สภาพห้องอาหารสำหรับพนักงานในวันนี้เนืองแน่นไปด้วยเหล่าพนักงานที่จับเป็นกลุ่มเยอะกว่าทุกวัน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้สิ้นเดือน ห้องอาหารส่วนกลางแห่งนี้เลยกลายเป็นสถานที่สำคัญขึ้นมาในทันตาด้วยราคาอาหารที่ย่อมเยากว่าร้านอาหารรอบบริษัท ทยาดาไม่แปลกใจเพราะมันก็วนลูปแบบนี้เช่นทุกเดือน ในขณะที่ตัวเธอใช้บริการเป็นประจำ น้อยครั้งที่จะออกไปหาทานข้างนอกกับเพื่อน หรือไม่ก็ออกไปพบลูกค้านอกสถานที่ก็เท่านั้น
ฉะนั้นหลายๆ กลุ่มในบริษัทมักจะรู้ว่าโต๊ะหน้าร้านข้าวราดแกงจะเป็นโต๊ะประจำของเธอ นิสรา และนลินี ให้ความรู้สึกประหนึ่งสามสาวคนเด่นคนดังประจำโรงเรียนมัธยมอย่างไรอย่างนั้น
วันนี้เป็นทยาดาที่เคลียร์งานเสร็จก่อนใครจึงได้ลงมานั่งรอประจำที่ ระหว่างนั้นอีเมลส่วนตัวที่ใช้เฉพาะภายในบริษัทก็เด้งขึ้นมุมจอแท็บเลตเครื่องกะทัดรัด หญิงสาวไล่เปิดอ่านก่อนจะบันทึกนัดหมายลงปฏิทิน
‘พรุ่งนี้เวลาเก้าโมง มีประชุมใหญ่หัวหน้าแผนกทุกแผนกที่ห้องประชุมใหญ่’
“ห้องประชุมใหญ่ งั้นก็หมายถึงหัวหน้าแผนกทุกสาขาล่ะสิ” ทยาดาพึมพำ
เมื่อใดที่มีการเรียกประชุมที่ห้องใหญ่ เมื่อนั้น ‘สพล’ ก็ต้องมา บุคคลที่ทยาดามอบโล่น่ารังเกียจให้เป็นอันดับหนึ่ง แซงหน้ากรรมการเฒ่ารายนั้นเข้าไปอีก
คนที่ทำให้เธอโดนนินทาไปสามบ้านแปดบ้านว่าใจง่ายไปนอนให้ท่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแค่เพราะสพลมีโอกาสติดตามเข้ามาดูสินค้าที่สำนักงานใหญ่เมื่อต้นเดือน พอมาเจอเธอที่เพิ่งกลับจากนัดพบลูกค้าเข้าก็ตามมาตื๊อจนน่ารำคาญ แม้จะปฏิเสธไปแต่ข่าวก็กลายเป็นว่าเธอเล่นตัวกลบเกลื่อนเพราะอยู่ในเขตบริษัทเลยไม่กล้าเปิดเผย บ้างก็ว่าโดนเมียหลวงตาเฒ่าคนนั้นเล่นงานจนต้องหาเป้าหมายใหม่ เลยต้องทำตัวราวกับจับตัวเองใส่ตะกร้าล้างน้ำเข้าเสียหน่อยให้ดูมีราคา
ทยาดาแทบอยากจะจับคนต้นคิดกุข่าวมาตัดลิ้นทีละคน แต่ก็ยังจับไม่ได้เสียที จับได้แต่พวกลูกกระจ๊อกที่ไปฟังเขามาอีกที สาวไปไม่ถึงคนกุข่าวไม่พอ ไอ้คนที่พยายามอยากจะเป็นข่าวกับเธอก็ขยันสร้างเรื่องนัก
คำโบราณที่ว่าหมากัดอย่ากัดตอบ ทยาดาชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอควรจะเริ่มกัดตอบบ้างเสียทีดีไหม
นิสรากับนลินีตามมาพร้อมกับแก้วชาไข่มุกรสโปรดของทยาดา โบกไม้โบกมือให้อีกคนที่ก้มหน้าก้มตาเลื่อนนิ้วบนแท็บเลตไม่สนใจใคร
“อัพเดตข่าวกับเขาเหมือนกันเหรอ” นิสราตบบ่าทยาดาจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“มีอะไรให้อัพเดตอีก ก็แค่บันทึกนัดหมายการประชุมพรุ่งนี้เอง”
เพื่อนสาวชะโงกหน้าดู เห็นอย่างที่ทยาดาบอกว่ากำลังบันทึกนัดหมายจริงๆ ก็ได้แต่ทำหน้าเนือยๆ
“ตกข่าวตลอด” นิสราส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“เข้าเรื่องต่อจากเมื่อตอนเช้าดีกว่า” นลินีถือจานข้าวลงนั่งพร้อมกับเปิดประเด็นของเมื่อช่วงเช้าเสียเอง
“กรรมการบริษัทยอมรับว่าตอนนี้ถังแตก แล้วก็ได้น้องเลขาฯ เป็นเมียนานแล้ว ที่ต้องทำเพราะต้องเลี้ยงดูกันต่อไป”
ทยาดายิ้มมุมปาก สิ่งที่เธอคาดเอาไว้ในใจเงียบๆ คนเดียวไม่ผิดไปเลยแม้แต่น้อย “มีน้องแล้วล่ะสิ”
นลินีพยักหน้า
“มันก็มีอยู่แค่ไม่กี่เรื่องหรอกที่คนสองคนจะรวมหัวกันทำอะไรผิดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสองคนที่ทำงานอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แล้วทำงานกับคนพรรค์นั้นด้วยแล้ว ฉันสงสารน้องเลขาฯ คนนั้นมากกว่านะ ไม่รู้ว่าเต็มใจหรือโดนหลอก”
“อย่าเพิ่งสงสารอะไรมากเลย ฉันเองยังไม่มั่นใจว่าน้องเขาท้องกับอีตาลุงนั่นหรือกับใคร เพราะที่ยอมรับกันออกมาเหมือนน้องเขาทำท่าจะชิ่งตาลุงนั่นด้วยซ้ำไป” นลินีอธิบายถึงสีหน้าของอดีตเลขาฯ ที่ได้รู้ว่ากรรมการคนนั้นกำลังถังแตก