เจียงชิงหว่านมองพวกนางสองคน รูปโฉมนับว่างามหมดจด ท่าทางก็ดูมีไหวพริบปฏิภาณ แต่ที่สุดแล้วก็เป็นคนที่เมิ่งอี๋เหนียงส่งมาให้ ซ้ำยังมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาวใช้ประจำตัว อย่างไรก็ต้องสังเกตดูสักพักก่อนว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ นางจึงบอกให้พวกนางทั้งสองออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนเปลี่ยนไปเรียกให้จิ่นผิงเข้ามาปรนนิบัติ
จิ่นผิงอาจจะไม่ได้มีไหวพริบเท่าไฉ่อวิ๋นไฉ่สยา แต่ก็เป็นคนที่พามาเอง รู้พื้นเพเดิม ใช้งานได้อย่างวางใจ
เที่ยงวันนี้อยู่ระหว่างเดินทางจึงไม่ได้กินอาหารอย่างเต็มที่ ยามนี้เหยาซื่อกับเจียงชิงหว่านรู้สึกหิวแล้วจริงๆ
เจียงชิงหว่านกินขนมถั่วแขกม้วนไปหนึ่งชิ้นกับขนมถั่วเขียวอีกสองชิ้นถึงค่อยรู้สึกอิ่ม จากนั้นก็ดื่มชาพลางคุยกับเหยาซื่อ
เหยาซื่อพูดกับเจียงชิงหว่านว่า “พวกเราไปดูเรือนของเจ้ากันตอนนี้เลย”
คนเป็นมารดาอย่างไรก็อยากเห็นที่พักของบุตรสาวด้วยตาตนเองถึงจะสบายใจได้
เจียงชิงหว่านกลับไม่มีท่าทางรีบร้อน เพียงยิ้มพลางโบกมือ “ไม่ต้องรีบไปดูหรอกเจ้าค่ะ ไว้ค่อยว่ากันก็ได้”
เหยาซื่อมีความรู้สึกชนิดหนึ่งอยู่ตลอดว่าหลังจากบุตรสาวผู้นี้ของนางฟื้นจากล้มป่วยในครั้งนั้น นิสัยก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบขึ้น ทั้งยังมีความคิดของตนเอง ไม่ได้ซุกซนเอาแต่ใจเหมือนที่แล้วมา
แต่เหยาซื่อก็มิได้คิดมาก รู้สึกว่าเป็นเช่นนี้ดียิ่ง จะอย่างไรเจียงชิงหว่านในอดีตก็ไม่ชวนให้คนชื่นชอบจริงๆ ทว่าตอนนี้สามารถมองออกได้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจียงชอบนางมาก ตลอดทางมานี้มีบางครั้งยังเป็นฝ่ายเรียกเจียงชิงหว่านไปนั่งรถม้าของนางเพื่อคุยเป็นเพื่อนแก้เบื่อ ซ้ำยังสอนหนังสือให้เจียงชิงหว่านด้วยตนเองอีกด้วย
ในเมื่อตอนนี้เจียงชิงหว่านพูดเยี่ยงนี้แล้ว เหยาซื่อก็ไม่ได้ถามอีก สองแม่ลูกคุยสัพเพเหระกันครู่หนึ่ง จากนั้นก็ต่างเอนตัวพักผ่อนบนเตียงเตา เนื่องด้วยเหนื่อยอย่างที่สุด ไม่นานก็หลับไป
กว่าจิ่นผิงจะมาปลุกพวกนางก็เป็นกลางยามเซินแล้ว
มองออกได้ว่าจิ่นผิงอาบน้ำแต่งตัวมาใหม่ ร่องรอยเหงื่อไคลจากการเดินทางหายไปแล้ว เปลี่ยนมาสวมเสื้อกั๊กกุ๊นขอบผ้าต่วนสีคราม หน้าตายิ้มแย้มดูกระปรี้กระเปร่ายิ่ง
“นายหญิง คุณหนู บ่าวให้คนต้มน้ำอาบและยกเข้าไปในห้องกั้นแล้ว รออาบน้ำเสร็จพวกเราก็ไปกินอาหารเย็นที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าได้แล้วเจ้าค่ะ”
เร่งเดินทางมาเดือนกว่า อย่างไรก็ต้องอาบน้ำให้เต็มที่สักรอบถึงจะรู้สึกสบายตัว มิหนำซ้ำนี่ก็เป็นการบอกลาสิ่งเก่าต้อนรับสิ่งใหม่
เหยาซื่อกับเจียงชิงหว่านจึงลุกขึ้นจากเตียงเตาแล้วเข้าไปอาบน้ำโดยที่ด้านข้างมีสาวใช้คอยปรนนิบัติ เหยาซื่อดูเหมือนจะไม่คุ้นชินกับเรื่องเช่นนี้ แม้จะมีฉากบังลมกั้นอยู่ก็ยังได้ยินเสียงที่เจือแววเก้อเขินขณะนางพูดได้
ครั้นอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย จิ่นผิงก็นำเสื้อผ้ามาให้
แม้ว่าจะนำเสื้อผ้าติดตัวมาจากกานโจวด้วยจำนวนหนึ่ง แต่เนื้อผ้าล้วนธรรมดายิ่ง ถึงขนาดว่าเทียบกับเสื้อผ้าที่หัวหน้าสาวใช้ในจวนนี้สวมไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมจะต้องเปลี่ยนใหม่
กว่าคนทั้งสองจะแต่งตัวประทินโฉมเสร็จก็ใกล้จะยามโหย่วแล้ว จึงพาสาวใช้เดินไปเรือนซงเฮ่อ
เจียงชิงเซวียนและซุนอี๋เหนียงมาถึงแล้ว ตอนนี้กำลังสนทนาเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่าเจียง
พอเหยาซื่อและเจียงชิงหว่านเข้ามา คนในห้องต่างหันหน้ามามอง แล้วก็รู้สึกว่าตรงหน้าสว่างวาบในพริบตา
คำกล่าวที่ว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งนั้นหาได้ผิดไม่ ตอนเห็นเหยาซื่อก่อนหน้านี้ มองออกได้ว่าแม้นางจะตั้งใจแต่งตัวมาอย่างดี แต่ที่สุดแล้วเสื้อผ้าบนร่างก็มีคุณภาพไม่ดี บนศีรษะก็ไม่มีเครื่องประดับล้ำค่าราคาแพงใดๆ จึงดูค่อนข้างซอมซ่อ