ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4

บทที่ 4

แม้ว่าซูกุยเยี่ยนยังเป็นเด็กหนุ่ม แต่มารดาด่วนจากไปทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าคนวัยเดียวกันมาก เขาเข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในถ้อยคำของพี่สาว ครั้นนึกถึงความลำเอียงของบิดาก็อดขมขื่นใจอยู่ชั่วขณะไม่ได้

ซูลั่วอวิ๋นคล้ายรับรู้ได้ถึงความหดหู่ใจของน้องชาย นางโอบกอดเขาไว้กับอกเหมือนสมัยเด็กๆ อย่างห้ามใจไม่อยู่ ลูบศีรษะเขาพลางกล่าว

“ตอนข้ากลับมาแรกๆ รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก รู้สึกเหมือนตกลงไปอยู่ในหุบเหวมืดสนิทไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปากชั่วชีวิต โชคดีที่ได้พบกับหย่งจิ้งซือไท่* ที่อาราม ท่านเกิดมาก็ตาบอด แต่กลับใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทุกประการ ข้าถามท่านว่าอดทนกับวันเวลาที่ไร้แสงสว่างนี้ได้อย่างไร ท่านกล่าวว่ามีแสงสว่างในใจจะพรั่นพรึงความมืดเบื้องหน้าไปไย”

แม้ว่าซูกุยเยี่ยนจะฉลาดหลักแหลม แต่พอได้ยินถ้อยคำนี้ของพี่สาวกลับไม่ค่อยเข้าใจนัก

ซูลั่วอวิ๋นกล่าวต่อไปว่า “เจ้าคือแสงสว่างในใจข้า ท่านแม่ด่วนจากไป พี่สาวคนโตเปรียบดั่งมารดา หากข้าไม่ลุกขึ้นสู้ วันหลังไปสู่ปรโลกคงสู้หน้าท่านแม่ไม่ได้ อีกอย่างก็เหมือนกับที่หย่งจิ้งซือไท่กล่าวไว้ ถึงข้าจะมองไม่เห็น แต่หูกับจมูกกลับฉับไวกว่าแต่ก่อน สวรรค์เปิดประตูอีกบานให้ข้า หากข้ามัวแต่สงสารเวทนาตนเอง นั่นต่างหากคือคนพิการตาบอดอย่างแท้จริง”

พอหวนนึกถึงตอนได้ข่าวว่าน้องชายป่วยหนักเมื่อหนึ่งปีก่อน นางอยู่ที่ชนบทร้อนใจจนแทบอยากติดปีกบินกลับไป แต่จนปัญญาจะทำอะไรได้ เวลานั้นซูลั่วอวิ๋นจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่านางจะใช้ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์ในชนบทต่อไปอีกไม่ได้ นางต้องกลับเมืองหลวงไปปกป้องน้องชายแท้ๆ เพียงคนเดียวของตนเองให้ดี

ทว่าผู้ดูแลเรือนหลังเก่าไม่ยอมปล่อยนางกลับไป เอาแต่บอกว่านายท่านกำชับไว้ หากไม่มีคำสั่งของนายท่าน คุณหนูใหญ่จะกลับเมืองหลวงตามลำพังไม่ได้

ในครั้งนั้นเพราะนางโกรธแค้นบิดาที่ลำเอียงเข้าข้างซูไฉ่เจียน จึงทะเลาะเบาะแว้งจนเข้าหน้ากันไม่ติด ซูหงเหมิงไม่อยากให้บุตรสาวคนโตกลับจวนสกุลซู ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าให้นางออกจากเรือนหลังเก่า

ครานี้ได้ยินว่าบิดาจะกลับมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษและฉลองวันปีใหม่ ซูลั่วอวิ๋นจึงเตรียมการไว้หลายอย่าง นางรู้นิสัยใจคอของบิดาดี บิดาเป็นคนกลัวเสียหน้า หากนางไม่แสดงท่าทีของบุตรสาวที่ดี บิดาต้องไม่ใจอ่อนอย่างแน่นอน

สิ่งที่นางต้องทำในขณะนี้คือกลับไปยังเมืองหลวงที่นางเคยพ่ายแพ้ราบคาบอีกครั้ง ช่วยให้น้องชายผ่านพ้นช่วงเวลาในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไปให้ได้ ภายภาคหน้าเมื่อเขาสอบขุนนางผ่านแล้วได้ไปเป็นขุนนางในเมืองอื่นที่อยู่ห่างไกล ย่อมตั้งตระกูลใหม่เองได้อย่างถูกต้องชอบธรรม

ถ้าน้องชายไม่อยากก้าวเข้าสู่เส้นทางขุนนาง ด้วยความเจ้าเล่ห์เจนจัดของติงซื่อ ต้องไม่มีทางให้เขาสืบทอดทรัพย์สมบัติของสกุลซูเป็นอันขาด ส่วนสินเดิมเจ้าสาวที่มารดาทิ้งไว้ให้พวกนางก็มีน้อยนิดเท่านั้น มิหนำซ้ำช่วงหลายปีหลังจากมารดาล่วงลับไปก็ไม่มีคนคอยดูแล แม้แต่ขอบเขตที่นาก็ถูกคนรุกล้ำเปลี่ยนสลับตำแหน่งจนหดหายไปไม่น้อย นางจึงต้องคิดหาวิธีดูแลให้งอกเงยออกดอกออกผล เพื่อนำมาเป็นเงินสร้างเนื้อสร้างตัวให้น้องชายสักก้อนหนึ่ง

อันที่จริงตาบอดก็มีข้อดีอยู่เช่นกัน เพราะเป็นการปิดประตูสู่การแต่งงานของนาง ตราบใดที่นางไม่ตอบตกลงและมีข้ออ้างว่าจะครองตัวเป็นสตรีไร้คู่จนแก่ตายคาเรือน นางก็สามารถทุ่มเทใจดูแลน้องชายได้

และเวลาสองปีที่ผ่านมานางลองผิดลองถูกจนหาทางรับมือกับการใช้ชีวิตได้แล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com