นายตำรวจเดินตามครูผู้ช่วยไปถึงห้องครัวของสถานสงเคราะห์ แม่ครัวกำลังจัดเตรียมอาหารว่างสำหรับเด็กเล็กอยู่ โอบเกียรติกับอาสดาไม่ได้เดินเข้าไปถึงก้นครัวแต่รอให้ครูผู้ช่วยตามแม่ครัวที่ชื่ออุ๊ออกมาหา ไม่นานหญิงร่างท้วมซึ่งมีอายุอ่อนกว่าผู้อำนวยการไม่กี่ปีก็โผล่ออกมาจากห้องครัวด้วยสีหน้าขาวซีด อาสดาพยายามยิ้มให้แล้วรอให้เธอเดินมาหา เขาผายมือให้เธอนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ เพื่อพูดคุยกัน
“ป้าอุ๊ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ ครูบอกว่าคุณตำรวจต้องการพบป้าเหรอคะ”
“ใช่ครับ ผมรู้มาว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาป้าที่นี่”
“คุณตำรวจหมายถึงอิ๋วเหรอคะ”
อาสดาควักรูปถ่ายขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม “คนนี้ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เธอชื่ออิ๋ว เคยเป็นเด็กของที่นี่”
“แล้วเขามาหาป้าเมื่อไร”
“เมื่อวานนี้ค่ะ”
“มาทำไมครับ”
“เอ่อ…” นางดูอึกอัก
“บอกมาเถอะครับป้า เราต้องการตามหาเธอ ตอนนี้เธอมีคดีติดตัวอยู่”
“มิน่าล่ะ ดูเศร้าเหลือเกิน”
“ว่าไงครับ เธอมาหาป้าทำไม”
“เธอมาฝากจดหมายไว้ให้พี่ชายของเธอค่ะ”
อาสดาหันไปสบตากับโอบเกียรติ แล้วกลับมาสนใจแม่ครัวอีกครั้ง “เราขอดูจดหมายฉบับนั้นได้ไหม”
ป้าอุ๊หลบสายตา ท่าทางจะไม่ยอมง่ายๆ โอบเกียรติจึงต้องพยายามโน้มน้าวหญิงสูงวัย
“เธอก่อคดีไว้นะครับ ถ้าป้าพยายามช่วยเธอก็อาจจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดได้”
เธอใช้เวลาตัดสินใจอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อผ้าฝ้ายลายลูกไม้ตัวโคร่ง ซองจดหมายยับยู่ยี่ซองหนึ่งถูกดึงออกมา สงสัยว่ามันจะอยู่ติดตัวป้าอุ๊ตลอดเวลา อาสดาเป็นคนรับมาแล้วเปิดอ่านทันที
“พี่โอ่ง…ฉันอยู่ที่โรงแรมกนกกร อิ๋ว”
“กนกกร…เราเพิ่งขับรถผ่านมานี่ ใกล้ๆ นี่เอง รีบไปกันเถอะ”
“เดี๋ยว ผมอยากคุยกับป้าซักนิด” อาสดาหันกลับไปหาแม่ครัวอีกครั้ง “พี่ชายของอิ๋วเคยอยู่ที่นี่เหมือนกันใช่ไหมป้า”
“เคยค่ะ แต่นานมาแล้ว สองคนนี้ถูกจับแยกกัน เพราะพ่อแม่อุปถัมภ์อยากได้แต่เด็กผู้ชาย ไม่อยากได้ผู้หญิง อิ๋วโตมาโดยที่ไม่รู้จักพี่ชายของตัวเองมาก่อน”
“แล้วป้ารู้ไหมว่าตอนนี้เธอท้องอยู่”
“ท้องเหรอคะ” แม่ครัวส่ายหน้าแล้วความคิดแรกที่เข้ามาในหัวก็สั่งให้เธอพูดมันออกมา “เธอท้องกับใคร”
อาสดาก็นึกแปลกใจไปด้วย “ผมไม่ทราบ ตอนนี้ต้องพยายามตามหาตัวเธอให้พบก่อน แล้วพี่ชายของเธอก็เสียชีวิตแล้วนะครับ”
ป้าอุ๊น้ำตาซึมทันที “โอ่งตายแล้วเหรอเนี่ย อิ๋วบอกกับป้าว่าเหลือพี่ชายคนเดียว เธอรอให้เขามารับ คุณตำรวจคะช่วยตามหาเธอให้พบหน่อยเถอะ ป้ากลัวว่าเธอรู้เรื่องที่พี่ชายของเธอตาย เธออาจจะคิดสั้นก็ได้ เขาสองคนเพิ่งพบกันได้ไม่นาน”
“ป้ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ”
“ค่ะ อิ๋วเพิ่งบอกป้าเมื่อวานว่าเธอพบพี่ชายโดยบังเอิญ แต่ตอนนี้ต้องมาพลัดพรากกันอีก ป้าเลยยอมรับจดหมายฉบับนี้ไว้เผื่อว่าพี่ชายของเธอจะตามมา”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากนะครับป้า เราอาจจะต้องกลับมาคุยกับป้าอีก แต่ตอนนี้เราต้องรีบไปก่อนครับ”
โอบเกียรติพูดเร็วๆ แล้วฉุดไหล่ของอาสดาให้ลุกขึ้นเพื่อกลับไปที่รถ
“ทำไมเราต้องสนใจอดีตของคนร้ายด้วย หน้าที่เราคือจับคนผิดมาลงโทษ!” โอบเกียรติกระชากรถออกจากที่จอดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“สารวัตรหัสสอนพวกเราว่าถ้ารู้จักคนร้ายอย่างดีจะเข้าใจได้ง่ายว่าทำไมพวกเขาจึงลงมือทำสิ่งเหล่านั้นครับ”
โอบเกียรติยังไม่สงบ เขายังคงขับรถกระโชกโฮกฮากบนท้องถนน
“คิดดูสิครับถ้าเราไม่เรียนรู้หรือศึกษาพฤติกรรมของคนร้ายที่ปล้นธนาคารทั้งสองคน เราก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขายังมีคนคอยช่วยเหลืออยู่อีก อย่างน้อยก็สองคน”
นั่นเป็นความจริงที่โอบเกียรติเถียงไม่ได้ สิ่งที่หน่วย NIC สังเกตเห็นจากกล้องวงจรปิดทำให้พวกเขามาไกลจนถึงตอนนี้ อาสดาเห็นป้ายของโรงแรมขนาดเล็กอยู่เบื้องหน้าแล้ว มันเป็นตึกสูงสามชั้น สีน้ำตาลกระดำกระด่าง สภาพค่อนข้างทรุดโทรม ข้างบนดาดฟ้าของตึกมีแท็งก์น้ำสีเงินวาวตั้งอยู่เรียงกันห้าถัง
“เอ๊ะ นั่น….”
“อะไร”
“คนรึเปล่า หน้าถังน้ำบนดาดฟ้า”
ผู้หญิงร่างบางใส่ชุดสีขาวทั้งชุดกำลังยืนอยู่ริมดาดฟ้าน่าหวาดเสียว โอบเกียรติเห็นแล้วจึงรีบเลี้ยวรถเข้าไปยังซอยเล็กๆ เพื่อไปให้ถึงสถานที่แห่งนั้นโดยเร็ว
“ท่าจะไม่ดีแล้ว โทรเรียกหน่วยกู้ภัยใกล้ที่สุดเร็ว”
“ครับ”
อาสดาควักโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาแล้วกดหาปารุสก์
“มีอะไรครับพี่”
“ติดต่อหน่วยกู้ภัยที่ใกล้โรงแรมกนกกรที่สุด ให้เขาเอาเบาะลมมาด้วย มีคนยืนอยู่บนดาดฟ้า ตอนนี้เลย”
“รับทราบ ผมจัดการให้ ได้เรื่องแล้วจะโทรกลับครับ”
โอบเกียรติหาที่จอดรถได้พอดี เขาต้องจอดฝั่งตรงข้ามของโรงแรมแล้วคนทั้งคู่ก็ข้ามถนนไปยังลานจอดรถ มีผู้คนกลุ่มเล็กๆ ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ทุกคนเอามือป้องหน้าเพื่อมองขึ้นไปบนดาดฟ้า
“เกิดอะไรขึ้นครับ” อาสดาถามรวมๆ
“นังหนูนั่นขึ้นไปอยู่บนตึกได้สักพักแล้ว คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็น เขาบอกว่านังหนูนั่นขยับออกมาเรื่อยๆ”
“ดูไม่ดีแฮะ” โอบเกียรติก็คิดอย่างเดียวกัน “ผมเป็นตำรวจนะ จะขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ยังไงใครรู้บ้าง”
“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรมครับ” ผู้ชายร่างผอมคนหนึ่งแสดงตัว “ผมพาขึ้นไปได้”
“งั้นผมขึ้นไปเอง” อาสดาอาสา “สารวัตรรอรถของหน่วยกู้ภัยอยู่ตรงนี้แหละ เผื่อต้องประสานงาน”
“โอเค”