ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 10 บทที่ 751-752 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 10 บทที่ 751-752

4 of 4หน้าถัดไป

สตรีที่กำลังเดินมาอย่างแช่มช้าสวมเสื้อคลุมแขนกว้างสีแดงเข้มอันเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงศักดิ์ฐานะของฮูหยินท่านโหว มีผ้าคลุมไหล่สีเขียวแก่ปักลายไก่ฟ้าเดินเส้นนูนด้วยดิ้นทอง บนปิ่นมงกุฎที่สลักลวดลายซับซ้อนงามวิจิตรหรูหราตกแต่งด้วยไก่ฟ้าทองกระพือปีกคล้ายจะเหินบินขึ้น เครื่องแต่งกายตั้งแต่เรือนผมจรดปลายรองเท้าล้วนแผ่รัศมีสูงศักดิ์สง่างามอย่างที่ไม่อาจล่วงล้ำได้ ในดวงตาของเหล่านายหญิงตราตั้งไม่น้อยเผยแววริษยาออกมา

บุตรสาวสกุลหลีเพิ่งอายุเท่าไรเอง ได้ยินว่ายังไม่ปักปิ่นด้วยกระมัง แต่ได้สวมชุดราชสำนักประจำตัวฮูหยินท่านโหวมาถวายพระพรแล้ว ขณะที่บุตรสาวในวัยเดียวกับนางของจวนสกุลต่างๆ เพิ่งเริ่มตั้งต้นจากการเป็นหลานสะใภ้เท่านั้น

เฉียวเจาเดินไปถึงใกล้ๆ บริเวณที่จัดไว้ให้ฮูหยินท่านโหวทั้งหลายแล้วชะงักเท้าเล็กน้อย ขันทีน้อยที่นำทางนางกลับบอกอย่างยิ้มแย้ม “เชิญฮูหยินทางนี้ขอรับ”

ครั้นเห็นขันทีน้อยพานางไปตรงจุดที่ฮูหยินของท่านกั๋วกงซึ่งมีอยู่ไม่กี่ท่านรออยู่ บรรดานายหญิงตราตั้งเริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาๆ อย่างอดใจไม่อยู่อีก สายตาที่มองเฉียวเจาไม่อาจใช้คำว่า ‘อิจฉาริษยา’ มาบรรยายได้แล้ว

“เชอะ คนเรานี่แข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้จริงๆ ข้ายังคิดอยู่ว่าอายุเพียงสิบสี่สิบห้าก็ได้สวมชุดราชสำนักเช่นนี้แล้ว ไม่รู้ทำบุญมากี่ชาติ ผลปรากฏว่านางเก่งกาจกว่าที่เราคิดไว้”

ฮูหยินของท่านกั๋วกงเป็นเกียรติยศชั้นใดกันเล่า ลองดูฮูหยินของท่านกั๋วกงซึ่งยืนเข้าแถวอยู่ด้านหน้าของนายหญิงตราตั้งที่แก่ชราจนแทบเดินเหินไม่ไหวสามสี่ท่านแรกนั่นในโถงตำหนักก็จะรู้เอง

“ก็นั่นน่ะสิ ลองคิดถึงตอนพวกเราอายุสิบกว่าปีสิว่าเป็นอย่างไร ยังก้มหน้าเจียมตัวคอยปรนนิบัติรับใช้ท่านแม่สามีอยู่เลยนะ”

คนด้านข้างหลุดหัวเราะพรืด “ท่านยังดีกว่าข้านะ ตอนนั้นนอกจากท่านแม่สามีแล้ว ข้ายังต้องปรนนิบัติรับใช้ท่านแม่สามีของท่านแม่สามีอีกด้วย”

หวังซื่อฮูหยินของเสนาบดีศาลยุติธรรมยืนอยู่ในกลุ่มฮูหยินขั้นสามซึ่งปกตินับว่ามีศักดิ์ฐานะสูงส่ง แต่เพลานี้กลับไม่มีสิทธิ์นั่ง นางมองเฉียวเจาด้วยสีหน้าแววตาที่ปนเปไปด้วยความรู้สึกหลายหลาก

นางอยากขอให้หลีซื่อตรวจร่างกายลูกสะใภ้คนเล็กของตนมาโดยตลอด แต่ยังไม่สมดังใจปรารถนาเรื่อยมา บัดนี้หลีซื่อมีสถานะล้ำหน้าตนไปแล้ว อยากจะให้อีกฝ่ายตอบตกลงคงยากขึ้นไปอีก

ต้องคิดหาวิธีอะไรสักอย่างจึงจะดี หวังซื่อเค้นสมองขบคิดอย่างหนัก

“ไทเฮาเสด็จ…”

ภายในโถงตำหนักเงียบกริบทันใด ทุกคนลุกขึ้นยืน

ไทเฮาซึ่งห้อมล้อมด้วยข้าราชบริพารเดินเยื้องย่างออกมา เสียงดนตรีบรรเลงดังขึ้น นางเสด็จขึ้นแท่นประทับ นายหญิงตราตั้งทั้งหลายถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นเหล่านายหญิงตราตั้งเริ่มถวายแผ่นคำอวยพรโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ตามลำดับชั้นบรรดาศักดิ์

เฉียวเจากับฮูหยินของท่านกั๋วกงที่มีอยู่ไม่กี่คนยืนต่อแถวอยู่ด้านหลังองค์หญิงใหญ่ฉางหรงกับมู่หวังเฟยเท่านั้น ไทเฮาสังเกตเห็นนางอย่างรวดเร็ว

ไทเฮามองดูสตรีที่อ่อนวัยเหลือเกินในกลุ่มนายหญิงตราตั้งอย่างพินิจพิจารณาโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ สักนิด เห็นนางวางตัวได้เรียบร้อยเหมาะสมในทุกอิริยาบถจนจับผิดไม่ได้แม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังสุขุมเยือกเย็นยิ่งกว่านายหญิงตราตั้งหลายคนแล้วอดประหลาดใจไม่ได้

นางรู้แต่แรกแล้วว่าสตรีผู้นี้แตกต่างจากคนทั่วไปอยู่บ้าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาได้ไกลถึงจุดนี้

ถึงเป็นบุตรสาวของอาลักษณ์เล็กๆ ในสำนักราชบัณฑิต แต่คงมีกลเม็ดเด็ดพรายจริงๆ ถึงได้เกาะไม้ใหญ่อย่างกวนจวินโหวไต่เต้าขึ้นเป็นนางหงส์ได้ในชั่วข้ามคืน

ไทเฮาเก็บงำความไม่พึงใจในดวงตาไว้และเบนสายตาออกไปทางอื่นอย่างเงียบๆ

เมื่อไทเฮารับการถวายพระพรวันตรุษจากนายหญิงตราตั้งทุกคนเสร็จ เสียงดนตรีเทิดพระเกียรติดังขึ้น พระนางเสด็จเข้าสู่ด้านในของตำหนักและเรียกตัวนายหญิงตราตั้งเข้ามาสนทนากันตามลำพัง

การถวายพระพรวันตรุษเมื่อครู่นี้เป็นเพียงธรรมเนียมที่ทำกันมานานหลายปี แต่ตอนนี้ต่างหากถึงเป็นเวลาที่แสดงถึงความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อนายหญิงตราตั้ง หากไทเฮาเรียกตัวคนใดเข้าพบตามลำพัง ก็สามารถเชิดหน้าชูตาไปได้ทั้งปีเลยทีเดียว

พวกองค์หญิงใหญ่ฉางหรงได้เข้าไปก่อน ไม่นานนักขันทีอาวุโสไหลสี่ก็ขานบอกว่า “เรียกตัวหลีซื่อฮูหยินของกวนจวินโหวเข้าเฝ้า…”

 

 

* อักษร ‘ฝู’ หมายถึงโชคลาภ เนื่องจากคำว่า ‘เต้า’ (倒) ที่หมายถึงกลับหัว พ้องเสียงกับคำว่า ‘เต้า’ (到) ที่แปลว่ามาถึง ชาวจีนจึงมีธรรมเนียมติดอักษร ‘ฝู’ กลับหัวเพื่อสื่อความหมายว่าโชคลาภมาเยือน

** เหนียน เป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ หัวมีขนรุงรัง ดุร้ายเป็นอย่างมาก ทุกปีพอถึงวันสิ้นปีก็จะออกมาทำร้ายผู้คนและสัตว์เลี้ยง แต่มันกลัวสีแดง แสงไฟ และเสียงประทัด ดังนั้นทุกปีพอถึงวันสิ้นปี (คืนก่อนวันตรุษจีน) จึงมีธรรมเนียมจุดประทัดและแต่งกายด้วยสีแดง

* เฝ้าปี ชาวจีนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าในคืนสิ้นปีจะมีสัตว์ประหลาดชื่อว่า ‘เหนียน’ (แปลว่าปี) ออกมาทำร้ายผู้คน จึงไม่ยอมนอนในคืนนี้เพื่อรอขับไล่ตัวเหนียนไป กลายเป็นธรรมเนียมการอยู่โต้รุ่งตลอดคืน

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 27 .. 65 เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com