ทดลองอ่าน สาวกี่เพ้าคนนี้เป็นของคุณ บทที่ 5-7 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

With Love

ทดลองอ่าน สาวกี่เพ้าคนนี้เป็นของคุณ บทที่ 5-7

จี้ชิงอิ่งรออยู่สองสามนาที ฟู่เหยียนจื้อก็กลับมาพร้อมกับสองมือที่ว่างเปล่า

ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ฟู่เหยียนจื้อก็เอ่ยถาม “อยู่ตึกไหนครับ”

จี้ชิงอิ่งตอบ “ตึกห้าค่ะ” เธอมองท่าทางก้มตัวลงของชายหนุ่มแล้วกล่าวเสียงเบาว่า “หนักนิดหน่อยนะคะ”

“อืม” ฟู่เหยียนจื้อตอบรับด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ทั้งสองคนเดินไปที่ตึกห้า คนหนึ่งนำอยู่ข้างหน้า คนหนึ่งอยู่ข้างหลัง ลมเย็นพัดโชยเบาๆ ในหมู่บ้านไม่ได้เงียบสงัดเป็นพิเศษ

ขณะเดินอยู่ภายในสวนยังได้ยินเสียงดุเด็กๆ ของลูกบ้านที่ไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามดังลอยมาเป็นครั้งคราว และยังมีคำโฆษณาที่ถ่ายทอดมาจากโทรทัศน์

เสียงต่างๆ ผสมปนอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่ามันดังเอ็ดตะโร ทว่ากลับทำให้คนรู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งชีวิต

ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงตึกห้า

จี้ชิงอิ่งเดินไปกดหมายเลขชั้น เธออยู่ชั้นยี่สิบห้า

เธอไม่ได้สังเกตเห็นว่าขณะที่ตัวเองกดหมายเลขชั้น ในดวงตาของฟู่เหยียนจื้อฉายความประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง

ภายในลิฟต์มีเพียงพวกเขาสองคน เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ

จี้ชิงอิ่งชำเลืองตามองเขา “คุณเพิ่งเลิกงานเหรอคะ”

“อืม”

จี้ชิงอิ่งพยักหน้า ยิ้มอย่างเข้าใจ “วันนี้ยุ่งไหมคะ”

“ก็พอได้ครับ” ฟู่เหยียนจื้อมองเธอ “ย้ายมาเมื่อไหร่ครับ”

“วันนี้ค่ะ”

จี้ชิงอิ่งชำเลืองตามองเขาอีกครั้ง “คุณอยู่ตึกไหนคะ”

ฟู่เหยียนจื้อไม่ได้พูดอะไร

จี้ชิงอิ่งก็ไม่ได้รู้สึกท้อใจ เธอจ้องหมายเลขชั้นของลิฟต์เขม็งพลางกล่าวว่า “ฟู่เหยียนจื้อ พวกเรามีวาสนาต่อกันมากทีเดียว”

“…”

ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเดินออกไปพร้อมกัน

จี้ชิงอิ่งกดรหัสผ่านเปิดประตูแล้วหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่ม “วางไว้ที่หน้าประตูก็พอค่ะ”

เธอเงียบไปสองสามวินาที รอหลังจากฟู่เหยียนจื้อวางกล่องลงเรียบร้อยแล้วถึงถามว่า “อีกเดี๋ยวคุณมีธุระด่วนไหมคะ”

ฟู่เหยียนจื้อยังไม่ทันพูดเธอก็เอ่ยอีกว่า “ฉันยังมีกล่องอีกใบที่หนักกว่าอยู่ที่ห้องรักษาความปลอดภัย”

“…”

เธอกะพริบตามองเขา “ช่วยฉันขนอีกครั้งได้ไหมคะ”

ฟู่เหยียนจื้อส่งเสียง “อืม” ออกมาหนึ่งคำ

จี้ชิงอิ่งดวงตาเป็นประกาย กล่าวอย่างเบิกบาน “ฉันจะลงไปกับคุณ”

“ไม่ต้องครับ” ฟู่เหยียนจื้อปฏิเสธอย่างเย็นชา

ได้ยินดังนั้นจี้ชิงอิ่งก็กลอกตา แต่ก็ไม่ได้ฝืนใจเช่นกัน

“งั้นก็ได้ค่ะ รบกวนหมอฟู่แล้ว”

ฟู่เหยียนจื้อเห็นความเจ้าเล่ห์ในแววตาของเธอจึงตอบรับไปหนึ่งเสียงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

รอหลังจากที่ขนพัสดุของเธอขึ้นมาอีกครั้งเขาก็กล่าวอย่างราบเรียบหนึ่งประโยค “สามารถส่งพัสดุมาที่ล็อบบี้ชั้นล่างตึกได้นะครับ”

จี้ชิงอิ่งพยักหน้า “ตอนที่ผู้ช่วยส่งมาลืมเขียนหมายเลขตึกค่ะ”

หากไม่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ถึงกับต้องวางไว้ที่ห้องรักษาความปลอดภัยที่ไกลขนาดนั้น

แต่จี้ชิงอิ่งไม่คิดจะตำหนิซย่าหรงเสวี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดพลาดนี้ของผู้ช่วยตัวน้อย เธอก็ไม่มีโอกาสในตอนนี้เช่นกัน

ได้ยินดังนั้นฟู่เหยียนจื้อก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

จี้ชิงอิ่งช้อนตาขึ้นมองเขา “ลำบากหมอฟู่แล้ว”

ไม่รอให้ชายหนุ่มพูดอะไรต่อ เธอก็เลียริมฝีปากล่างแล้วถามว่า “คุณกินข้าวหรือยังคะ”

ฟู่เหยียนจื้อกำลังคิดจะบอกว่า ‘กินแล้ว’ จี้ชิงอิ่งก็ถือโทรศัพท์พลางเอ่ยขึ้น

“ฉันเพิ่งย้ายมา ไม่รู้ว่าแถวนี้อาหารดีลิเวอรี่ร้านไหนอร่อย” เธอมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย “หรือไม่หมอฟู่แนะนำหน่อยได้ไหมคะ”

ฟู่เหยียนจื้อเงียบไปครู่ใหญ่ สายตาพินิจพิเคราะห์จับจ้องอยู่ที่ตัวเธอ

จี้ชิงอิ่งไม่ได้หวาดกลัวเช่นกัน สบตากับเขาทั้งแบบนี้

เธอมีดวงตาที่งดงามมากคู่หนึ่ง เมื่อมองเผินๆ จะรู้สึกเพียงว่ามันโตมากและใสแจ๋ว ทว่าพอสังเกตอย่างละเอียดจะพบว่านั่นเป็นดวงตาสุนัขจิ้งจอกคู่หนึ่งที่ดูยั่วยวนเป็นพิเศษ

ไม่กี่วินาทีให้หลังฟู่เหยียนจื้อก็รับโทรศัพท์ของเธอมา เขาเหลือบมองร้านอาหารดีลิเวอรี่เหล่านั้นและกล่าวเสียงเรียบ

“อาหารดีลิเวอรี่ไม่ดีต่อสุขภาพครับ”

จี้ชิงอิ่ง “อืม”

แม้จะพูดแบบนี้ ทว่าที่ควรสั่งก็ยังคงต้องสั่งอยู่ดี

“…”

ฟู่เหยียนจื้อเลื่อนดูอยู่ครู่หนึ่ง ขณะกำลังจะพูดโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เขามองโทรศัพท์แล้วขมวดคิ้วก่อนจะกดรับสาย

“ฮัลโหล”

“พี่ พี่ไม่ได้บอกว่าจะถึงบ้านแล้วเหรอ ทำไมฉันกดกริ่งอยู่ตั้งนานพี่ก็ไม่เปิดประตูล่ะ”

ฟู่เหยียนจื้อ “…”

เขาเอียงตัวไปด้านข้าง มองไปยังบ้านฝั่งตรงข้ามผ่านประตูใหญ่ที่เปิดอ้าอยู่ ตรงนั้นมีคนถือโทรศัพท์หันหลังให้เขา ขณะที่พูดอยู่ยังยกเท้าขึ้นมาเตะประตูอีกด้วย

ฟู่เหยียนจื้อหนังตากระตุก ยังไม่ทันได้พูดอะไร จี้ชิงอิ่งก็มองไปก่อนแล้ว

ไม่กี่วินาทีต่อมาข้างหูเขาก็มีเสียงที่กระตือรือร้นของผู้หญิงดังขึ้น

“ฟู่เหยียนจื้อ เมื่อกี้ฉันมีคำพูดหนึ่งที่พูดผิดไป ฉันคิดว่าพวกเราไม่ใช่มีวาสนาต่อกันมากทีเดียว…” เธอกล่าวอย่างเนิบช้า “พวกเรามีวาสนาต่อกันมากเหลือเกินค่ะ”

ตอนที่เธอพูดยังจงใจเน้นคำว่า ‘มากเหลือเกิน’ สามคำนี้

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in With Love

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 1.1-1.2

บทที่ 1.1 การกลับมาของคุณหนู รัชศกเจี้ยนซิงปีที่ยี่สิบ พ้นวันที่สิบห้ากลิ่นอายวันปีใหม่ก็จางหายไปแล้ว แต่ละเรือนแต่ละครอ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

community.jamsai.com