การรายงานผลประกอบการของสาขาภาคกลางจบลง ถึงคราวการรายงานผลประกอบการของสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีทยาดาเป็นผู้นำอยู่ ทำให้กวินเผลอส่งยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังลุกขึ้นรายงานโดยไม่รู้ตัว
วันนี้ทยาดามาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวคลุมด้วยสูทลายทางตั้งสีกรมกับกางเกงสแล็กส์ขายาวเข้ารูปสีเดียวกัน อวดสะโพกผายและเรียวขายาวที่รับกับส่วนสูงทั้งตัว ซึ่งเขากล้าพูดได้เต็มปากว่าเธอเหมาะกับการแต่งตัวสไตล์นี้มาก
ผมสั้นดำขลับตัดกับสีลิปสติกเฉดแดงบนดวงหน้าขาวนวลนั้นทำให้ทยาดาน่ามองยิ่งขึ้น ดวงตาเรียวเล็กที่แต่งแต้มให้ดูโฉบเฉี่ยว พอรวมกับท่าทางการรายงานที่กระฉับกระเฉงด้วยแล้วกวินก็แทบจะละสายตาจากเธอไปไม่ได้ ขนาดทยาดาอ่านรายงานไปตั้งหลายหน้าแล้วเขายังมัวมองแต่ริมฝีปากอวบอิ่มที่ยังคงพูดไม่หยุดอยู่เลย
“ต้องการให้นำเสนอแผนงานในไตรมาสสุดท้ายของปีหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามท่ามกลางความตั้งใจฟังของผู้ประชุมทุกคนในห้อง
หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มรายงานจากการที่ได้เห็นสายตาคมเข้มของกวินมองเธออยู่แทบจะไม่กะพริบหรือเปลี่ยนองศาไปไหน จ้องเอาเป็นเอาตายอะไรขนาดนั้น เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย
ทยาดารายงานไปพลางสำรวจความผิดปกติของตัวเองไปด้วย หลังจากที่รู้สึกว่ากวินชักจะมองกันนานไปแล้ว อีกทั้งแววตาที่ดูชื่นชมขนาดนั้นทำเอาเธอประหลาดใจ
“ต้องการไหมคะ” เธอเอ่ยถามอีกครั้งหลังจากเห็นเขานั่งเงียบไป
กวินเริ่มตื่นจากภวังค์ความคิดก็ตอนที่สบกับสายตาโฉบเฉี่ยวดูดุของเธอเข้าไป
“ครับ ถ้าเตรียมมาก็เริ่มเลย” เขาตอบพลางผายมือให้ทยาดาได้พูดต่อ
“เป้าหมายในไตรมาสสุดท้ายของปีสำหรับสำนักงานใหญ่จะไม่ใช่การเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการดูแลและบริการลูกค้าหลังการขาย เพื่อคงสภาพการใช้บริการของลูกค้าไว้ให้นานที่สุดและเตรียมตัวนำเสนอเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า” ทยาดานำเสนอไอเดียที่แปลกออกไป
“โดยเราจะหยุดอัพเดตผลิตภัณฑ์ตัวเก่าเพื่อปูทางให้ลูกค้าเปิดงบประมาณสำหรับการจัดซื้อครั้งใหม่ เพราะตอนนี้สินค้าที่จำหน่ายออกไปอยู่ในช่วงปลดระวางครบรอบสามและห้าปีตามลำดับ ซึ่งถ้ามีการจัดซื้อในหน่วยงานราชการ หากเราไม่เตรียมการไว้ก่อน การได้รับเงินจากลูกค้าก็จะล่าช้าไปอีก” เธอสาธยายระบบการทำงานของฝ่ายขายที่วางแผนเอาไว้อย่างเป็นขั้นตอน
“อีกอย่างปีนี้เป็นปีที่ผู้ผลิตต้นทางสร้างเทคโนโลยีตัวใหม่ขึ้นมาพอสมควร ดิฉันคิดว่าฝ่ายนำเข้าและฝ่ายบริการหลังการขายสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเทคโนโลยีตัวใหม่เพื่อรองรับกับการใช้งานอุปกรณ์ที่เรามีค่ะ” เป็นอีกครั้งที่ทยาดาจบการรายงานอย่างสวยงาม ท่ามกลางการพยักหน้ายอมรับในแนวคิดของคนทั้งห้องประชุม
“เป็นความคิดที่ดีมากครับ ผมค่อนข้างประทับใจที่การประชุมครั้งแรกในการเข้าทำงานของผมมีพนักงานที่ใส่ใจการทำงานถึงขนาดนี้” กวินกล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชม “ผมเชื่อว่าถ้าทีมนี้ทำได้ ทุกๆ ทีมก็คงมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน”
ถ้ามองไม่ผิดทยาดาเห็นเขาปรายตามองไปยังสพลที่แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังจับจ้องแต่เธอจนน่ารำคาญ ไม่ได้สนใจการประชุมตรงหน้าเลย เจอกันทีไรก็มีแต่เรื่องให้ขัดหูขัดตาเธอตลอด
ทยาดาเลือกก้มหน้าก้มตาจดบันทึกสิ่งสำคัญที่เป็นประโยชน์ให้ตัวเอง ตัดรำคาญสพลที่จ้องเหมือนเธอเป็นปลาสวยงามในตู้กระจกอยู่ตลอดเวลา อันที่จริงก็มีอีกคนมองมา แต่ก็น่ารำคาญน้อยกว่าสพลอยู่ดี
กวินพักเบรกการประชุมด้วยการปล่อยให้พนักงานออกไปยืดเส้นยืดสายก่อนจะกลับเข้ามาใหม่ เธอจึงรีบตรงไปยังมุมกาแฟทันที หลังจากที่นั่งฟังไปนานๆ ก็ชักจะเริ่มมีอาการง่วงนอนขึ้นมาครามครัน
“ชงให้เอาไหม ชอบอะไรล่ะ” น้ำเสียงคุ้นหูแต่ฟังดูน่าขยะแขยงดังขึ้นจากด้านหลังเธอราวกระซิบกระซาบอยู่ใกล้ๆ หญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหนีทันทีที่รู้ว่าสพลเข้ามาประชิดตัวเธอเกินไปแล้ว
“ไม่ต้อง ทำเองเป็น ไม่ได้เป็นง่อย” ทยาดาหยิบแก้วของตัวเองหนี ตักกาแฟสองสามช้อนและรินน้ำใส่อย่างลวกๆ ก่อนจะรีบออกไปจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่ทันสพลที่คว้าทั้งมือทั้งแก้วกาแฟเธอเอาไว้ทัน
น้ำร้อนในแก้วกระฉอกจนแทบจะลวกมือ และเกือบหกรดมาบนเสื้อของเธอ โชคยังดีที่หลบได้