ฮูหยินผู้เฒ่าลู่อดสงสารบุตรชายคนโตไม่ได้ กลัวว่าวันใดวันหนึ่งเขาอาจจะต้องรองรับอารมณ์จากคนของราชวงศ์
จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป ฮูหยินผู้เฒ่าลู่จึงเข้าใจว่าองค์หญิงใหญ่จิ้งอันเป็นคนแบบใดกันแน่
ตอนแรกที่เวินซื่อออกไปเลี้ยงรับแขกนอกบ้านมักจะมีคนชอบเอาฐานะบุตรสาวพ่อค้าของนางมาพูดล้อเล่นอยู่บ้าง เวินซื่อกลัวว่าบรรยากาศจะอึดอัดจึงไม่กล้าส่งเสียง พยายามอดทนไว้ บังเอิญครั้งหนึ่งถูกองค์หญิงใหญ่ได้ยินเข้า นางชักสีหน้าในทันที ขว้างถ้วยน้ำชาและดึงตัวเวินซื่อหมุนตัวเดินจากไป
บรรยากาศรอบข้างราวกับเย็นเป็นน้ำแข็ง
ระหว่างทางกลับองค์หญิงใหญ่จิ้งอันไม่ลืมที่จะตำหนินาง ‘น้องสามเป็นสามีภรรยากับเจ้ามานานหลายปี ไม่เคยพูดจารุนแรงแม้แต่ประโยคเดียว เหตุใดเจ้าออกมาข้างนอกยังต้องทนรับอารมณ์คนอื่นอีก เรื่องแบบนี้อดทนหนึ่งครั้งก็มีครั้งที่สอง เจ้าจะอดทนไปทุกครั้งเลยหรือ’
เวินซื่อไม่ตอบ ลังเลใจอยู่นานก่อนจะพูดอ้ำอึ้งว่า ‘ข้าก็กลัวว่าจะอึดอัด…’
ได้ยินคำพูดนี้แล้วองค์หญิงใหญ่ก็ขมวดคิ้วเรียว แค่นเสียงหัวเราะเยาะทีหนึ่งแล้วพูดว่า ‘น้องสะใภ้สาม ข้าจะบอกเจ้า ขอเพียงเจ้าไม่กลัวอึดอัด คนที่อึดอัดก็จะเป็นคนอื่น’
ภายหลังคำพูดนี้ไปเข้าหูของฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้นางหัวเราะอยู่นาน มิหนำซ้ำคืนวันนั้นกินข้าวเพิ่มขึ้นครึ่งชาม
หลังจากวันนั้นนางจึงยอมรับคำพูดของบุตรชายประโยคนั้นที่ว่านิสัยของจิ้งอันแม้จะเรียกไม่ได้ว่าอ่อนโยนเข้าอกเข้าใจ แต่การปฏิบัติต่อทุกคนในครอบครัวล้วนมีความจริงใจ สิ่งนี้สำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น
ทุกคนนั่งประจำที่ เสียงบรรเลงดนตรีโบราณดังขึ้น
ไม่นานอาหารก็มาครบ ทว่าทุกคนพากันหยุดตะเกียบและดูการแสดงของคณะละคร
ดนตรีเพลงหนึ่งจบลง หญิงสาวที่งดงามก็ถอยออกไปแล้วเปลี่ยนชุดประหลาดเข้ามาในห้อง บนตัวสวมเสื้อคลุมผ่าหน้า แขนเสื้อข้างหนึ่งยาวข้างหนึ่งสั้น การแต่งหน้าก็เช่นกัน ซีกหนึ่งวาดหน้าแต้มจุดไปทั่ว อีกซีกสะอาดสะอ้าน
ทุกคนกำลังรู้สึกแปลกใหม่ พากันพูดวิจารณ์
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นองค์หญิงใหญ่จิ้งอันกับลู่เยี่ยน ทั้งสองคนสายตาซับซ้อน หัวคิ้วขมวดแน่น แม้แต่มุมปากก็เม้มอย่างไม่รู้ตัว พอเห็นแล้วฮูหยินผู้เฒ่าก็พ่นหัวเราะออกมา
เซียวซื่อฮูหยินใหญ่ของบ้านรองเห็นอีกฝ่ายหัวเราะก็รีบถามว่า “ท่านแม่หัวเราะอะไรหรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ฉวยโอกาสตอนที่ท่าทางของทั้งสองคนยังไม่เปลี่ยนแปลงรีบกระซิบพูดกับเซียวซื่อ
เซียวซื่อฟังแล้วหันมองไป เห็นองค์หญิงใหญ่จิ้งอันกับบุตรชายของนางมีท่าทางเดียวกันนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาทันที
แม่ลูกคู่นี้ปกติเป็นคนช่างเลือกและปรนนิบัติได้ยาก ในจวนเจิ้นกั๋วกงไม่มีใครไม่รู้
ตอนนี้สายตาของเซียวซื่อเลื่อนไปอยู่ที่ตัวของเมิ่งซู่ซีก่อนจะกระซิบพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า “ลูกคิดว่ายายหนูสกุลเมิ่งนั่นหน้าตาไม่เลว ไม่มีที่ติอะไรเลย”
ฮูหยินผู้เฒ่ามองตามไปไกลแวบหนึ่ง