Jamsai
ทดลองอ่าน เกมล่าเดิมพันรัก บทที่ 3
บทที่ 3
ต้นไม้ในกระถางเล็กๆ บนเคาน์เตอร์ทำอาหารเหี่ยวแห้งใกล้ตาย
สองมือจับกันไว้ที่ท้ายทอย สองขาเกี่ยวที่บาร์เดี่ยว ทำท่าซิตอัพ ทุกครั้งที่เขายกตัวขึ้นจะมีเหงื่อไหลทะลักออกมามากมาย
กิ่งก้านสีเขียวเริ่มเหี่ยวเฉา เหมือนจะบอกว่าชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว จากไปซะยังดีกว่า
เขาไม่อยากจะสนใจต้นไม้เส็งเคร็งพวกนี้ แต่จะทำเป็นมองไม่เห็นพวกมันก็ไม่ได้ ทุกครั้งที่เดินมาตรงนี้ ใบที่แห้งเหี่ยวใบแล้วใบเล่ามักจะเตะตาเขา ทำให้มองเห็นต้นไม้เส็งเคร็งสามกระถางได้อย่างชัดเจน
ขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว เป็นปกติที่ดอกไม้ใบหญ้าพวกนี้จะตายในฤดูหนาว
เขาประสานมือไว้ที่ท้ายทอยแล้วยกตัวขึ้นอีกครั้ง ความไม่พอใจอัดแน่นอยู่เต็มอกขณะที่คิดว่าบ้านเรือของเขาไม่ใช่ห้องที่อบอุ่นอีกต่อไป
ใบไม้ที่เหี่ยวแห้งกลับเข้ามาอยู่ในสายตาของเขาอีกครั้ง มันยิ่งทำให้เขาโมโหมากขึ้นอีก
เขาควรจะทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้น แต่ตอนนั้นมันพวกมันยังมีชีวิตอยู่ แล้วมันก็อยู่ในที่ที่เหมือนกับว่ามันอยู่มาทั้งชีวิต เหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของมัน พวกมันอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่แล้ว จนทำให้เขาลืมไปเลยว่าเดิมทีที่เคาน์เตอร์ทำอาหารไม่มีกระถางต้นไม้พวกนี้
ก็เหมือนกับผู้หญิงบ้าคนนั้น
เขาพลิกตัวกลับลงมาจากบาร์เดี่ยวอย่างฉุนเฉียว เดินมาที่กระถางต้นไม้ หยิบขึ้นมาแล้วโยนทิ้งถังขยะ นาทีนั้นเองที่กลิ่นบางอย่างโชยจากกระถางต้นไม้ในมือ
มิ้นต์…
แล้วความทรงจำช่วงหนึ่งก็ส่งเสียงขึ้นมาในหัว
‘นี่คืออะไร’
‘ลูกอมมิ้นต์’
‘ลูกอม? ลูกอมคืออะไร’
‘ไม่รู้สิ’
‘ลองกินดูสิ อมนะไม่ต้องเคี้ยว’
เขายังจำท่าทางสงสัยของเธอได้ เธอจ้องมองเขาแล้วก็เอาลูกอมมิ้นต์ใส่เข้าปาก เพียงครู่เดียวใบหน้าเล็กๆ ก็แสดงสีหน้าตกใจสุดขีดพร้อมกับทำตาโตบอกเขาว่า
‘หวานจัง’
‘ชอบไหม’
‘อืม เย็นๆ นะ’
เธอพยักหน้า ริมฝีปากสีชมพูยกขึ้นเล็กน้อย
‘กระปุกนี้ยกให้คุณ’
ได้ยินแล้วเธอก็เบิกตาโตขึ้นไปอีก
‘กินลูกอมเยอะไม่ดีนะ จะทำให้ฟันผุ คุณกินลูกอมแล้วอย่าลืมแปรงฟันด้วยล่ะ’
เขาจำได้ว่าตัวเองไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ แต่อย่างว่านะ เธอก็ไม่รู้จะปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นอย่างไร ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จักเข้าหาคนอื่นแบบปกติเท่าไร
ด้วยเหตุนี้ลูกอมกระปุกนั้นจึงเป็นของเธอ
เธอชอบลูกอมกระปุกนั้น บางทีเขาเห็นเธอกอดกระปุกลูกอมไว้เหมือนกับกระรอกตัวเล็กๆ ที่กอดเมล็ดสนอย่างหวงแหน นั่งอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ กินลูกอมด้วยใบหน้าที่อิ่มเอม
เธอกินลูกอมมิ้นต์นั่นนานมากแล้วแต่ก็ยังไม่หมดสักที มีอยู่วันหนึ่งเขาถึงรู้ว่าไม่ใช่เธอว่าไม่ชอบกิน แต่เสียดายที่จะกินมัน
ตอนที่เหลือลูกอมอยู่ไม่กี่เม็ด เธอถึงขนาดแบ่งลูกอมไว้กินได้หลายๆ วัน ยิ่งตอนที่เขารู้ว่าเธอคายลูกอมออกแล้วห่อมันไว้ในกระดาษเพื่อจะได้เอากลับมากินในวันถัดไป เขารีบซื้อกระปุกใหม่มาให้เธอ
เดิมทีเขาคิดจะให้สักโหล แต่เขากลัวว่าจะทำให้เธอตกใจ ในสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตขึ้นมา ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ของทุกอย่างมีราคาของมัน
ตอนที่เธอพบว่ามีลูกอมมิ้นต์เต็มกระปุกนั้น เขาได้เห็นใบหน้าเล็กๆ สว่างไสวขึ้นมา
‘ลูกค้าให้มา ของขวัญคริสต์มาสน่ะ’
เขาบอกเธออย่างนั้น
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เธอก็ยังค่อยๆ กินมันอย่างระมัดระวัง ต่อมาเมื่อเธอกินลูกอมในกระปุกเดิมหมด เธอถึงจะเปิดลูกอมกระปุกใหม่
เขาคิดว่าเธอทิ้งกระปุกลูกอมเก่าไป จนกระทั่งตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเธอไม่ได้ทิ้งมันไปเลย เธอเอากระปุกเซรามิกใบเก่ามาปลูกต้นมิ้นต์
ก้มหน้ามองกระปุกเซรามิกในมือกับต้นมิ้นต์ใกล้จะตายนั่น เขาเม้มปากแน่น หางตากระตุกเล็กน้อย เหมือนกับเขาเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้ ใช้ใบไม้สดๆ จากกระถางมาทำน้ำมะนาวมิ้นต์ แสงแดดส่องผ่านช่องรับแสง สาดส่องไปที่ตัวของเธอ สายลมอ่อนๆ พัดมาที่ใบหน้าอันสงบของเธอ
เขาวางกระถางมิ้นต์ลง ยื่นมือออกไปดึงลิ้นชัก กระปุกลูกอมมิ้นต์ยังวางอยู่ที่นั่น
ลูกอมของเธอ
เขาให้เธอปีแล้วปีเล่า
เธอชอบกินลูกอมมาก แต่ก็กินมันอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอม กระปุกนี้เป็นกระปุกที่สี่ ส่วนสามกระปุกเก่านั้นวางอยู่ที่เคาน์เตอร์ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ไม่ซ้ำกัน
มิ้นต์ โหระพาฝรั่ง โรสแมรี่
‘เพราะมันกินได้’
เธอพูดอย่างนั้น
เขารู้ว่าเธอชอบมิ้นต์มากที่สุด ชอบที่มันเย็นสดชื่น ชอบที่มันหอมสดชื่น เขารู้ว่าสำหรับเธอแล้วนั้น…นั่นคือกลิ่นของความเป็นอิสระ
เขาจ้องมองกระปุกลูกอมนั่นก่อนเอากระถางมิ้นต์วางลงในอ่างล้างจาน เปิดก๊อกน้ำจนกระทั่งน้ำท่วมกระถางมิ้นต์
เขาหยิบกระปุกลูกอมในลิ้นชักออกมา เปิดฝาออกดูพบว่ายังเหลือลูกอมอยู่อีกครึ่ง
เธอค่อยๆ กินลูกอมเพราะกลัวว่ามันจะหมด มันคือเมล็ดสนของเธอ เป็นสิ่งมีค่าของเธอ
เขาหยิบลูกอมออกมาหนึ่งเม็ด อมเข้าในปาก
…หวานมาก
เขาคิดแล้วเขาก็หยิบกระถางอีกสองใบเล็กวางลงไปในอ่างล้างจาน
ตอนที่เพิ่งรู้จักกับเธอนั้น เขาเคยสงสัยว่าเธออาจจะเป็นมนุษย์จักรกลที่นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องสร้างขึ้นมา เพราะเธอช่างเหมือนกับมนุษย์จักรกลที่ไร้ความรู้สึก
…เธอมีความรู้สึก
เขาคิดว่าเธอไม่ใช่คนที่ชอบคิดเรื่องเก่าๆ
…แต่เธอชอบคิดเรื่องเก่าๆ
เขาใช้นิ้วคลึงลวดลายบนประบุกในมือเบาๆ อย่างเผลอไผล
เธอไม่น่าจะลืมเอากระปุกลูกอมอันแสนมีค่านี้ติดตัวไปด้วย มันยังเหลืออีกตั้งครึ่งนะ
อยู่ๆ หัวใจเขาก็เต้นแรงและเร็วขึ้น
เขาดูบันทึกในกล้องวงจรปิด เธอเต็มใจจะจากไปพร้อมกับหานอู่ฉี
เขาโมโหมากที่อยู่ๆ เธอก็จากไป เขายังเห็นอีกว่าก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะจากไปยังทำอาหารแล้วกักตุนเสบียงกับของใช้ไว้เต็มเรือ
เขาจับกระปุกลูกอมขณะที่สมองทำงานอย่างรวดเร็ว
เธอจากไปแล้ว จากไปพร้อมหานอู่ฉี แม้แต่สร้อยข้อมือที่เขาให้เธอก็ถอดทิ้งไว้ แต่เธอคงคิดว่าจะไปไม่นาน ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่ทิ้งกระปุกลูกอมไว้ และคงไม่ไปซื้อของใช้ในบ้าน คงไม่ช่วยจัดการตุนเสบียงอาหารไว้ให้เขา
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วทำไมผ่านมาเดือนกว่าเธอก็ยังไม่กลับมาอีก
ฉับพลันก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในสมอง ถึงกับทำให้เขาขนหัวลุก
สร้อยข้อมือ สร้อยข้อมือที่เธอปลดมันออกมา หากเธอแค่ไปช่วยเหลืองานของเรดอายชั่วคราว เธอก็ไม่จำเป็นต้องปลดสร้อยข้อมือนั่น
บ้าเอ๊ย!
เขาคงออกจากเรดอายมานานจนลืมไปว่าเมื่อถึงเวลาจำเป็น คนแซ่หานนั่นเลือดเย็นมากแค่ไหน
เขาวางกระปุกลูกอมลง รีบกลับเข้าไปในห้องหาพาสปอร์ตตัวเอง คว้ากระเป๋าเดินทาง มุ่งหน้าไปดาดฟ้าเรืออย่างรีบร้อน ก่อนที่จะออกไปเขาหันกลับมามองเคาน์เตอร์ทำอาหาร เดินกลับไปหยิบกระปุกลูกอมยัดเข้าไปในกระเป๋าเดินทาง แล้วจึงโทรศัพท์เพื่อจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมกับก่นด่าตัวเองในใจ
บ๊าเอ๊ย! เขาหวังว่าตัวเองจะไปทัน!