อาคารสามชั้นไม่มีลิฟต์ อาสดาต้องวิ่งตามเจ้าหน้าที่โรงแรมขึ้นบันไดไป ในระหว่างที่จะขึ้นชั้นสองปารุสก์ก็โทรกลับมารายงานความคืบหน้าว่าเขาติดต่อขอความช่วยเหลือไปทางหน่วยกู้ภัยเรียบร้อยแล้ว และพวกเขากำลังจะมาถึงที่เกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตคนตกจากที่สูง อาสดาวิ่งไปพลางก็ถามเจ้าหน้าที่ไป
“ผู้หญิงคนนั้นพักอยู่ที่นี่รึเปล่า”
“พักครับ มาเช็กอินได้หนึ่งคืนแล้วแต่บอกว่าจะอยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนด จ่ายเงินไว้ก้อนใหญ่เลยครับ ไม่รู้มีปัญหาอะไรจู่ๆ ก็ทำอย่างนี้”
ทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่บอกมันเข้าเค้าว่าจะเป็นคนที่เขาตามหา อาสดาจึงหยุดวิ่ง
“เดี๋ยวก่อน ฉันอยากให้นายดูว่าใช่ผู้หญิงคนนี้รึเปล่า”
ชายหนุ่มหันหลังกลับมาดูภาพที่อาสดายื่นให้แล้วพยักหน้า “ใช่ครับใช่”
“ซวยแล้ว” อาสดาสบถแล้วยกโทรศัพท์โทรหาหัสยุทธ “หัวหน้า”
“มีอะไร ผมเพิ่งเสร็จธุระจากธนาคาร”
“ผมพบวิไลแล้ว เธอกำลังจะฆ่าตัวตาย”
“อยู่ที่ไหน”
“โรงแรมกนกกรไม่ไกลจากสถานสงเคราะห์ ผมกำลังจะขึ้นไปช่วย”
“นายแก้ปัญหาไปก่อน ผมจะพยายามไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด”
“ครับ” อาสดาวางหูแล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดต่อ
สายลมร้อนผะผ่าวพัดกระทบผิวหน้าและผิวกาย แต่วิไลก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับมัน น้ำตาของเธอเหือดแห้งไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน เหลือแค่เพียงความทรงจำที่ตอกย้ำว่าเธอมีค่าแค่ไหนบนโลกใบนี้
…เกิดมาพ่อแม่ก็ไม่ต้องการ ถูกทิ้งให้ต้องระเห็จมาอยู่ในสถานสงเคราะห์ อยู่มาไม่กี่ปีพี่ชายแท้ๆ ก็ถูกจับแยกออกไปเพียงเพราะมีคนต้องการเขา แต่ไม่ได้ต้องการเธอด้วย ตอนนั้นเธอยังไม่มีโอกาสจดจำเขาเลยด้วยซ้ำ
ทนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านสงเคราะห์อย่างห่อเหี่ยวสิ้นหวัง พยายามเท่าไรก็ไม่ได้เป็นที่รักของใครสักคน เธอเติบโตขึ้นมาเพียงแค่ร่างกาย แต่จิตใจกลับตายไปตั้งแต่ยังเล็ก
ชีวิตนอกสถานสงเคราะห์ยิ่งน่ากลัวกว่าข้างใน เธอรู้เมื่อได้เผชิญกับนรกอยู่เกือบสองปี แล้วในที่สุดสวรรค์ก็ส่งผู้ชายที่ดีที่สุดมาให้ เขากลายเป็นทุกอย่าง…เป็นเหมือนเพื่อนที่มีอดีตไม่ต่างกัน เป็นดังพี่ที่คอยปกป้องคุ้มครองภัย และในที่สุดก็เป็นสามีที่เธอพร้อมจะพลีกายถวายชีวิตให้
เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่เมื่อเธอบอกเขาว่าเธอท้องแล้วเขามีความสุข เขาไม่เหมือนผู้ชายหลายคนที่ผ่านมา ที่ไล่ให้เธอไปทำแท้งตั้งแต่อายุครรภ์ไม่ถึงสี่สัปดาห์ เขาสัญญาว่าจะสร้างอนาคตใหม่กับเธอ หากไม่ต้องรับรู้ว่าเขามีสายเลือดเดียวกันคงจะดีกว่านี้
…แต่เมื่อไฟราคะโหมกระหน่ำแล้วมันจะไม่มีวันดับมอด
มนุษย์พยายามหาเหตุผลมาตอบการกระทำของตัวเอง
หากบาปของคนอยู่ที่ตัวเราเองก็ไม่จำเป็นที่คนอื่นต้องรับรู้…
เธอพยายามไม่คิดถึง พยายามไม่ใส่ใจ พยายามไม่ยอมรับ ให้เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาที่รักเธอ ไม่ใช่พี่ชายที่มีสายเลือดเดียวกันกับเธอ โลกอยากเล่นตลกเอง ให้พวกเขาเกิดมาด้วยกันแล้วจับแยกออก จากนั้นก็ให้พวกเขาโคจรมาพบกันอีก ถ้าจะโทษก็โทษโลก โทษชะตากรรมเถอะ
วิไลเห็นนามสกุลเขาครั้งแรกในตอนที่เขาพาไปฝากครรภ์ในคลินิก เธอนอนกับผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้นามสกุลของเขามาก่อน เธอปล่อยให้ความรู้สึกมาเป็นคำตอบของความรักมากกว่าความเป็นจริงและเหตุผล ผู้หญิงที่มีแค่ตัวเป็นสมบัติชิ้นเดียวในโลกยอมทอดกายให้กับคนที่เธอพึงพอใจและรู้สึกอบอุ่นโดยไม่เอะใจเลยว่านั่นคือพี่ชายของตัวเอง!
เธอเคยรู้จากป้าอุ๊มาบ้างเรื่องพี่ชายของเธอ แต่ตอนนั้นเธอยังเล็กมาก จึงไม่มีความผูกพันกับเขา เธอลืมเขาไปจากความทรงจำ และด้วยความที่ไม่ผูกพันกับครอบครัวเพราะตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กเสียแล้ว ไม่เคยสนใจอดีต และไม่เคยคิดตามหาพี่ชายร่วมสายเลือด มันจึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น วินาทีที่เห็นสามีนามสกุลเดียวกันนั้นโลกตรงหน้าก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี เธอหนีออกมาจากคลินิกโดยที่ไม่ยอมตรวจ เพราะเธอกลัวคนอื่นรู้ว่าพ่อของเด็กในท้องอาจเป็นพี่ชายของเธอเอง
วัลลภคาดคั้นให้เธอพูดถึงเหตุผลที่เธอหนีออกมา วิไลเล่าเรื่องของเด็กผู้หญิงที่ถูกทิ้งไว้ในสถานสงเคราะห์ ในขณะที่พี่ชายของเธอถูกขอไปเลี้ยง วัลลภเล่าเรื่องของเด็กผู้ชายลูกคนเดียวที่นามสกุลแตกต่างจากพ่อแม่ว่าเขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพ่อแม่ แต่เขาไม่เคยรู้ว่ามีน้องสาวอีกคนบนโลกใบนี้ และพ่อแม่บุญธรรมก็ยังหย่าขาดกันให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าผู้มีแต่ปัญหาอีก คนทั้งคู่เพิ่งมีโอกาสรู้ถึงชีวิตในอดีตของกันและกัน ทำไมไม่คิดจะถามกันให้เร็วกว่านี้ เร็วกว่าสัญชาตญาณดิบที่ผลักดันให้ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันจนเกิดตั้งครรภ์