วันต่อมาจี้ชิงอิ่งนัดพบกับผู้กำกับภาพยนตร์
‘Longevity’ เป็นภาพยนตร์ยุคสาธารณรัฐเรื่องหนึ่ง พล็อตไม่นับว่าแปลกใหม่ ทว่าเนื้อเรื่องไม่เลวเลยทีเดียว
เพื่อแสดงความจริงใจผู้กำกับถึงขั้นให้เธออ่านบทละครส่วนหนึ่งก่อน พูดตามความจริงจี้ชิงอิ่งรู้สึกใจเต้นเล็กน้อย ทว่าการใจเต้นประเภทนี้ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอรับงานที่เปลืองแรงงานนี้
ความจริงใจของผู้กำกับเต็มเปี่ยมและไม่ได้เอ่ยว่าเธอจะต้องรับงานเช่นกัน เพียงเชิญเธอมาพูดคุยแล้วถือโอกาสดูสถานที่ถ่ายทำของพวกเขาเท่านั้น
เมื่อจี้ชิงอิ่งเดินทางมาถึงสถานที่ที่นัดไว้ ผู้กำกับกวนและนักเขียนบทก็มาถึงแล้ว
ผู้กำกับกวนอมยิ้มมองเธอ “อาจารย์จี้”
จี้ชิงอิ่งยิ้มพลางมองทั้งสองคนตรงหน้า “ผู้กำกับกวน เรียกฉันว่าชิงอิ่งก็พอค่ะ คำว่าอาจารย์ไม่กล้ารับไว้”
ผู้กำกับกวนพยักหน้าแล้วเอ่ยถาม “คิดว่าที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ”
สถานที่ที่ผู้กำกับกวนจองไว้เป็นเมืองจำลองสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ที่พวกเขาเลือกมาเป็นฉากในการถ่ายทำ มีรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคสาธารณรัฐอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือสภาพแวดล้อมโดยรอบล้วนทำให้ผู้คนเกิดภาพลวงตาที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในยุคสมัยนั้นได้
จี้ชิงอิ่งสัมผัสบรรยากาศของที่นี่อย่างเลื่อนลอยโดยไม่ได้พูดอะไร
ผู้กำกับกวนชำเลืองตามองเธอ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์จี้ คุณเคยคิดที่จะให้นักแสดงสวมชุดที่คุณออกแบบเดินมาตรงหน้าผู้ชม ให้ทุกคนรู้จักคุณ รู้จักกี่เพ้าที่คุณออกแบบไหมครับ” เขาหยุดลงชั่วขณะ ค่อยๆ ชี้นำอย่างเป็นระบบ “กี่เพ้าไม่เป็นที่นิยมมานานแล้ว หรือว่าอาจารย์จี้ไม่อยากให้วัฒนธรรมเครื่องแต่งกายที่ค่อยๆ ถูกทุกคนลืมเลือนนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเหรอครับ”
อยาก ทำไมจะไม่อยากล่ะ
จี้ชิงอิ่งก็เป็นสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่งเช่นกัน เธอชื่นชอบกี่เพ้า เป็นเพราะได้ยินได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก และเพราะปัจจัยอื่นๆ อีกต่างๆ นานา เธอรู้สึกมาตลอดว่ากี่เพ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าเสื้อผ้าแฟชั่นอื่นๆ ตรงไหนเลย มันมีความงามที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเอง
แม้เธอจะไม่ได้คิดว่าตัวเองมีความสามารถมากมายถึงขนาดทำให้วัฒนธรรมการแต่งชุดกี่เพ้าที่ถูกทุกคนค่อยๆ ลืมเลือนกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งได้ แต่ไม่พูดไม่ได้เลยว่าเธออยากจะนำกี่เพ้ากลับมาสู่สายตาของทุกคนใหม่อีกครั้งจริงๆ
ไม่ว่าเรตติ้งจะเป็นอย่างไร เธอก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าแท้จริงแล้วกี่เพ้านั้นสวยงามเพียงใด
ขณะกำลังคิดจี้ชิงอิ่งก็ยิ้มอย่างจนปัญญาและกล่าวว่า “ผู้กำกับกวนเคยเรียนจิตวิทยาใช่ไหมคะ”
ได้ยินคำพูดนี้ของเธอผู้กำกับกวนก็ยิ้มอย่างเบิกบาน “จับใจอาจารย์จี้ได้ก็พอครับ” เขากล่าว “ผมหาข้อมูลของนักออกแบบมามากมาย คุณพิเศษที่สุด”
จี้ชิงอิ่งครุ่นคิดอยู่สองสามวินาทีก่อนช้อนตาขึ้นมองเขา “โอเคค่ะ” เธอพูดอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา “จริงๆ แล้วฉันก็อยากโปรโมตให้กี่เพ้าแพร่หลาย ให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น”
ผู้กำกับกวนพยักหน้า “คุณลองทำดูได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
การเซ็นสัญญาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้กำกับกวนเตรียมมาพร้อมสรรพ หลังจากจี้ชิงอิ่งตอบรับก็มีผู้ช่วยส่งสัญญามาให้เลย สัญญาไม่มีปัญหาใดๆ ปัญหาบางส่วนที่จี้ชิงอิ่งกังวลก่อนหน้านี้ก็มีการรับประกันทั้งหมด
เธอเชื่อมั่นในตัวผู้กำกับตรงหน้าคนนี้ และเชื่อมั่นในตัวเองด้วยเช่นกัน
หลังจากเซ็นสัญญาแล้วจี้ชิงอิ่งก็พูดคุยกับผู้กำกับกวนเกี่ยวกับข้อกำหนดเครื่องแต่งกายของตัวละครในภาพยนตร์ ผู้กำกับกวนบอกผลลัพธ์ที่ต้องการให้ปรากฏออกมาต่อเธอทีละอย่างๆ เธอเองก็มีความเข้าใจของตัวเองเช่นกัน
รอเมื่อพวกเขาพูดคุยกันเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว
พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก แสงตะวันและก้อนเมฆงดงามเป็นพิเศษ
จี้ชิงอิ่งปฏิเสธที่จะให้ผู้กำกับกวนไปส่ง เธอเรียกแท็กซี่ออกไปเอง
“คุณผู้หญิง จะไปไหนครับ”
คนขับรถหันหน้ามามองเธอด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่ง สายตาหยุดอยู่บนเสื้อผ้าของเธอ
จี้ชิงอิ่งพบเห็นบ่อยจนชินตาและไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเป็นพิเศษ
เธอยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ไปโรงพยาบาลเป่ยเฉิงหนึ่งค่ะ”
คนขับรถตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบตอบรับ “ครับผม”
ภายในรถเงียบเชียบ คนขับรถคงรู้สึกเบื่อหน่ายจึงพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเธอ
“ไปเยี่ยมเพื่อนเหรอครับ”
จี้ชิงอิ่งเอ่ยอย่างราบเรียบ “ไม่ใช่ค่ะ”
คนขับรถเหลือบมองเธอ ยังอยากจะพูดอะไรอีกหน่อยจี้ชิงอิ่งก็หลุบตาลงไปมองโทรศัพท์เสียแล้ว
เฉินซินอวี่ส่งข้อความมาเป็นจำนวนมากในช่วงบ่าย เมื่อตอบกลับไปแล้วจี้ชิงอิ่งถึงค่อยหันหน้าไปด้านข้าง เหม่อมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง