อนไปถึงคำพูดของเมดในคฤหาสน์เมื่อตอนเย็นแล้วพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวกันได้
ปุรีตัดสินใจลุกจากสามีแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆ บุตรชายพร้อมกับใช้แขนโอบรอบหัวไหล่อวบอ้วนเอาไว้ มือของผู้เป็นมารดาลูบและโน้มศีรษะลูกชายให้มาซบอิงกับศีรษะของตน เพื่อสื่อให้คนอ่อนแอรับรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่บนโลกเพียงลำพัง แต่ยังมีแม่อยู่เคียงข้างเสมอ
“แม่กับพ่อรักเทพนะลูก”
เทพบุตรเกิดอาการงวยงงเล็กน้อย แต่พอจะเดาได้ว่าบิดากับมารดาน่าจะรู้เรื่องทั้งหมดจากเมดในคฤหาสน์ตั้งแต่เย็นแล้ว เขาพยักหน้ารับทราบพร้อมกับเข้าสวมกอดรับไออุ่นจากมารดา พลันนั้นน้ำตาคนสำนึกผิดมันทำท่าจะไหลออกมาเสียให้ได้ ดีหน่อยที่เขาฮึบมันเอาไว้ทัน
“ผมก็รักแม่กับพ่อครับ”
ปุรีส่งยิ้มให้กับสามีที่นั่งคอยให้กำลังใจบุตรชายอยู่ห่างๆ สมาชิกครอบครัวปกรณ์เกียรติกลับมามีรอยยิ้มกันอีกครั้ง ก่อนคนเป็นแม่จะถอนอ้อมกอดออกเปลี่ยนมาใช้แขนโอบบ่าอวบเอาไว้ พลางตบหัวไหล่ลูกเบาๆ สองสามทีแล้วพูดติดตลก
“แม่ว่านะ หนูคนนั้นแจ่มกว่าแฟนเก่าเราตั้งเยอะ” พูดจบเจ้าตัวก็หันไปถามความเห็นสามีด้วยใบหน้ารู้กันเป็นนัย “ว่าไหมคะคุณปุ”
“อืม” คนมีมาดทำเพียงครางในลำคอตอบรับคำภรรยาเท่านั้น ขณะที่ยังจับจ้องหน้าจอทีวีอยู่ไม่วางตา
“คุณพ่อคุณแม่ครับ”
เทพบุตรขมวดคิ้วมุ่นกับมุกรับส่งของบิดาและมารดาเล็กน้อย ก่อนจะหันมองตามสายตาท่านไปทางจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายให้เขาเห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่ง
โห…
เสียงรำพึงในใจครั้งแรกยามเทพบุตรได้เห็นหญิงสาวในจอทีวี มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เจ้าตัวเพิ่งเคยได้สัมผัสจนมิอาจนิยามเป็นคำพูดใดๆ ออกมาได้ เนื้อกายหนุ่มเริ่มร้อนวูบวาบ แถมหัวใจยังเพิ่มอัตราการเต้นถี่รัวอย่างน่าประหลาด ผิดจากตอนเจอเรียวหนามครั้งแรกที่เขามองว่าหล่อนหน้าตาสวยและมีมารยาทดีเพียงเท่านั้น
เทพบุตรจับจ้องโครงหน้างดงามแสนหวาน ทว่าดูไปดูมาชักคล้ายกับตุ๊กตาสาวญี่ปุ่น เขาเลื่อนไหลโฟกัสมายังสรีระทรงนาฬิกาทรายที่เห็นแล้วให้ความรู้สึกแข็งแรงมากกว่าความอ้อนแอ้น หุ่นทรงของเธอมันดึงดูดให้เขามิอาจละสายตาจากไปทางไหนได้เลย คนช้ำในรักเหมือนต้องมนตร์สะกดให้เผลอลืมความรู้สึกทุกอย่างไปในชั่วขณะ และในจังหวะที่กล้องแพลนให้เห็นหน้ากรรมการตัดสินงานประกวดแต่ละท่าน ชายหนุ่มจึงรีบเลื่อนสายตาลงมาอ่านชื่อและนามสกุลของผู้ชนะเลิศในการแข่งขันเสียงแผ่ว พอย้ำกับตัวเองให้จำได้
“นางสาวภาพฟ้า ลานดอกไม้”
(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 24 ต.ค. 62)