หากคุณประฮิมยังคงยืนยันเจตนาเดิม “ไม่ต้องเกรงใจหรอกชารีฟ และอีกอย่างที่ลุงให้จิน่าไปด้วยเนี่ย ก็อยากจะรบกวนชารีฟด้วย”
“เรื่องอะไรหรือครับ” ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ
“ก็อยากจะให้ช่วยบรีฟงานที่เราประชุมกันเช้านี้ให้จิน่าที เพราะตอนเย็นเราต้องประชุมกันอีก แล้วก็ไม่มีใครว่างจะบรีฟให้เธอฟังเสียด้วย” ตอบแล้วก็หันไปทางบุตรสาวที่นั่งหน้างออยู่ “ลูกบอกว่าจะเข้าประชุมเย็นนี้ จะเข้าประชุมทั้งๆ ที่ไม่รู้ความคืบหน้าอะไรได้ยังไง จริงไหมจิน่า”
เจอไม้นี้เข้าคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่น หลังจากนั่งคิดหนักอยู่เกือบนาทีเต็มแล้วหาเหตุผลมาโต้แย้งไม่ออก ฮะจิน่าก็เลยตกลงรับคำ
“ก็ได้ค่ะ ไปกันเลยไหมล่ะคะ” หญิงสาวหันไปถามลูกทัวร์จำเป็นของเธอด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมกับลุกขึ้นไปคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็กมาสะพายเอาไว้
ชารีฟมองคนที่จะมานำทางตลอดบ่ายนี้ด้วยความหนักใจหากสีหน้ายังคงเรียบเฉย กล่าวขึ้นเรียบๆ “ผมไม่รีบร้อนอะไรนี่ครับ บางทีคุณอาจจะอยากไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยก่อน”
หากดวงหน้าใสนั้นเชิดไปอีกทาง “ฉันจะไปของฉันอย่างนี้ละค่ะ หรือว่าคุณรังเกียจ”
คนถูกถามเอ่ยปากขอตัวกับผู้ร่วมโต๊ะคนอื่น ลุกขึ้นยืนเป็นคำตอบ พยักหน้าเป็นเชิงให้เธอนำทาง ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้งให้เธอเดินนำไปโดยไม่พูดอะไรอีก
…รังเกียจน่ะไม่รังเกียจหรอก เพียงแต่เขาตั้งใจเตือนด้วยความหวังดีแท้ๆ อากาศข้างนอกค่อนข้างอุ่นและเวลาบ่ายแก่ๆ อย่างนี้ถ้าแดดจัดคงจะร้อนเชียวละ ไม่ได้มีแอร์เย็นฉ่ำเหมือนในนี้ ตัวเธอเองนั่นละที่จะคันยิบเพราะเหงื่อไคล แต่ก็ช่างปะไร…
เมื่อมั่นใจว่าสองหนุ่มสาวเดินลับไปแล้วอาเดย์ก็หันไปทางบิดา ถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ “พ่อมีแผนอะไรหรือครับ”
“เปล่าสักหน่อย” ผู้เป็นบิดาตอบก่อนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี แววตาเป็นประกายขบขัน
“อย่าปิดกันเลยครับ ผมรู้ว่าพ่ออยากได้ชารีฟมาเป็นลูกเขย” เรียอาร์ทเสริมขึ้นมาบ้างพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบาย
“แล้วเราสองคนไม่อยากให้น้องแต่งงานกับคนดีๆ หรอกหรือไง อายุก็ตั้งยี่สิบสี่เข้าไปแล้ว”
ลูกชายคนโตหัวเราะ “บางทีผมยังนึกว่าน้องอายุสักสิบห้า”
“ก็นั่นละ มีแฟน แต่งงานเสียจะได้เป็นผู้ใหญ่เสียที แม่เขาก็เป็นห่วง…ว่าแต่ลูกสองคนเถอะจะสนับสนุนรึเปล่า”
“ผมไม่ค้านหรอกครับสำหรับชารีฟ” อาเดย์ตอบ
“ถ้าเขาจะรักจิน่าล่ะก็นะ” เรียอาร์ทเติม
“พ่อถึงอยากให้ลูกช่วยกันด้วยไงล่ะ”
เรียอาร์ทขยับตัวนั่งตรง เท้าคางมองบิดาตาใสอย่างนึกสนุกไปด้วย “จะให้ช่วยยังไงล่ะครับ ออกนอกหน้ามากไม่ได้แน่ ถ้าจิน่ารู้ตัวเธอจะยิ่งหนี ยิ่งเกเรเข้าไปใหญ่”
“นั่นสิ…จำคราวที่แล้วได้ไหมครับ จิน่าป่วนการดูตัวซะยุ่ง” อาเดย์ยิ้มขันเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน
“ก็ต้องค่อยๆ ทำสิ ยังไงก็ดูสถานการณ์วันนี้ก่อน ลูกสองคนคอยร่วมมือก็แล้วกัน พยายามให้พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากๆ หน่อย ไหนๆ การีมก็ส่งลูกพี่มาให้ถึงที่แล้วนี่” คุณประฮิมตอบยิ้มๆ ภายในใจวาดหวัง
เรียอาร์ทหัวเราะออกมาเต็มที่จนลักยิ้มข้างซ้ายบุ๋ม พูดอย่างติดตลกว่า “งานนี้กามเทพคงจะเวียนหัวแน่นอน”
ติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.