ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 149-150
เวลาเดียวกันนี้หลินเซ่าถังได้ไปยังที่พักของจีเหยียน เขาก้าวเข้าห้องด้านข้าง มองเห็นจีเสวียนเค่อก็ถามว่า “เหตุใดเมื่อวานท่านไม่ไปจวนอู่เสียนอ๋อง”
“ไปแล้ว มีธุระจึงออกมาก่อน”
เมื่อวานจีเสวียนเค่อไปแล้วจริงๆ ยืนอยู่ในมุมหนึ่งโดยตลอด มองดูกู้เจี้ยนหลีปรากฏตัวโดยมีผู้คนตามสรรเสริญเยินยอ มองเห็นนางกับจีอู๋จิ้งหลบไปกินก๋วยเตี๋ยวกันในศาลารับลมเช่นกัน
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากงานมาก่อนโดยไม่รอให้มือสังหารเริ่มเคลื่อนไหว
หลินเซ่าถังเดินกลับไปกลับมาในห้องครู่หนึ่งถึงค่อยเอ่ยปากอย่างติดจะร้อนใจ “เหตุใดองค์ชายรองยังไม่เสด็จมาเสียที”
จีเสวียนเค่อเก็บหยกประดับในมือ มองอีกฝ่ายก่อนกล่าวว่า “ไม่ต้องร้อนใจปานนี้”
“ข้าจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร” หลินเซ่าถังยิ้มขื่น “นางติดอยู่ในวัง ต้องแสร้งโง่เอาตัวรอดไปวันๆ ข้าอยากจะรับนางออกจากวังมาเดี๋ยวนี้ใจจะขาด นับตั้งแต่นางเข้าวัง เวลาหนึ่งวันราวกับผ่านไปหนึ่งปีเลยทีเดียว”
จีเสวียนเค่อเงียบไปชั่วขณะก่อนจะเกลี้ยกล่อม “เรื่องที่พวกเราเตรียมการวางแผนไว้ในยามนี้แค่ไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็จะมีผลลัพธ์ที่ไม่มีวันกู้คืนได้ แม้ในใจจะร้อนรุ่มเพียงใดก็พึงกระทำการอย่างรอบคอบ”
แววตาหลินเซ่าถังหม่นแสงลงชั่วพริบตา ถอนหายใจเบาๆ อีกคำรบแล้วกล่าวว่า “ท่านไม่รู้อะไร เมื่อวานตอนที่มองดูมือสังหารพุ่งออกไปลอบสังหารจีหลัน ข้าหวังเหลือเกินว่ากระบี่เหล่านั้นจะแทงเข้าที่อกเขาจนเป็นรูได้จริงๆ! ต่อให้รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เสี้ยวเวลานั้นในใจกลับยังมีความหวัง ข้ามองดูเฉินเหอจัดการพวกที่มาลอบสังหารออกไปได้ง่ายๆ ในยามนั้นข้าถึงขั้นหวังว่าจีเจาจะพลันปรากฏตัวแล้วบั่นหัวจีหลันได้เสียด้วยซ้ำ!”
“แผนการของพวกเรามิใช่ลอบสังหารเขา หน่วยกล้าตายเหล่านั้นตะโกนเรื่องเหล่านั้นออกมาก็รบกวนจิตใจของจีหลันแล้ว จุดประสงค์นับว่าบรรลุแล้ว คุณชายหลินไม่ต้องเสียดายไป”
หลินเซ่าถังมีหรือจะไม่รู้เหตุผลนี้
ในแผนการที่จีเสวียนเค่อเสนอต่อจีเหยียน พวกเขาหาได้ต้องการลอบสังหารจีหลันจริงๆ การจะสังหารอีกฝ่ายในงานเช่นนั้นลำบากมากจริงๆ คนที่เลือกมาล้วนเป็นหน่วยกล้าตาย ขอเพียงตะโกนเรื่องเหล่านั้นออกมาต่อหน้าธารกำนัลก็ถือว่าปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว
จีเสวียนเค่อลอบบอกใบ้จีหลันถึงการลอบสังหารครั้งนี้ล่วงหน้าอย่างคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ ทำให้จีหลันเกิดความระแวดระวัง ซึ่งเขาก็หลงกลตามคาด เดิมทีจีหลันก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ขี้ระแวง มิหนำซ้ำเขาครองบัลลังก์มาเกือบหนึ่งปีจวบจนบัดนี้ยังจับกุมตัวจีเหยียนไม่ได้ จึงร้อนใจมานานแล้ว พอเขาได้ข่าวจึงยังคงเสี่ยงมาร่วมงานดูและคิดจะใช้แผนซ้อนแผน เตรียมองครักษ์ไว้เต็มกำลัง อาศัยการลอบสังหารครานี้จับตัวขุนนางกบฏในราชสำนักออกมา ส่วนโจรกบฏที่ถูกเขาจับตัวออกมาเหล่านั้นก็คือขุนนางที่เขาระแวงมานาน กริ่งเกรงสงสัย แต่กลับไม่แน่ใจว่าคิดคดทรยศหรือไม่ และยิ่งหาความผิดมาลงโทษอย่างเปิดเผยเป็นธรรมไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดว่าตนเองใช้แผนซ้อนแผน ใช้ประโยชน์จากการลอบสังหารครานี้สั่งการให้สำนักประจิมทรมานมือสังหารที่ทำการจับเป็นเพื่อบังคับให้ซัดทอดถึงผู้ที่เขาต้องการ แน่นอนว่ามือสังหารไม่มีทางเชื่อฟัง จีหลันจึงได้เตรียมหนังสือสารภาพของปลอมไว้เผื่อ
รายชื่อโจรกบฏยาวเหยียด ราชสำนักแทบจะเปลี่ยนถ่ายเลือดครั้งใหญ่
จีหลันนึกว่าตนเองฉลาดสามารถชนะในหมากกระดานนี้ได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่าแต่ละก้าวที่ตนเองเดินในยามนี้ล้วนอยู่ในแผนการของจีเสวียนเค่อ
งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของกู้จิ้งหยวนไม่เพียงเต็มไปด้วยผู้ทรงอำนาจในเมืองหลวง แม้แต่ชินอ๋องและขุนนางบรรดาศักดิ์สูงที่เข้ามาถวายพระพรปีใหม่ยังเมืองหลวงก็อยู่ด้วย
จีเสวียนเค่อสั่งให้หน่วยกล้าตายตะโกนป่าวประกาศถึงพฤติกรรมชั่วช้าของจีหลันที่ได้กระทำปิตุฆาตสังหารพี่น้องเพื่อชิงบัลลังก์ อีกทั้งบอกความจริงที่ว่าอดีตผู้สืบราชบัลลังก์อย่างจีเหยียนยังมีชีวิตอยู่
นี่เป็นเพียงก้าวแรก พูดอีกอย่างคือเป็นเพียงชนวนที่สามารถลุกลามเป็นเพลิงกองใหญ่ได้ในภายหลัง
จุดสำคัญของแผนการอยู่ที่รายชื่อโจรกบฏฉบับนั้น
จีหลันมีนิสัยขี้ระแวง ขุนนางใหญ่สองสามคนที่จีเสวียนเค่อกับจีเหยียนจัดวางไว้ในราชสำนักใช้เวลาครึ่งปีอาศัยประโยชน์จากความขี้ระแวงของจีหลันทำให้เขาสงสัยว่าขุนนางใหญ่ที่จงรักภักดีต่อเขาจำนวนหนึ่งเป็นพรรคพวกของจีเหยียน
ในรายชื่อโจรกบฏที่จีหลันเขียนเองกับมือนี้กว่าค่อนล้วนเป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อเขา เป็นเขาสังหารคนฝ่ายตนเองทิ้งกับมือ และเมื่อจีหลันจัดการกับ ‘โจรกบฏ’ ชุดนี้เสร็จ ในราชสำนักย่อมจะเปลี่ยนถ่ายเลือดครั้งใหญ่ ขุนนางใหม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเป็นเช่นนี้จีเหยียนจะสามารถใช้ประโยชน์จากขุนนางที่ซุ่มซ่อนอยู่ในราชสำนักเสนอขุนนางที่เป็นคนของจีเหยียนได้
จีหลันที่เกิดจากนางกำนัลวางแผนรัดกุมเพียงใดก็สู้แรงสนับสนุนจากอำนาจที่ตระกูลฝ่ายมารดาจีเหยียนสั่งสมมาหลายปีไม่ได้
เป็นครู่ใหญ่หลินเซ่าถังก็เอ่ยปากอย่างทดท้อ “ข้ารู้ถึงความยากลำบากของการผลัดเปลี่ยนราชบัลลังก์ แต่ละก้าวล้วนต้องเดินอย่างรอบคอบระมัดระวัง ไม่อาจเหลืออะไรที่จะกลายเป็นภัยในภายหลังไว้ได้ แต่ข้าไม่เหมือนท่าน ท่านขอพึ่งพิงและช่วยเหลือเจ้านายผู้ปราดเปรื่องเพื่อปณิธาน เพื่ออนาคตอันรุ่งเรืองทรงเกียรติ ในขณะที่ข้าเพียงอยากรับนางกลับบ้าน ถึงแม้ว่าชีวิตที่เหลือจะต้องปกปิดชื่อแซ่ไถนาจับปลาเลี้ยงชีพ ตัดขาดจากชีวิตสุขสบายทั้งปวงในอดีตก็ตามที”
จีเสวียนเค่อนิ่งเงียบ
เพื่อปณิธาน เพื่ออนาคตอันรุ่งเรืองทรงเกียรติหรือ
เขากอดอก พลิกหยกประดับชิ้นนั้นไปมาระหว่างนิ้ว
อันที่จริงจีเสวียนเค่ออิจฉาหลินเซ่าถังอย่างยิ่ง แม้จะมีขุนเขาสายน้ำนับพันนับหมื่นชั้นกั้นกลางระหว่างหลินเซ่าถังกับซุนอิ่นจู๋ แต่นางรอเขาอยู่ หัวใจของพวกเขาเชื่อมอยู่ด้วยกัน
(ติดตามต่อได้ในรูปแบบฉบับเต็มได้ในเดือนธันวาคม 2568)
Comments



